ข่าวเศรษฐกิจ

น้ำมันแพง อาหารแพง ทำเงินเฟ้อปี 64 เพิ่ม คาดปี 65 ยังเสี่ยงเงินเฟ้อสูง

5 ม.ค. 65
น้ำมันแพง อาหารแพง ทำเงินเฟ้อปี 64 เพิ่ม คาดปี 65 ยังเสี่ยงเงินเฟ้อสูง
ไฮไลท์ Highlight
"อัตราเงินเฟ้อดังกล่าวชี้ว่า สถานการณ์ด้านราคาสินค้าและบริการของประเทศตลอดทั้งปี 2564 ยังอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ เคลื่อนไหวในทิศทางปกติ สอดคล้องกับปัจจัยด้านอุปทานและด้านอุปสงค์" นายรณรงค์ กล่าว

เงินเฟ้อทั้งปี 2564 เฉลี่ยขยายตัว 1.2 % ถือว่าอยู่ในระดับปกติ โดยสาเหตุเงินเฟ้อเพิ่มมาจาก ราคาน้ำมัน และ ราคาอาหาร หลายรายการที่ปรับสูงขึ้น  ส่วนในปี 2565 ความเสี่ยงจากโควิดโอมิครอน จะส่งผลต่อเศรษฐกิจและเงินเฟ้อยังมีโอกาสผันผวน จึงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด

 

5 ม.ค.65 นายรณรงค์ พูนพิพัฒน์ ผู้อำนวยการ สนค. เปิดเผย อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนธ.ค.64 ที่สูงขึ้น 2.17% หากเทียบกับปีก่อน แต่ลดลงจากเดือนพ.ย. -0.38% ส่งผลให้ทั้งปี 2564 อัตราเงินเฟ้อทั่วไป เฉลี่ยอยู่ที่ 1.23%ซึ่งเงินเฟ้อเดือนธันวาคม 2564 เป็นผลจาก ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงขายปลีกในประเทศสูงน้อยกว่าที่ควรจะเป็น จากมาตรการตรึงราคาน้ำมันของภาครัฐ

 

ขณะที่สินค้าในกลุ่มอาหารสด อาทิ ราคาผักสดยังอยู่ในระดับสูงกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อน ส่วนเนื้อสุกร และไข่ไก่ ปรับสูงขึ้นตามต้นทุนการเลี้ยง โดยเฉพาะราคาเนื้อสุกรปรับเพิ่มตามค่าบริหารจัดการโรคระบาดในสุกร นอกจากนี้ ปริมาณผลผลิตลดลง เนื่องจากผู้ประกอบการรายย่อยลดปริมาณการเลี้ยงสุกร  ส่วนน้ำมันพืช กับข้าวสำเร็จรูป และข้าวราดแกง ราคาปรับสูงขึ้นตามต้นทุนและวัตถุดิบ อย่างไรก็ตาม ข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว ผลไม้สด เสื้อผ้า ค่าเช่าบ้าน ค่าเล่าเรียนและค่าธรรมเนียมการศึกษายังคงปรับลดลง ส่วนสินค้าอื่น ๆ อาทิ เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สิ่งที่เกี่ยวกับทำความสะอาด และของใช้ส่วนบุคคลยังเคลื่อนไหวในทิศทางที่ปกติ สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจและปริมาณผลผลิต

 

สำหรับภาพรวมอัตราเงินเฟ้อทั่วไป เฉลี่ยทั้งปี 64 ที่สูงขึ้น 1.23% ถือว่าใกล้เคียงกับที่กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่าจะขยายตัวในช่วง 0.8 - 1.2% ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) เดือนธ.ค. 64 เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 0.29% และเพิ่มขึ้นจากเดือนพ.ย. 0.05% ส่งผลให้ทั้งปี 64 อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน เฉลี่ยอยู่ที่ 0.23%

"อัตราเงินเฟ้อดังกล่าวชี้ว่า สถานการณ์ด้านราคาสินค้าและบริการของประเทศตลอดทั้งปี 2564 ยังอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ เคลื่อนไหวในทิศทางปกติ สอดคล้องกับปัจจัยด้านอุปทานและด้านอุปสงค์" นายรณรงค์ กล่าว

 

402974

สำหรับแนวโน้มเงินเฟ้อทั่วไป ปีนี้ 2565 คาดว่า จะมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในระดับที่สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจ ทั้งด้านอุปสงค์และอุปทานตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยด้านอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศ จะได้รับแรงสนับสนุนจากการท่องเที่ยว การส่งออกสินค้า การผลิต และอุปสงค์ด้านพลังงาน รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในรูปแบบต่าง ๆ ส่งผลดีต่อรายได้และกำลังซื้อของประชาชน สำหรับอุปทานที่ส่งผลต่อเงินเฟ้อ ได้แก่ แนวโน้มการเพิ่มขึ้นของต้นทุนการผลิต การขนส่ง เงินบาทที่อ่อนค่าลง และการขาดแคลนแรงงาน ส่งผลต่อภาคการผลิตและสินค้าในหมวดอื่น ๆ

 

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยและแนวโน้มเหล่านี้ยังมีความเสี่ยงและมีโอกาสผันผวน รวมถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของไทยอาจจะได้รับแรงกดดันจากโควิด-19 ซึ่งจะกดดันให้เงินเฟ้อของไทยขยายตัวได้อย่างจำกัด โดย สนค. ย้ำว่า จะติดตามสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอนอย่างใกล้ชิด เพราะสถานการณ์ในปี 65 ไม่เหมือนปีก่อน โดยสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาก เช่น ในบางประเทศที่ปีก่อนไม่ได้ล็อกดาวน์ แต่พอเริ่มต้นเดือนม.ค.ก็ประกาศล็อกดาวน์กันไปหลายประเทศจากปัญหาการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน ดังนั้น จึงต้องประเมินสถานการณ์ในประเทศด้วยว่าการระบาดในไทยจะไปในทิศทางใด แต่เชื่อว่าคงจะไม่มีการประกาศล็อกดาวน์เหมือนกับในปี 63

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT