ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก เติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะด้านการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลในภาคส่วนขององค์กรธุรกิจ โดยผลสำรวจ 2023 Institutional Investor Digital Assets Outlook ของ Coinbase พบว่า กว่า 60% ของนักลงทุนสถาบันจะทำการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มมากขึ้นภายในอีก 3 ปี และกว่า 45% ของนักลงทุนสถาบันที่ยังไม่เคยลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลจะเริ่มหันมาถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นครั้งแรกเช่นเดียวกัน
ทิศทางการเติบโตสอดคล้องกับการเติบโตของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย ที่ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะนักลงทุนรายย่อยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงนักลงทุนรายใหญ่ อย่างองค์กรธุรกิจที่จดทะเบียนนิติบุคคล ตลอดจนสถาบันทางการเงินชั้นนำในประเทศไทย ที่รุกเข้ามาสู่ตลาดนี้กันอย่างคึกคักในปีที่ผ่านมา
‘นักลงทุนนิติบุคคล’ คืออะไร?
นักลงทุนนิติบุคคล หรือ Corporate Investor คือนักลงทุนที่เป็นองค์กรทางธุรกิจ ที่มีการจดทะเบียนในรูปแบบของนิติบุคคล ได้แก่ ห้างหุ้นส่วนสามัญที่ทำการจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด มูลนิธิ สมาคม สหกรณ์ องค์กรของรัฐบาล หรือ รัฐวิสาหกิจ เป็นต้น
โดยนักลงทุนนิติบุคคล เริ่มหันมาให้ความสนใจในสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีศักยภาพในการเติบโตที่สูง ถึงแม้ว่าจะผันผวนสูงก็ตาม อีกทั้งการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลยังถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนจากสินทรัพย์แบบเดิมอย่าง หุ้น หรือ พันธบัตร
นอกจากนี้ เทคโนโลยีบล็อกเชนมีแนวโน้มที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมต่างๆ ในอนาคต หลายองค์กรจึงได้มีการพิจารณาลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลควบคู่ไปกับการลงทุนแบบปกติ เพื่อโอกาสในการรับผลตอบแทนที่มากขึ้นกว่าการลงทุนปกติ
ลงทุนอย่างปลอดภัยด้วย Know Your Business
สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่แพ้ผลกำไรสำหรับการลงทุน คือปัจจัยทางด้านความปลอดภัย ซึ่ง กัลฟ์ ไบแนนซ์ ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาความปลอดภัยบนแพลตฟอร์ม Binance TH by Gulf Binance อย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับนักลงทุนทุกประเภท
โดย กัลฟ์ ไบแนนซ์ ได้พัฒนากระบวนการตรวจสอบตัวตนที่เรียกว่า ‘Know Your Customer (KYC)’ เพื่อมอบความปลอดภัยในด้านการทำธุรกรรมและการจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลให้กับเหล่านักลงทุนรายย่อย และเพื่อรองรับการเติบโตของนักลงทุนองค์กรธุรกิจที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน
ล่าสุด กัลฟ์ ไบแนนซ์ ยังได้พัฒนาระบบความปลอดภัยที่เรียกว่า ‘Know Your Business (KYB)’ ขึ้น เพื่อมอบความปลอดภัยขั้นสูงให้กับเหล่านักลงทุนองค์กรธุรกิจที่เปิดใช้งานบัญชีนิติบุคคลสำหรับทำธุรกรรมด้านสินทรัพย์ดิจิทัลบนแพลตฟอร์มของเรา
Know Your Business (KYB) คือ กระบวนการที่ช่วยตรวจสอบตัวตนที่อยู่เบื้องหลังของผู้ใช้งานองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมทางธุรกิจ ซึ่งได้รับการออกแบบโดยมีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับการจัดเก็บสินทรัพย์ ตลอดจนช่วยลดอาชญากรรมทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการฉ้อโกง การสนับสนุนทางการเงินแก่ผู้ก่อการร้าย และการฟอกเงิน เป็นต้น โดยผู้ใช้สามารถมั่นใจได้ว่าสินทรัพย์ถูกจัดเก็บไว้อย่างปลอดภัยบนแพลตฟอร์ม
นายนิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กัลฟ์ ไบแนนซ์ กล่าวว่า “กัลฟ์ ไบแนนซ์ ได้เล็งเห็นถึงโอกาสและศักยภาพของนักลงทุนในทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักลงทุนรายย่อยอย่าง เทรดเดอร์ หรือ นักลงทุนองค์กรธุรกิจขนาดเล็ก ไปจนถึงองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ เช่น นักลงทุนสถาบัน บริษัทขุดบิทคอยน์ หรือนักลงทุนรายใหญ่ ที่เริ่มหันมาสนใจการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ต้องการถือครองเหรียญบิทคอยน์ (BTC) และลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทอื่นๆ
ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้พัฒนา Know Your Business (KYB) ขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านการใช้งานของนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนมอบความปลอดภัยที่ครอบคลุม และบริการที่ครบวงจรให้กับนักลงทุนทุกรายที่เปิดบัญชีเพื่อการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลในรูปแบบนิติบุคคลบนแพลตฟอร์มของเรา”