ธุรกิจการตลาด

EGCO ทุ่ม 6,800 ล้าน ลงทุนธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานในอินโดฯ ถือหุ้น 30%

13 ธ.ค. 66
EGCO ทุ่ม 6,800 ล้าน ลงทุนธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานในอินโดฯ ถือหุ้น 30%

บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป ได้เข้าซื้อหุ้น 30% ในบริษัทโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค ซื้อหุ้นเพิ่มทุนกับบริษัท พีที จันทรา ดายา อินเวสตาสิ (CDI) ในวันที่ 12 ธันวาคม 2566 เพื่อเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 30% ของ CDI โดยมีมูลค่าการลงทุน 194 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 6,800 ล้านบาท) 

EGCO

โดย CDI เป็นในเครือบริษัท พีที จันทรา อศรี ปิโตรเคมีคอล ทีบีเค กรุ๊ป (CAP) ผู้นำในธุรกิจเคมีและโครงสร้างพื้นฐานในประเทศอินโดนีเซีย  ซึ่งคาดว่าการซื้อขายหุ้นจะสำเร็จภายในสิ้นปี 2566 หลังจากดำเนินการตามเงื่อนไขต่าง ๆ ในการปิดรายการซื้อขายแล้วเสร็จจะสามารถรับรู้รายได้ทันที

การเข้าถือหุ้นครั้งนี้ เป็นการเปิดโอกาสให้เอ็กโก กรุ๊ป ร่วมเป็นเจ้าของโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคที่มีศักยภาพในประเทศอินโดนีเซีย ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ 2 แห่ง โรงงานผลิตและบำบัดน้ำ รวมทั้งท่าเทียบเรือและ คลังเก็บผลิตภัณฑ์เคมี

EGCO

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป เผยว่า “บริษัท ฟีนิกซ์ เพาเวอร์ บี.วี.ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่เอ็กโกถือหุ้นทั้งหมดและจดทะเบียนในประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้ลงนามในสัญญาซื้อหุ้นเพิ่มทุนกับบริษัท พีที จันทรา ดายา อินเวสตาสิ (CDI) ในวันที่ 12 ธันวาคม 2566 เพื่อเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 30% ของ CDI โดยมีมูลค่าการลงทุน 194 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 6,800 ล้านบาท)” 

อย่างไรก็ตาม CDI เป็นบริษัทย่อยในเครือ CAP ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านเคมีและสาธารณูปโภคแบบครบวงจรรายใหญ่ที่สุด   ในประเทศอินโดนีเซีย 

โดย CDI เป็นบริษัทลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค มีการลงทุนในธุรกิจผลิตและขายไฟฟ้า ธุรกิจผลิตและส่งจ่ายน้ำ และธุรกิจบริหารจัดการคลังเก็บผลิตภัณฑ์เคมีและท่าเทียบเรือ 

ธุรกิจและการลงทุนของ CDI ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ยุทธศาสตร์และนิคมอุตสาหกรรม เมืองซีเลกอน (Cilegon) และเมืองเซรัง (Serang) จังหวัดบันเต็น (Banten) เกาะชวาตะวันตก ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นเขตนิคมอุตสาหกรรมหลักขนาดใหญ่ของประเทศ ที่มีอุปสงค์ทางอุตสาหกรรมสูงและเติบโตอย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ CDI ยังมีโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมจำนวน 2 แห่ง ซึ่งใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงและเดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว มีกำลังผลิตรวม 147 เมกะวัตต์ และได้รับสิทธิ์การส่งจ่ายไฟฟ้าแต่เพียงผู้เดียวภายในเขตพื้นที่เมืองซีเลกอน 

รวมถึงธุรกิจด้านการผลิตและบำบัดน้ำครบวงจรในเมืองซีเลกอน และมีสัญญาระยะยาวกับลูกค้าอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงทั้งในระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ และ CDI ยังให้บริการคลังเก็บผลิตภัณฑ์เคมีและท่าเทียบเรือแบบครบวงจรในพื้นที่ยุทธศาสตร์เมืองเซรังอีกด้วย

“เมื่อปิดดีลเรียบร้อยแล้ว เอ็กโก กรุ๊ป จะรับรู้รายได้ทันที ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ระยะสั้น โดยให้ความสำคัญในการลงทุนโครงการที่มีคุณภาพสูงที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคนี้ จะช่วยผลักดันให้เอ็กโก กรุ๊ป เข้าสู่ตลาดที่มีศักยภาพของประเทศอินโดนีเซีย ถือเป็นตลาดที่มีแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจและความต้องการพลังงานสูง และยังช่วยสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนต่อไป” 

อย่างไรก็ตาม การเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ของทั้งสองบริษัทนับเป็นหมุดหมายสำคัญของการประสานความเชี่ยวชาญของ CAP ในอุตสาหกรรมเคมีและโครงสร้างพื้นฐาน และความเชี่ยวชาญของ เอ็กโก กรุ๊ป ในอุตสาหกรรมพลังงาน ซึ่งมีศักยภาพในการต่อยอดความร่วมมือกันในอนาคต” นายเทพรัตน์ กล่าว

EGCO

advertisement

SPOTLIGHT