บริษัทวิจัยการตลาด คอมสกอร์ เปิดเผยล่าสุดว่า ภาพยนตร์เรื่อง “สไปเดอร์แมน: โน เวย์ โฮม” (Spider-Man: No Way Home) ได้กลายเป็นภาพยนตร์ "เรื่องแรก" ที่สามารถทำรายได้จากยอดจำหน่ายบัตรชมภาพยนตร์ทั่วโลกเกิน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.5 หมื่นล้านบาท) ในระหว่างที่ทั่วโลกเผชิญการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19
สไปเดอร์แมน: โน เวย์ โฮม มีรายได้จากการขายตั๋วเป็นอันดับ 1 ในอเมริกาเหนือ เป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน โดยมีการคาดการณ์รายได้ใน 3 วันเอาไว้ที่ 81.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,730 ล้านบาท) ส่งผลให้รายได้สะสมในอเมริกาเหนือรวมอยู่ที่ 467.33 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.56 หมื่นล้านบาท) และมีรายได้ทั่วโลกรวม 1.05 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.5 หมื่นล้านบาท) เมื่อนับถึงวันอาทิตย์ที่ 26 ธ.ค. ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ สไปเดอร์แมน: โน เวย์ โฮม ยังถือเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดในปี 2021 เอาชนะภาพยนตร์มหากาพย์แนวสงครามของจีนเรื่อง “เดอะ แบทเทิล แอท เลค ฉางจิน” (The Battle at Lake Changjin) ซึ่งทำรายได้ทั่วโลกมากกว่า 902 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.02 หมื่นล้านบาท) เมื่อนับถึงปัจจุบัน ขณะที่ภาพยนต์ที่เคยขึ้นไปแตะระดับ 1,000 ล้านดอลลาร์เรื่องล่าสุดก่อนหน้านี้ คือ “Star Wars: The Rise of Skywalker” ซึ่งออกมาในปี 2019
ก่อนหน้านี้ สไปเดอร์แมน: โน เวย์ โฮม ก็เพิ่งจะสร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นหนังที่เปิดตัวสร้างรายได้สูงสุดในประวัติศาสตร์ของค่ายมาร์เวล เป็นอันดับ 2 รองจาก Avengers: Endgame ซึ่งชาวอเมริกันหลายคนแห่กันไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ในวันที่ออกฉายวันแรก โดยไม่กลัวการแพร่ระบาดของโควิดโอมิครอน
ทั้งนี้ สไปเดอร์แมนซึ่งสร้างมาจากตัวละครของมาร์เวล คอมิกส์ เป็นภาพยนตร์เรื่องล่าสุดในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล และเป็นภาคต่อของ สไปเดอร์แมน: โฮมคัมมิง (Spider-Man: Homecoming) ในปี 2017 และ สไปเดอร์แมน: ฟาร์ ฟรอม โฮม (Spider-Man: Far From Home) ในปี 2019 โดยเป็นภาพยนตร์ชุดสไปเดอร์แมนเรื่องที่ 3 ที่มี ทอม ฮอลแลนด์, เซนดายา และ เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ แสดงนำ กำกับโดยจอน วัตต์ส