เปิดโมเดล แก้สลากเกินราคา !

ธุรกิจขายสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือ ลอตตอรี่ผ่าน "แพลตฟอร์มออนไลน์" ของเอกชนในช่วง 2 ปีที่ผ่านถือว่าเป็นยุคที่เฟื่องฟูมาก ซึ่งรูปแบบการทำธุรกิจคือ รับสลากมาจากผู้ได้รับการจัดสรรโควต้าจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลหรือผู้ค้าที่มีสลากฯในมือ แล้วมาวางขายบน "แพลตฟอร์มออนไลน์" ของตัวเอง กินกำไรจากการคิดค่าสแกนลอตเตอรี่เพื่อวางขายบนแพลตฟอร์ม ซึ่งปัจจุบันมีผู้เล่นในวงการนี้ทยอยเพิ่มขึ้่นเป็นประมาณ 20 ราย 

 

มังกรฟ้า, กองสลากพลัส, เสือแดงลอตเตอรี่ออนไลน์ , หงษ์ทองดอทคอม, 6 ล้านดอทคอม, นัมเบอร์วันลอตเตอรี่  ธุรกิจค้าสลากออนไลน์รายใหญ่เหล่านี้น่าจะมีเม็ดเงินซื้อขายสะพัดต่องวดเป็นหลักหลายร้อยล้านบาท ดูผิวเผินโมเดลค้าสลากออนไลน์นี้ก็เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับนักเสี่ยงโชคได้รับความสะดวกมากขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว "แพลตฟอร์มค้าสลากออนไลน์" ของเอกชนเหล่านี้ผิดเงื่อนไข  เนื่องจาก

1. ขายลอตเตอรี่เกินกว่าราคาที่กำหนดไว้ที่ 80 บาท 

     2.ผู้ที่ได้รับจัดสรรโควต้าจากกองสลากฯ ไม่สามารถนำมาขายต่อให้กับ "แพลตฟอร์มออนไลน์" หรือคนที่ 3 เพื่อไปขายต่อให้กับประชาชนอีกทอดได้ 

 

และด้วยนโยบายรัฐบาลที่ต้องการแก้ปัญหาปราบปรามขายลอตเตอรี่ขายเกินราคาอยู่แล้ว จึงเป็นที่มาปฏิบัติการบุกเข้าตรวจค้น"แพลตฟอร์มออนไลน์" รายใหญ่เกิดขึ้นนำโดยทีมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาและเจ้าหน้าที่ตำรวจ  ไล่ตั้งแต่รายแรกอย่าง "มังกรฟ้า" แพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีลอตตอรี่ในมือวางขายบนแพลตฟอร์มถึง 2 ล้านใบ ขายราคาเริ่มต้นฉบับละ 105 บาท ซึ่งมีเงินสะพัดต่องวดมากกว่า 200 ล้านบาท ตามมาด้วยการบุกตรวจค้นรายใหญ่อีกรายคือ “กองสลากพลัส” ที่มีสลากฯ ในมือมากถึง 4.4 ล้านใบ เริ่มต้นที่ใบละ 95 บาท มีเงินสะพัดถึง 380 ล้านบาท

 

โดย พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ออกมาระบุว่า สำนักงานสลากฯ เตรียมนำรายชื่อตัวแทนรายย่อยจากหมายเลขสลาก มาตรวจสอบ เพื่อตัดสิทธิตัวแทนจำหน่าย และผู้มีสิทธิซื้อจองที่นำสลากไปจำหน่ายให้กับมังกรฟ้า เพื่อขึ้นบัญชีและตัดสิทธิโควตาตลอดชีวิต เพราะถือการกระทำผิดเงื่อนไขร้ายแรง ไม่นำสลากไปจำหน่ายเอง และนำไปขายช่วงซึ่งเป็นต้นเหตุของการทำสลากเกินราคา  และจะขยายผลการกระทำผิดด้านอื่นเพิ่มเติม หากพบว่าเป็นผู้จำหน่ายเกินราคา มีความผิดตามพ.ร.บ.สลากกินแบ่งรัฐบาล  ปรับไม่เกิน 10,000 บาท

 

นายกฯ เดินหน้าเร่งแก้หวยแพง ยันไร้ 5 เสือกองสลาก

ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลราคาเกินกว่าที่กำหนดว่า ขณะนี้รัฐบาลได้พยายามแก้ไขปัญหาให้สำเร็จ เพราะเป็นข้อร้องเรียนของประชาชนที่มีมาอย่างต่อเนื่อง และจำเป็นต้องใช้มาตรการเฉพาะในการตรวจสอบ และหาสาเหตุให้ได้ว่าจุดใดที่ทำให้สลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา เพื่อแก้ปัญหาให้ตรงจุด พร้อมยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เป็นเรื่องที่ต้องมุ่งมั่นแก้ไข และทำให้สำเร็จมากกว่า

 

