ธนาคารกลางญี่ปุ่นประกาศคงดอกเบี้ยที่ 0-0.1% แต่ยังไม่ประกาศลดซื้อพันธบัตรรัฐบาลอย่างที่นักลงทุนคาด ส่งผลให้ค่าเงินเยนออนลงแตะระดับ 158 เยน/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในช่วง 6 สัปดาห์
ในวันนี้ (14 มิถุนายน) ธนาคารกลางญี่ปุ่น (ฺBOJ) ได้ประกาศคงดอกเบี้ยไว้ที่ 0-0.1% หลังจากปรับขึ้นมาจาก -0.1% ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา หลังจากคงดอกเบี้ยติดลบยาวนานเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจมาตั้งแต่ปี 2016
ทั้งนี้ แม้ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะคงดอกเบี้ยไว้ในระดับเดิมตามคาด BOJ กลับไม่ได้ประกาศชะลอการซื้อพันธบัตรรัฐบาลซึ่งเป็นวิธีหนึ่งในการอัดฉีดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจตามคาด สะท้อนว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นยังไม่คิดที่จะดำเนินนโยบายแบบเข้มงวดในเร็วๆ นี้
ในปัจจุบัน ธนาคารกลางญี่ปุ่นซื้อพันธบัตรรัฐบาลเป็นมูลค่าประมาณ 6 ล้านล้านเยน หรือราว 1,402,212,000 บาท ทุกเดือน และจะคงดำเนินการซื้อพันธบัตรไปในอัตรานี้จนกระทั่ง BOJ ออกมาประกาศกำหนดการลดการซื้อพันธบัตรอย่างเป็นทางการ ขัดกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ว่า BOJ จะประกาศลดซื้อพันธบัตรเหลือเดือนละ 5 ล้านล้านเยนในการประชุมครั้งนี้
ธนาคารกลางญี่ปุ่นได้เผยในแถลงการณ์ครั้งนี้ว่า ธนาคารจะนำข้อมูล และข้อคิดเห็นของผู้มีส่วนรวมในตลาดไปพิจารณา ก่อนที่จะประกาศแผนการดำเนินนโยบายการเงินระยะยาวหลังจากการประชุมในเดือนกรกฏาคมที่กำลังจะถึง ซึ่งจะระบุคร่าวๆ ว่า BOJ จะปรับเพิ่มดอกเบี้ย หรือลดการซื้อพันธบัตรรัฐบาลในอีก 1-2 ปีข้างหน้าหรือไม่
ความไม่แน่นอนในการดำเนินนโยบายดังกล่าวทำให้ ค่าเงินเยนอ่อนลงแตะระดับ 158 เยน/ ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบ 6 สัปดาห์ โดยในปีนี้ ค่าเงินเยนอ่อนลงถึง 10% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ และลงไปแตะระดับต่ำสุดใน 34 ปี ที่ 160 เยน/ ดอลลาร์ ในเดือนเมษายน ที่ทำให้ธนาคารกลางต้องใช้เงินถึง 9.79 ล้านล้านเยนเข้ามาแทรกแซงและพยุงเงินเยน
การตัดสินใจรักษาระดับดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่นในครั้งนี้ออกมาในสัปดาห์เดียวกับที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟดออกมาคงระดับดอกเบี้ยไว้ดังเดิม เพราะเศรษฐกิจยังมีการขยายตัว เห็นได้จากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่สูงกว่าคาด แม้ตัวเลขเงินเฟ้อจะออกมาต่ำกว่าที่คาด และมีชาวอเมริกันแจ้งว่างงานเป็นจำนวนมากที่สุดในรอบสิบเดือนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์คาดว่าเฟดน่าจะเริ่มลดดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ (โอกาส 68%) และจะลดดอกเบี้ยเพียง 1-2 ครั้ง ลดลงจาก 3 ครั้งที่คาดการณ์กันไว้ในช่วงต้นปี โดยนักวิเคราะห์มองว่าเฟดกำลังรอดูตัวเลขเศรษฐกิจในอนาคตก่อนว่าจะออกมาอย่างไร และคาดว่าดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ จะลดลงประมาณ 0.5% ในปีนี้
ที่มา: Reuters, Nikkei Asia