นายกฯ สั่งทุกหน่วยงานวางแผนระยะสั้น-ระยะยาว แก้ปัญหาสินค้าราคาแพงไม่ให้กระทบกลไกตลาด ชี้สถานการณ์เป็นไปตามทิศทางตลาดโลก เตือนอย่าฉวยจังหวะขึ้นราคาสินค้า
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้กำชับสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันบูรณาการแก้ไขปัญหาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในเรื่องของแพงอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ ให้ร่วมกำหนดเป็นมาตรการช่วยเหลือประชาชน ทั้งระยะสั้น และระยะยาว โดยไม่ให้กระทบกลไกตลาด รวมทั้งให้คาดการณ์ความไปในอนาคตว่า เมื่อสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค มีราคาสูงขึ้นหลายชนิดอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ จะส่งผลให้ราคาสินค้าชนิดใดสูงขึ้นตามมาอีกหรือไม่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีต้องการให้กำหนดวิสัยทัศน์ในการแก้ไขปัญหาไปถึงอนาคตเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน
ทั้งนี้ การปรับตัวของราคาสินค้าอุปโภค-บริโภค เป็นไปตามกลไกตลาดอาหารโลก ซึ่งสอดคล้องกับดัชนีราคาอาหารโลก (FAO Food Price Index: FFPI) ที่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) รายงานของปี 2564 ไว้ โดยค่าเฉลี่ยของราคาสินค้าอยู่ในระดับสูงสุด นับตั้งแต่เมื่อปี 2554
สำหรับราคาสินค้ากลุ่มอาหารสดที่สูงขึ้น เช่น เนื้อหมู เป็นผลกระทบจากต้นทุนการเลี้ยง (อาหารสัตว์ ยารักษาโรค) เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งปัญหาโรคระบาดในสุกรในหลายประเทศและมาตรการลดความเสี่ยงโดยการจำกัดจำนวนการเลี้ยงที่ทำให้ปริมาณสุกรในระบบลดลง ซึ่งจะส่งผลให้ราคาสินค้าที่บริโภคทดแทนกันได้ เช่น ไข่ ไก่ ปลา จะมีแนวโน้มปรับราคาสูงขึ้นในอนาคตได้
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ทุกกระทรวงประเมินสถานการณ์ วางแนวทางและมาตรการต่าง ๆ เพื่อดูแลประชาชน โดยจะต้องแก้ไขทั้งผลกระทบเฉพาะหน้าและเร่งหาแนวทางช่วยเหลือในระยะยาวให้ครอบคลุมทั้งกลุ่มผู้ผลิตสินค้า และประชาชนผู้บริโภค รวมทั้งเน้นย้ำให้ทุกกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควบคุมดูแลให้เหมาะสมกับสถานการณ์และความต้องการของประชาชนเป็นที่ตั้ง
"กรณีที่ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคโดยเฉพาะราคาไข่ไก่ และเนื้อไก่เริ่มทยอยปรับราคาสูงขึ้นนั้น นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้กระทรวงพาณิชย์ เร่งเพื่อแก้ไขปัญหาโดยด่วน โดยกรมการค้าภายในจะลงพื้นที่ติดตามและหากพบการฉกฉวยขึ้นราคาก็จะมีการดำเนินคดีอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เป็นการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค แต่หากมีความจำเป็นต้องขึ้นราคาสินค้าในรายการใดก็สามารถทำเรื่องมายังกระทรวงพาณิชย์ เพื่อพิสูจน์เป็นรายกรณีไปว่ามีความจำเป็น ไม่ให้กระทบต่อเกษตรกรรายย่อยจากการกดราคาทางนโยบาย และเพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าขาดตลาดอีก" นายธนกร กล่าว
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนในวันนี้ (11 ม.ค.) โดยมีประเด็นเศรษฐกิจหลายเรื่องเป็นวาระในวันนี้ เช่น
- ปัญหาค่าครองชีพของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นของราคาสินค้าเกือบทุกชนิด ตั้งแต่ราคาเนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ ก๊าซหุงต้ม และค่าโดยสารยานพาหนะ
- กระทรวงการคลังเสนอรายงานข้อเท็จจริงและการดำเนินการ เกี่ยวกับการกำกับดูแลธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
- มาตรการรองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำ ฤดูแล้ง ปี 2564/2565