รวมพลังต้านจีน! ‘แคนาดา’ จ่อเพิ่มภาษีอีวีจีนตาม ‘สหรัฐฯ’ และ ‘สหภาพยุโรป’
‘แคนาดา’ จ่อออกมาตรการเพิ่มภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าของจีนตามรอย ‘สหรัฐฯ’ และ ‘อียู’ เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ในประเทศจากการเข้ามาของอีวีจีนราคาถูก หลังถูกผู้ผลิตในประเทศออกมากดดัน
คอนเทนต์แนะนำ
สงครามการค้าระหว่างชาติตะวันตกกับจีนเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หลังสหรัฐฯ ออกมาเพิ่มภาษีนำเข้าอีวีจีนเป็น 102.5% จาก 25% ในเดือนพฤษภาคม ก่อนที่ในเดือนมิถุนายน สหภาพยุโรปหรืออียู จะออกมาเพิ่มภาษีนำเข้าอีวีจีนเช่นกัน โดยเพิ่มทบจากภาษีนำเข้าสินค้าธรรมดา 10% สูงสุด 38% รวมเป็น 48%
การเคลื่อนไหวของทั้งสหรัฐฯ และอียูส่งแรงกดดันไปยังกลุ่มประเทศประชาธิปไตยที่เป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ ทั่วโลก ว่าควรออกมาเพิ่มมาตรการกีดกันอีวีจีนเช่นกัน เพื่อกดดันให้รัฐบาลเลิกให้เงินหรือทรัพยากรสนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศจนมีราคาถูกเกินควร ซึ่งในสายตาสหรัฐฯ และอียู เป็นการบิดเบือนราคาไม่ให้เป็นไปตามกลไกตลาด
ในกลุ่มประเทศประชาธิปไตยดังกล่าว ประเทศหนึ่งที่เจอแรงกดดันมากที่สุด ก็คือ ประเทศเพื่อนบ้านของสหรัฐฯ อย่าง ‘แคนาดา’ ที่มีสายพานการผลิตรถยนต์เชื่อมโยงกับสหรัฐฯ อย่างเหนียวแน่น และมีการนำเข้าส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์ระหว่างอย่างสม่ำเสมอ จนผู้ผลิตและนักการเมืองท้องถิ่นภายในประเทศออกมากดดันให้รัฐบาลแคนาดาเริ่มเคลื่อนไหวในรูปแบบเดียวกันเพื่อปกป้องผู้ผลิตภายในประเทศบ้าง
โดยสำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา Doug Ford นายกฯ ของรัฐออนแทริโอ เพิ่งได้ออกมากล่าวโจมตีรัฐบาลจีนในแพลตฟอร์ม X (Twitter) ว่าจีนจงใจใช้ค่าแรงราคาถูก มาตรฐานสิทธิแรงงานระดับต่ำ และพลังงานสกปรก มากดดันให้ราคารถยนต์ไฟฟ้าของตัวเองมีราคาถูกกว่าปกติ และเรียกร้องให้รัฐบาลขึ้นภาษีนำเข้าอีวีจีนเพื่อปกป้องโรงงานและแรงงานภายในแคนาดา
ดังนั้น เพื่อตอบรับกับแรงกดดันดังกล่าว แหล่งข่าวใกล้ชิดได้ออกมาเผยแก่สำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า รัฐบาล และนายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด (Justin Trudeau) กำลังพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อออกมาตรการเพิ่มภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าของจีนอยู่ แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเพิ่มเท่าใด และจะเพิ่มภาษีเท่ากันสำหรับทุกแบรนด์เหมือนสหรัฐฯ หรือกำหนดอัตราภาษีแตกต่างกันตามแบรนด์เหมือนสหภาพยุโรป
ในปัจจุบัน รัฐบาลแคนาดายังไม่ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่าทางรัฐบาลกำลังพิจารณาเพิ่มภาษีนำเข้าอีวีจีน และได้เผยแก่สื่อแล้วว่ารัฐบาลกำลัง ‘จับตามอง’ การเคลื่อนไหวของประเทศอื่นๆ ในเรื่องนี้อยู่ และได้มีการพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นนี้กับผู้นำ 7 ประเทศ ในการประชุมที่อิตาลีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
หากแคนาดาเพิ่มภาษีนำเข้าอีวีจีนจริงจะส่งผลอย่างไร?
ถ้าหากแคนาดาตั้งกำแพงภาษีกีดกันรถยนต์ไฟฟ้าของจีนเพิ่มขึ้นจริง สงครามการค้าระหว่างจีนและชาติตะวันตกก็จะทวีความรุนแรงขึ้น เพราะชาติอื่นๆ ที่เป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ ก็จะยิ่งถูกกดดันให้ออกมาเคลื่อนไหวอีก ทำให้ตลาดต่างชาติของผู้ผลิตอีวีจีนที่กำลังหาทางระบายสินค้าจำนวนมากแคบลงมาก และอาจทำให้รถยนต์ไฟฟ้าจำนวนนี้ไหลทะลักเข้าไปประเทศในภูมิภาคอื่นแทน รวมถึงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทั้งนี้ รัฐบาลแคนาดาก็ต้องเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง เพราะก็เสี่ยงที่จะถูกจีนออกมาตรการกีดกันการค้าตอบโต้ และยังมีกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อมบางกลุ่มในประเทศยังออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนมาตรการภาษี เพราะการทำให้อีวีมีราคาถูกและทุกคนเข้าถึงได้นั้น เป็นปัจจัยที่สำคัญมากในการลดปริมาณคาร์บอนในภาคคมนาคมขนส่ง
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน รัฐบาลแคนาดา และรัฐบาลท้องถิ่นรัฐออนแทริโอได้ลงทุนเงินจำนวนหลายพันล้านดอลลาร์แคนาดา เพื่อปั้นอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึง การทำเหมืองแร่ธาตุสำคัญสำหรับทำแบตเตอรี่ไฟฟ้า และสนับสนุนให้ผู้ผลิตรถยนต์จากยุโรปและญี่ปุ่นเข้ามาตั้งโรงงานในประเทศ เช่น Volkswagen AG, Stellantis NV และ Honda Motor Co.
ที่มา: Bloomberg
