.jpg)
บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) หรือ SSC รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) ว่า บริษัท โซ วอเตอร์ จำกัด(มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ อันดับ 1 ถือหุ้นอยู่ 64.67% ประสงค์ซื้อหุ้นที่เหลือหุ้นทั้งหมดใน SET สัดส่วน 35.33% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ในราคา 63 บาท/หุ้น เพื่อเพิกถอนหุ้น SSC ออกจาก SET
ทั้งนี้ ราคาเสนอซื้อหุ้น SSC ที่ 63.00 บาท/หุ้น เป็นราคาที่ไม่ต่ำกว่าราคาสูงสุดที่คำนวณตามวิธีกำหนดราคาเสนอซื้อเพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์ภายใต้ประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ.12/2554 เรื่องหลักเกณฑ์เงื่อนไขและวิธีการในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ ซึ่งการเข้าทำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมด จะเกิดขึ้นต่อเมื่อดำเนินการดังต่อไปนี้สำเร็จครบถ้วน ดังนี้
- จัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทมีมติอนุมัติการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัท ด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท และต้องไม่มีผู้ถือหุ้นคัดค้านการเพิกถอนหุ้นเกิน 10% ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมด ซึ่งกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 27 สิงหาคม 2567
- การเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทจะต้องได้รับอนุมัติ และ หรือผ่อนผันจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึง ตลาดหลักทรัพย์ฯ สถาบันการเงิน และคู่สัญญาอื่นๆ ตามสัญญาที่เกี่ยวข้อง (ในกรณีที่จำเป็น)
เหตุผลที่ขอถอนหุ้น ‘เสริมสุข’ ออกจากตลาดหุ้น มีดังนี้
- เพื่อช่วยในการบริหารจัดการและการดำเนินธุรกิจของบริษัทให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น เนื่องจากจะช่วยลดขั้นตอนการดำเนินงานต่างๆ ส่งผลให้การบริหารกิจการและการตัดสินใจในการดำเนินธุรกิจคล่องตัวมากขึ้น เนื่องด้วยกลุ่มไทยเบฟอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้เกี่ยวกับแผนการปรับโครงสร้างการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ และศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ โดยอาจมีการปรับโครงสร้างภายในและปรับโครงสร้างของธุรกิจในด้านต่างๆ
- เนื่องจากในปัจจุบันปริมาณการซื้อขายหุ้นของบริษัทมีจำนวนไม่มากนัก การทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท เพื่อการเพิกถอนจะเป็นประโยชน์ต่อสภาพคล่องในการซื้อขายหุ้นของบริษัท โดยเป็นการช่วยเพิ่มทางเลือกและโอกาสในการขายหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นรายย่อยของบริษัท
- เมื่อการเพิกถอนสำเร็จเรียบร้อย บริษัทจะไม่มีสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียนใน SET อีกต่อไป ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ค่าธรรมเนีย และหน้าที่ต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการเป็นบริษัทจดทะเบียนด้วย แต่ยังคงเป็นบริษัทมหาชนจำกัด
โดยการทำเสนอขายซื้อหุ้น SSC ในครั้งนี้ มีบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด(มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินของผู้เสนอซื้อ และมีบริษัท เจย์ แคปปิตอล จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ
รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับแรก
|
ลำดับ |
ผู้ถือหุ้น |
จำนวนหุ้น (หุ้น) |
%หุ้น |
|
1 |
บริษัท โซ วอเตอร์ จำกัด |
171,954,804 |
64.67 |
|
2 |
บริษัท เอสเอส เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด |
53,499,807 |
20.12 |
|
3 |
DBS BANK LTD. AC DBS NOMINEES-PB CLIENTS |
12,500,000 |
4.70 |
|
4 |
BANK OF SINGAPORE LIMITED-THB SEG AC |
10,800,000 |
4.06 |
|
5 |
UOB KAY HIAN (HONG KONG) LIMITED - Client Account |
7,200,000 |
2.71 |
|
6 |
บริษัท เพรสทีจ 2015 จำกัด |
2,924,100 |
1.10 |
|
7 |
นาง ดวงแก้ว ตระกูลพิพัฒน์ |
576,000 |
0.22 |
|
8 |
ร้อยเอก ณรงค์ ภัทรเลาหะ |
508,000 |
0.19 |
|
9 |
น.ส. นันทนา แย้มมนัส |
274,400 |
0.10 |
|
10 |
นาย เทวัญ ตันติจัตตานนท์ |
216,000 |
0.08 |
ผลประกอบการย้อนหลัง 5 ปี ตั้งแต่ปี 2563- 6 เดือนแรกของปี 2567
ปี 2563 รายได้รวม 10,993.83 ล้านบาท กำไรสุทธิ 169.13 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้รวม 9,760.82 ล้านบาท กำไรสุทธิ 83.24 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้รวม 11,058.81 ล้านบาท กำไรสุทธิ 12.66 ล้านบาท
ปี 2566 รายได้รวม 12,592.68 ล้านบาท กำไรสุทธิ 248.00 ล้านบาท
6 เดือนแรก ปี 2567 รายได้รวม 6,374.09 ล้านบาท กำไรสุทธิ 178.00 ล้านบาท
โดยภายหลังจากแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว ราคาหุ้นของ SSC พุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 61.75 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น +25.38%
และปิดตลาดวันนี้ (4 ก.ค.2567) ในระดับเดียวกัน