ส่วนกรณี 5 เสือกองสลากนั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ปัจจุบันไม่มีแล้ว เพราะเป็นการจ่ายตรงตามโควตาผู้มีสิทธิในสลาก ซึ่งเป็นโควตาที่ให้มาอย่างเฉพาะเจาะจง ตามกฏหมายหรือระเบียบใหม่ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่เริ่มมาตั้งแต่สมัยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับโควตาอาจไปรวบรวมสลากกินแบ่งรัฐบาลกันเอง จึงต้องไปแก้ไขในส่วนนี้ ซึ่งมีการตรวจสอบและติดตามอยู่ และย้ำว่าไม่มีโควตาพิเศษ หรือโควต้า 5 เสือ ตามที่มีกระแสข่าว

 

เปิดโมเดล"แพลตฟอร์มออนไลน์"ขายลอตเตอรี่ 80 บาท ผ่านแอปฯ เป๋าตัง

เครื่องมือสำคัญที่สำนักงานสลากฯ จะงัดออกมาแก้ปัญหาสลากเกินราคา แพลตฟอร์มจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล (Digital Lottery)” ตามข้อมูลของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ระบุว่า เป็นแพลตฟอร์มกลาง ให้ผู้ค้าสลากที่มีโควตาสลากฯ ในมือสามารถนำสลากมาฝากจำหน่ายบนแพลตฟอร์มนี้ได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ซึ่งแพลตฟอร์มนี้ ธนาคารกรุงไทยจะเป็นผู้ทำระบบทั้งหมด  อยู่บนแอปฯ เป๋าตัง ทั้งนี้จะให้ผู้ค้าที่มีโควตาลงทะเบียนแสดงความจำนงขายสลากบนแพลตฟอร์มดังกล่าว โดยสำนักงานสลากฯ จะเป็นผู้เก็บสลากตัวจริงไว้ และเมื่อมีการกดซื้อสลากบนแพลตฟอร์มดังกล่าวแล้ว สลากเลขนั้นจะหมดไป

 

โดยผู้ซื้อจะได้รับหลักฐานเป็นใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ข้อความทาง SMS โดยช่องทางนี้ถือเป็นการเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายให้กับผู้ค้า ซึ่งผู้ค้ายังสามารถใช้แท็ปเล็ตเพื่อเดินขายสลากบนแพลตฟอร์มดังกล่าวเองได้ด้วย และสามารถกำหนดราคาขายได้สูงสุด 80 บาท และหากใกล้วันออกรางวัลแล้วยังขายไม่หมด ก็สามารถปรับลดราคาขายให้ต่ำกว่า 80 ได้ 
นอกจากนี้ผู้ค้ายังสามารถเลือกได้ว่าจะฝากขายสลากบนแพลตฟอร์มกี่เล่มก็ได้ เช่น ทั้ง 5 เล่มตามโควตาที่ได้รับ หรือฝากขาย 3 เล่ม และอีก 2 เล่มใช้วิธีการเดินขายแบบเดิมก็ได้ด้วย

 

 

 

สำนักงานสลากฯ อธิบายต่อว่ามีความตั้งใจให้ผู้ค้าที่มีโควตาอยู่และไปฝากขายบนแพลตฟอร์มอื่น ย้ายมาขายบนแพลตฟอร์มของของสลากฯ ทั้งหมด ซึ่งแพลตฟอร์มนี้นอกจากจะเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้ผู้ค้าแล้ว เมื่อมีการกดเลือกสลากเลขนั้นๆ เงินก็จะโอนเข้าบัญชีผู้ค้าโดยตรง โดยไม่มีการหักหักค่าใช้จ่ายใดๆ ขณะที่ผู้ซื้อก็สะดวกขึ้น และยังสามารถซื้อสลากเลขซ้ำกี่ใบก็ได้เท่าที่มีในระบบ และยังซื้อสลากได้ในราคา 80 บาท และเมื่อเริ่มใช้แพลตฟอร์มนี้เมื่อไหร่ 
ทั้งนี้หากยังตรวจพบว่าผู้ค้าไปฝากขายบนแพลตฟอร์มอื่น จะทำการตัดสิทธิโควตาทันที ซึ่งจะพยายามเร่งทำแพลตฟอร์มให้แล้วเสร็จ เพื่อจำหน่ายให้ทันงวดวันที่ 2 พ.ค.2565 

 

นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า แพลตฟอร์มจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล จะนำเข้าระบบขายด้วยวิธีการสแกนสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวจริงแล้วนำไปโพสต์ขายบนแพลตฟอร์มดิจิทัล ลอตเตอรี่  ซึ่งจะเป็นมาร์เก็ตเพลสของสำนักงานสลากฯเอง เพื่อเป็นช่องทางการจำหน่ายสลากให้ผู้ได้รับโควตาสลาก แต่ผู้ค้าจะต้องขายในราคาไม่เกิน 80 บาท และเมื่อทำการซื้อขายสลากฯ ผู้ซื้อจะมีเอกสารหลักฐานทางอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมภาพสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นหลักฐาน โดย สำนักงานสลากฯ จะจัดเก็บข้อมูลไว้ ซึ่งลอตเตอรี่ใบที่ได้จำหน่ายไปแล้ว จะไม่สามารถนำไปขายต่อได้อีก หรือเปลี่ยนสิทธิไม่ได้ เพราะสลากขายได้ครั้งเดียว 

