คุณพิชิต จันทรเสรีกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ KCAR ได้ให้มุมมองกับ SPOTLIGHT ว่า ราคาตลาดรถมือสองในปีนี้ คาดว่ายังลดลงอยู่ แต่คงไม่มากเท่าปีที่ผ่านมาที่ปรับลดลงถึง 20-30% ซึ่งคิดว่าปีนี้ราคารถยนต์มือสองคงปรับลดลงประมาณ 10% ด้วยปัจจัยหลายประการ ทั้งจากปีที่ผ่านมาราคาปรับลดลงไปค่อนข้างมากแล้วถึง 20-30% ปริมาณรถยนต์มือสองในตลาดค่อนข้างมาก จากการที่ยอดรถยึดอยู่จำนวนมาก จากเศรษฐกิจไม่ดี ไม่สามารถผ่อนต่อไหว ขณะนี้รถยนต์ไฟฟ้า หรือรถ EV ราคาจะปรับลดลงมากกว่ารถสันดาป หรือรถน้ำมัน
สำหรับในปีนี้รถมือสองในตลาดที่ถูกยึดมาก็ยังค้างอยู่ในตลาด มีแนวโน้มที่สถาบันการเงินจะประนอมหนี้ได้มากขึ้น ทำให้ตัวเลขยอดรถยึดจะลดลง
โดยปีนี้ตลาดรถมือสองในไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ยังไม่ค่อยดี แต่เชื่อว่าในไตรมาส 3 จะค่อยๆ ดีขึ้น ตอนนี้สถานการณ์รถใหม่ยอดขายก็ยังไม่ค่อยดีนัก ทำให้หลายบริษัทหันมาให้ความสำคัญกับรถมือสอง
แต่อย่างไรก็ตาม ความต้องการรถยนต์มือสองในตลาดก็ยังมีอยู่ในปีนี้ โดยในแต่ละปีจะมีรถครบอายุสัญญาที่ต้องขายออกจากตลาดปีละประมาณ 20,000 คัน ซึ่งในส่วนของ KCAR ปีละประมาณ 2,000 คัน
ขณะนี้ตลาดรถเช่าปีนี้ คงปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย มีการยืดอายุสัญญามาพอสมควร 1-2 ปี เริ่มเปลี่ยน เชื่อว่าลูกค้าบางรายต่ออายุสัญญา เพื่อลดต้นทุน ซึ่งคาดว่าจะเพิ่ม 1-2% แต่ภาวะการแข่งขันคงไม่ต่างจากเดิม เป็นการแข่งขันโดยสมบูรณ์ เพราะไม่มีผู้ประกอบการรายใหม่เข้าตลาด และรถที่ครบอายุสัญญาขายได้ต่ำกว่าที่ประมาณการ โดยภาพรวมมีทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยลบ
ฉะนั้น ตลาดรถยนต์มือสองราคายังปรับลดลงอยู่ ถ้าในแง่ของผู้ใช้รถที่เป็นผู้บริโภคจริงๆ คงคิดว่า ถ้าปีนี้จำเป็นต้องขายรถออกไปจริงๆ นั้น คุณพิชิต แนะนำว่า ควรจะขายรถในช่วงต้นปี หรือปลายปี ราคารถยนต์มือสองจะปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นภาวะปกติ ถ้ามาขายช่วงกลางปีที่เป็นหน้าฝนจะปรับลดลง และหากต้องการขายให้ได้ราคาจริงๆ ควรที่จะประกาศขายเองในช่องทาง Online จะได้ราคาดีกว่าขายตามเต้นท์ หรือผู้ประกอบการรับซื้อขายรถมือสอง
ในปีที่ผ่านมากว่า 250,000-300,000 แสนคัน หนี้เสียจากรถยนต์พุ่งเป็นอันดับ 1 นั้น กรุงศรี ออโต้ ได้ออกมายอมรับว่า ที่ผ่านมาถือว่า คนไทยจนลง หรือความมั่งคั่งลดลง มีเงินไม่พอใช้จ่าย จนต้องยอมโดยยึดรถจำนวนมาก
กรุงศรี ออโต้ ได้ออกมายอมรับว่า ภาพรวมตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ในปีที่ผ่านมา ถือว่าลดลงจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ตัวเลขหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น และขณะนี้ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น คิดมากขึ้นในการซื้อของ โดยเฉพาะรถยนต์