ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง สั่งยกคำร้อง ‘ทรู ดิจิทัล’ ฟ้อง ‘พิรงรอง’ กรณีออกหนังสือแจ้งไปยังผู้รับอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ ทำให้ผู้รับอนุญาตเข้าใจผิด มีผลให้ นางสาว พิรงรอง ทำหน้าที่ บอร์ดกสทช. ต่อได้ ทรูน้อมรับคำสั่ง แจงฟ้องเพื่อรักษาสิทธิ์
ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ปจำกัด ได้ยื่นฟ้อง ศ.กิตติคุณ พิรงรอง รามสูต กรรมการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกิจการโทรทัศน์ ในข้อหาเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
จากคำแถลงของทรู มูลเหตุในการฟ้องร้องเกิดจากการที่ ศ.กิตติคุณ พิรงรอง ได้ออกหนังสือแจ้งไปยังผู้รับอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ ว่าทรูเป็นผู้ประกอบกิจการที่ยังไม่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ ทั้งที่ขณะนั้นยังไม่ต้องมีการขอใบอนุญาต ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้รับอนุญาตอาจระงับเนื้อหารายการต่าง ๆ ที่บริษัทส่งไปออกอากาศ ส่อแสดงเจตนากลั่นแกล้งให้บริษัทฯ ได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้ ในวันนี้ (14 พ.ค. 2567) ศาลอาญาฯ ได้พิจารณาแล้วว่า ภายหลังที่ศาลมีคำสั่งประทับรับฟ้องแล้ว ไม่ปรากฏว่าจำเลย (ศ.กิตติคุณ พิรงรอง) มีการกลั่นแกล้งโจทก์ (ทรูดิจิทัล) อีก จึงยังไม่มีคำสั่งให้จำเลยยุติการปฏิบัติหน้าที่ในระหว่างการพิจารณาคดีของศาล แต่หากมีพฤติการณ์เปลี่ยนแปลงไป ศาลอาจมีคำสั่งเป็นอย่างอื่นได้
ทรู ดิจิทัล แจงที่ฟ้องแค่รักษาสิทธิ์
หลังมีคำสั่งศาลออกมา ทรู ดิจิทัล ได้ออกแถลงการณ์เคารพและน้อมรับคำสั่งศาล แจงจำเป็นต้องยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ ตามขั้นตอนปกติเพื่อรักษาสิทธิ์ ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากพฤติการณ์หรือการกระทำที่ส่อเจตนากลั่นแกล้ง แสดงถึงอคติ และความไม่เป็นกลาง ของจำเลย
ในแถลงการณ์ ทรู ดิจิทัล ในฐานะผู้ประกอบธุรกิจทรูไอดี มีความคาดหวังให้องค์กรกลางอย่าง กสทช. ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความถูกต้องตามกฎหมายและมีความเป็นธรรม และที่ผ่านมาให้ความเคารพทุกการพิจารณาของกรรมการ กสทช.ทุกท่าน
ดังนั้น เมื่อพบว่ามีเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อบริษัทที่เกิดขึ้นจากกรรมการบางท่าน จึงเป็นหน้าที่ของบริษัทที่ต้องรับผิดชอบต่อนักลงทุน ผู้ถือหุ้น และผู้บริโภค โดยจำเป็นต้องใช้สิทธิ์ทางกฎหมายในการยื่นคำร้องเรียกร้องความเป็นธรรมต่อศาล เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
ทรู ดิจิทัล ขอเน้นย้ำว่ามีความเคารพและพร้อมน้อมรับคำพิจารณาของศาลเสมอ โดยหวังพึ่งพาความยุติธรรมจากศาลในการพิจารณาคดีความนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากขณะนี้คดียังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล ทางบริษัทจึงขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ เพิ่มเติม โดยจะมอบเป็นอำนาจให้ศาลเป็นผู้พิจารณาพิพากษาต่อไป