สวนดุสิตโพล สำรวจคนไทยกับการท่องเที่ยวส่งท้ายปี ส่วนใหญ่ไม่เดินทางท่องเที่ยว เพราะกังวลโอไมครอนและเงินไม่พร้อม ส่วนผู้ที่เลือกเดินทางท่องเที่ยว เลือกจังหวัดเชียงใหม่ เป็นเป้าหมายยอดฮิต และเน้นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ไม่คับแคบ และใช้รถส่วนตัวเป็นพาหนะเดินทาง
12ธ.ค.64 สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศต่อกรณี “คนไทยกับการท่องเที่ยวส่งท้าย ปี 2021” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,304 คน สำรวจระหว่างวันที่ 6-9 ธันวาคม 2564 พบว่า ในช่วงวันหยุดยาวและปีใหม่นี้ประชาชนจะไม่เดินทางท่องเที่ยว ร้อยละ 40.57 เพราะกังวลโควิด-19 โอไมครอน และเงินไม่พร้อม ส่วนอีกร้อยละ 34.35 จะไป เพราะฉีดวัคซีนแล้ว มั่นใจว่าดูแลตัวเองได้ โดยจังหวัดที่อยากไปเที่ยวมากที่สุด คือ เชียงใหม่ ร้อยละ 41.22 รองลงมาคือ เชียงราย ร้อยละ 25.68 คาดการณ์ว่าจะใช้จ่ายประมาณ 12,857.68 บาท ส่วนพาหนะจะเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ร้อยละ 85.79 เลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่อากาศดี ถ่ายเทสะดวก ไม่คับแคบ ร้อยละ 57.36
สิ่งที่อยากให้รัฐบาลดำเนินการเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวและปีใหม่นี้ คือ กำหนดมาตรฐานสุขภาพให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว มีการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข ร้อยละ 64.42 และเร่งสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยจากโควิด-19 ในสถานที่ท่องเที่ยว ร้อยละ 63.57
ด้านนางสาวพรพรรณ บัวทอง นักวิจัย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ระบุ จากผลการสำรวจของสวนดุสิตโพล พบว่า จังหวัดเชียงใหม่ ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตของคนไทย โดยอยู่ในอันดับ 1 ถึง 2 ปีติดต่อกัน เพราะเป็นจังหวัดที่ตอบโจทย์ความต้องการของนักเดินทางได้ครบทุกสไตล์ ภาครัฐจึงควรสนับสนุนการท่องเที่ยววิถีใหม่ปลอดภัยจากโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ ชูจุดเด่นการเป็นทั้งที่เที่ยวและที่ทำงาน (Workation) ให้สอดรับกับนโยบายการทำงานที่บ้าน กระตุ้นกำลังการท่องเที่ยวในประเทศเพื่อชดเชยการชะลอตัวจากตลาดต่างประเทศ สร้างความมั่นใจให้นักเดินทางกล้าที่จะเดินทางท่องเที่ยวและกล้าที่จะใช้จ่ายเงินในกระเป๋า เพื่อให้ภาพการท่องเที่ยวในประเทศมีความสดใสและปลอดภัยจากโควิด-19 ไปพร้อม ๆ กัน
อาจารย์ดุจตะวัน กันไทยราษฎร์ อาจารย์ประจำโรงเรียนการท่องเที่ยวและการบริการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เผยสำหรับการท่องเที่ยวในยุคโควิด-19 มีแนวโน้มว่าคนส่วนใหญ่อาจจะยังไม่พร้อมเดินทางมากนัก เพราะยังลังเลกับสถานการณ์โควิด-19 และไวรัสสายพันธุ์ใหม่ Omicron ที่ยังน่าเป็นห่วง รวมถึงมีความกังวลเรื่องเศรษฐกิจทั้งส่วนตัวและส่วนรวม แต่โดยธรรมชาติของมนุษย์ที่ต้องการเปลี่ยนสถานที่หลีกหนีจากความจำเจในชีวิตประจำวัน ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดในการท่องเที่ยว จึงเชื่อว่ากระแสการออกเดินทางน่าจะยังคึกคักขึ้นกว่าเมื่อ 2-3 เดือนที่แล้ว
นอกจากนี้ ด้วยปัจจัยหลายอย่าง อาทิ การคลายล็อคในหลายธุรกิจและจำนวนผู้ฉีดวัคซีนที่เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งการท่องเที่ยวยังช่วยผ่อนคลาย ช่วยเติมพลังเติมกำลังใจซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการมากที่สุดในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้ จะทำให้ผู้คนเริ่มวางแผนสำหรับปีใหม่โดยเลือกวิธีและการใช้จ่ายที่เหมาะกับตัวเอง โดยเทรนด์สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมจะเป็นที่ที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ เน้นความเรียบง่าย ไม่แออัดรวมถึงใส่ใจในความปลอดภัยห่างไกลโควิด-19 เป็นสำคัญ