“ภูมิธรรม” ประชุม แก้ปัญหานำเข้าสินค้าและบริการไม่ได้มาตรฐานจากต่างประเทศ
โดยการประชุมครั้งสำคัญนี้มุ่งเป้าไปที่การแก้ไขปัญหาสินค้าด้อยคุณภาพและราคาถูกที่ทะลักเข้ามาจากต่างประเทศ สร้างความเสียหายต่อตลาดและผู้บริโภคไทย โดยมีเป้าหมายหลักคือการยกระดับมาตรฐานสินค้าไทยให้สามารถแข่งขันได้ในเวทีการค้าโลกยุคใหม่
ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้ร่วมกันวางแผนเชิงรุกเพื่อป้องกันและกำกับดูแลสินค้าและธุรกิจที่ไม่เป็นธรรม พร้อมทั้งส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการ SMEs และ E-Commerce ไทยให้ปรับตัวและเติบโตอย่างยั่งยืนท่ามกลางความท้าทายของตลาดโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
นี่คือ ก้าวสำคัญในการสร้างความเป็นธรรมในตลาด เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทย และปกป้องผู้บริโภค เพื่อนำพาเศรษฐกิจไทยสู่ความมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต
นายภูมิธรรม เปิดเผยว่า "เราได้ติดตามความคืบหน้าของหน่วยงานภาครัฐในการดำเนินการตามมติ ครม. ที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาและปกป้องผลประโยชน์ของผู้ผลิตและผู้ประกอบการไทยอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบธุรกิจต่างชาติอย่างเข้มงวด ตั้งแต่การจดทะเบียนการค้า ใบอนุญาต ไปจนถึงการตรวจสอบคุณภาพสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศให้เป็นไปตามมาตรฐานของไทย รวมถึงการตรวจสอบใบอนุญาตนำเข้าและการชำระภาษี"
นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการสร้างภูมิคุ้มกันและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทย โดยที่ประชุมได้สรุปมาตรการสำคัญ 5 มาตรการหลัก ประกอบด้วย มาตรการเร่งด่วนและมาตรการระยะยาว รวมทั้งหมด 63 มาตรการย่อย เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อทุกฝ่าย สำหรับ 5 มาตรการหลัก มี ดังนี้
เพื่อสร้างความเป็นธรรมและคุ้มครองผู้บริโภคไทย รัฐบาลไทยได้ดำเนินมาตรการเชิงรุกในการบังคับใช้กฎหมายและส่งเสริมการค้า E-Commerce อย่างเข้มข้น ดังนี้
จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม: กรมสรรพากรอยู่ระหว่างปรับปรุงประมวลรัษฎากรสำหรับการกำหนดให้ผู้ขายสินค้าออนไลน์จากต่างประเทศ และแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าออนไลน์ ที่จำหน่ายสินค้าในไทย ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มกับกรมสรรพากร
อบรมให้ความรู้: กรมการค้าต่างประเทศเตรียมการจัดอบรมให้ความรู้เชิงเทคนิคกับภาคเอกชนกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบ
มาตรการเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยในการสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้า E-Commerce ที่เป็นธรรม โปร่งใส และเอื้อต่อการเติบโตของธุรกิจไทยในยุคดิจิทัล
นายภูมิธรรม ได้กล่าวถึงความห่วงใยของประชาชนและผู้ประกอบการต่อสินค้าจากต่างประเทศที่อาจไม่ได้มาตรฐานหรือผิดกฎหมาย โดย ครม. ได้มอบหมายให้เขาเป็นประธานในการแก้ไขปัญหานี้ และรายงานผลภายในสิ้นเดือนสิงหาคม 5 มาตรการหลัก ในการดูแลผู้บริโภคไทย
ทั้งนี้ รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมผู้ผลิตและผู้ประกอบการไทยควบคู่ไปกับการปฏิบัติตามกฎระเบียบการค้าโลก โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและประโยชน์สูงสุดของประชาชนเป็นสำคัญ เราจะรับฟังข้อกังวลของประชาชน นำไปตรวจสอบและดำเนินการอย่างจริงจัง โดยรายงานผลการดำเนินงานที่ศูนย์เฉพาะกิจป้องกันและปราบปรามสินค้าและธุรกิจฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งมีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานรับรายงานทุกสัปดาห์ และมีการประชุมร่วมกันทุก 2 สัปดาห์ หากพบปัญหาสำคัญ และพร้อมที่จะเพิ่มความเข้มข้นในการดำเนินการทันที
สินค้าทุกชิ้นที่จะจำหน่ายในประเทศไทยต้องมีคุณภาพได้มาตรฐาน ถูกกฎหมาย ไม่สร้างความเสียหายให้กับประเทศ และเป็นไปตามมาตรฐานสากล เราจะเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสินค้า หากพบปัญหาอาจเพิ่มความถี่ในการเปิดตู้คอนเทนเนอร์เพื่อตรวจสอบ และจะมีการทบทวนปรับกฎระเบียบเพิ่มเติม เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศอย่างเต็มที่
มาตรการและแนวทางที่ออกมาจะไม่เป็นการกีดกันทางการค้า แต่จะเป็นไปตามความตกลงทางการค้าและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของอุตสาหกรรมและธุรกิจทุกฝ่ายอย่างสมดุล และพร้อมสนับสนุนและพัฒนาผู้ประกอบการไทยให้สามารถปรับตัวและแข่งขันได้ในโลกการค้ายุคใหม่ ซึ่งทุกประเทศมีกลไกในการดูแลสินค้าและผู้ประกอบการในประเทศของตนเองเช่นกัน