นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) ครั้งที่ 1/2565 ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานได้เห็นชอบในหลักการแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ Thailand Wellness Sandbox ที่เสนอโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้
1.เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพแห่งใหม่ โดยการปรับภาพลักษณ์หัวหินและชะอำเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพแห่งใหม่ของประเทศไทย
2.เพื่อสร้างตราสินค้าแหล่งท่องเที่ยว โดยประชาสัมพันธ์หัวหินและชะอำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกควบคู่กับพัฒนาการท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกภายใต้โครงการ Thailand Riviera ผ่านการนำเสนอสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
3.เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่มีคุณค่าให้กับนักท่องเที่ยวที่มากกว่าการให้บริการด้วยมาตรฐานระดับสากล ด้วยอัตลักษณ์ของความเป็นไทย
โดยกำหนดเป้าหมายเพื่อพัฒนาสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวในพื้นที่หัวหินและชะอำให้มีมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในระดับสากลและเป็นที่รู้จัก รวมทั้งเพื่อเพิ่มมูลค่าการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวในพื้นที่หัวหินและชะอำ ซึ่งประกอบด้วยโครงการส่งเสริมการตลาดและโครงการพัฒนาด้านอุปทานเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มด้านการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มอบหมายให้ ททท. พิจารณาพื้นที่นำร่องในภูมิภาคอื่น ๆ ที่มีศักยภาพและมีความพร้อม และหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำแผนการดำเนินการในระยะต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุม ศบศ. ได้พิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้าสู่ประเทศไทย การส่งเสริมการลงทุนในกิจการคลาวด์เซอร์วิสและการส่งเสริมการลงทุนสำหรับธุรกิจด้านเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพ พร้อมรับทราบสถานการณ์เศรษฐกิจล่าสุดและความคืบหน้าในการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
นายกันย์ ศรีสมพงษ์ ปะธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL กล่าวกับทีมข่าว "SPOTLIGHT" ว่ามีมุมมองเป็นบวกับเพิ่มเติมจากกรณีที่ ศบค. ให้ส่งเสริมให้หัวหินและชะอำเป็น Thailand Wellness Sandbox หลังจากก่อนหน้านี้รัฐบาลมีแผนจะกลับรับนักท่องเที่ยวประเภท Test & Go อีกครั้ง โดยจะเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในวันที่ 25 ม.ค.นี้ ให้พิจารณาเห็นชอบจากนั้นจะเริ่มเปิดให้นักนักท่องเที่ยวชาวต่างเริ่มมาลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. นี้ โดยถือเป็นปัจจัยบวกสำคัญที่เข้ามาช่วยฟื้นภาคธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมให้กลับมาดีขึ้น
อีกทั้งมองว่าทั้งปัจจัย Test & Go กับ Thailand Wellness Sandbox จะเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมของจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทยปีนี้มีโอกาสไปถึงประมาณ 8 ล้านคน เป็นไปตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เคยคาดการณ์ไว้ว่าในปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยมาประมาณ 7-15 ล้านคน
"กลุ่มโรงแรมเซ็นทรัลพลาซาซึ่งอยู่ในภาคธุรกิจท่องเที่ยวมองว่าธุรกิจเราคงได้ประโยชน์ หากกลับมารับนักท่องเที่ยวแบบ Test & Go ถือเป็นปัจจัยบวกที่สำคัญต่อภาคการท่องเที่ยวเพราะแทบไม่ต้องกักตัวเลยทำให้ช่วยอำนวยความสะดวกให้ชาวต่างชาติ ส่วนการสนับสนุนให้หัวหินและชะอำเป็น Thailand Wellness Sandbox เป็นปัจจัยบวกเสริมาซึ่งบริษัทก็ทีโรงแรมทั้งในหัวหินและชะอำสามารถรองรับได้" นายกันย์ กล่าว
นอกจากนี้ประเมินว่าภาพรวมของธุรกิจท่องเที่ยวได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 3 ปี 2564 พร้อมทั้งคาดว่าสถานการณ์ในปีนี้จะเริ่มฟื้นดีขึ้นชัดเจน หากไม่มีการแพร่ระบาดที่รุนแรงของไวรัสโควิด-19 จนต้องกลับมาล็อกดาวน์ ขณะที่นโยบายของภาครัฐที่ผ่อนคลายมากขึ้นจะเป็นประเด็นสนับสนุนต่อภาคการท่องเที่ยว ส่งผลให้ในปีนี้บริษัทคาดการว่าจะมีรายได้จากพอร์ตธุรกิจในประเทศรวมเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 5,900 ล้านบาทเติบโตขึ้นอย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2564
โดยบริษัทประเมินว่าสัดส่วนรายได้ของบริษัทที่มีมาจากชาวต่างชาติในประเทศจะทยอยเพิ่มขึ้นในไตรมาส 1 ปีนี้อยู่ที่ประมาณ 10%, ไตรมาส 2 ปีนี้จะเพิ่มเป็น 20% และไตรมาส 3 ปีนี้จะเพิ่มเป็นราว 30-40% ของรายได้รวมในประเทศซึ่งดีขึ้นอย่างมากจากปี 2564 รายได้จากชาวต่างชาติหายไปเกือบทั้งหมด แต่ยังถือว่าปี 2562 ที่มีสัดส่วนถึง 80% ของรายได้รวม