 

โควตาลอตเตอรี่ 100 ล้านฉบับ ใครได้ไปบ้าง

ปัจจุบันสำนักงานสลากฯ พิมพ์สลากออกจำหน่ายไม่เกิน 100 ล้านใบต่องวด  แบ่งเป็นการจัดสรร 2 ระบบ ได้แก่

1.ระบบตัวแทนจำหน่ายได้ไปสัดส่วน 30% หรือ จำนวน 31 ล้านใบ โดยจัดสรรให้กับตัวแทนจำหน่าย 3 ประเภท ได้แก่

1.1 สมาคม, องค์กร, มูลนิธิ

1.2 บุคคลทั่วไปรายย่อย

1.3 คนพิการ

2. ระบบซื้อ-จองล่วงหน้า สัดส่วนประมาณ 70% หรือจำนวน ไม่เกิน 69 ล้านฉบับ แบ่งเป็น

2.1 สลากซื้อ จำนวน 40,000 เล่ม

2.2 สลากจอง จำนวน 650,000 เล่ม

 

สำหรับตัวแทนจำหน่ายนั้น แบ่งเป็น
-ตัวแทนจำหน่ายรายย่อยส่วนกลาง จำนวน 4,719 ราย
-ตัวแทนจำหน่ายรายย่อยส่วนภูมิภาค จำนวน 21,340 ราย
-ตัวแทนจำหน่ายที่เป็นสมาคม องค์กร มูลนิธิ จำนวน 891 ราย
-ผู้ที่ทำรายการสั่งซื้อ หรือสั่งจองได้ จำนวน 128,752 ราย

(ข้อมูล ณ งวดวันที่ 16 พ.ย. 2564)

 

อย่างไรก็ดี หลังจากที่พบว่า สลากที่ขายในตลาดนั้น ส่วนใหญ่มีราคาเกิน 80 บาทต่อใบ ดังนั้น สำนักงานสลากฯจึงพยายามหาแนวทางแก้ไข โดยหนึ่งในแนวทางคือ การจัดระเบียบโควตาของระบบซื้อ-จองล่วงหน้า เพื่อคัดกรองผู้ค้ารายย่อยที่ขายสลากไม่เกิน 80 บาทต่อใบตัวจริง

 

ปัจจุบันมีผู้ได้รับการจัดสรรผ่านระบบซื้อ-จองล่วงหน้าอยู่แล้วประมาณ 1.3 แสนราย ทางสำนักงานสลากฯ มีแผนจะเพิ่มจำนวนโควตาผู้ซื้อ-จองเป็น 2 แสนราย ที่ผ่านมา เปิดรับสมัครแล้วมีผู้มาสมัครนับล้านราย ทางสำนักงานสลากฯ อยู่ระหว่างการคัดกรองเพื่อหาผู้ขายสลากในราคาไม่เกิน 80 บาทตัวจริง โดยขอร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจสอบ

 

"ผู้ซื้อ" กับ  "ผู้ขาย" สลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านแอปฯ เป๋าตัง ต้องรู้

 

"ผู้ซื้อ" สลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านแอปฯ เป๋าตัง -ต้องลงทะเบียน โดยใช้หมายเลขบัตรประชาชน และห้ามอายุต่ำกว่า 20 ปีใช้งาน-ได้รับสลากฯ แบบออนไลน์ แสดงอยู่ในแอปเป๋าตัง ช่องสลากฯ ของฉัน โดยไม่ได้รับสลากฯ ใบจริง-ผู้ซื้อสลากฯ จะเป็นผู้ขึ้นรางวัลได้เท่านั้น ไม่สามารถโอนสิทธิ์ให้กับผู้อื่นได้

 

"ผู้ขาย" สลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านแอปฯ เป๋าตัง -มีสัญญาเป็นตัวแทน หรือผู้ซื้อจองกับสำนักงานสลากฯ โดยตรงเท่านั้น-มีช่องทางขายมากขึ้น เช่น จะเลือกรับเป็นสลากฯ ใบเดินขายเอง หรือฝากขายผ่านแอพ เป๋าตัง-นำสลากฯ มาฝากขายในแอปฯ เป๋าตัง สามารถขายเองผ่านหน้าร้านออนไลน์ของตัวเองได้-หากขายไม่หมด สลากฯ จะโอนกลับไปให้ผู้ซื้อเป็นผู้รับผิดชอบ
*แพลตฟอร์มจำหน่ายสลากฯ คาดว่าจะเริ่มเปิดขายได้ในงวดออกรางวัลวันที่ 2 พ.ค. 2565 นี้

 

 

โมเดลแพลตฟอร์มขายสลากฯ ออนไลน์