ครม. กั๊กต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสีเขียวให้ BTS ส่งกลับไปทำรายละเอียดเพิ่มตามที่กระทรวงคมนาคมขอข้อมูลเพิ่มเติม หวั่นทำค่าตั๋วพุ่ง 65 บาท กระทบชาวบ้าน ด้าน รมว.มหาดไทย ระบุไม่ใช่การตีกลับ-นายกฯ สั่งการเร่งทำเรื่องให้เสร็จชงกลับ ครม.ด่วน
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวง(รมว.) มหาดไทย กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.รับทราบความคืบหน้าผลการเจรจาและร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่ง ครม.ได้ใช้เวลาหารือในเรื่องนี้เป็นเวลานาน เนื่องจากต้องกลับไปทำรายละเอียดตามที่กระทรวงคมนาคมขอข้อมูลเพิ่มเติม
พร้อมยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่ใช่การถอนวาระ หรือการตีกลับ เพียงแต่ต้องนำข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมมาชี้แจงต่อข้อทักท้วงของกระทรวงคมนาคมให้ได้
"หลังจากที่กระทรวงคมนาคม มีหนังสือขอความชัดเจนมา ก็ต้องดำเนินการตอบรับ ไม่ได้กำหนดว่าจะต้องใช้ระยะเวลาเร็วสุดเมื่อใด ซึ่งแล้วเสร็จเมื่อใด ก็เมื่อนั้น และนำกลับมาเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง" พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
ขณะที่นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้นำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้เร็วที่สุด
ด้านนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เปิดเผยว่า ส.ส.ของพรรคฯ เห็นด้วยที่รัฐมนตรีทั้ง 7 คน ของพรรคฯ ไม่เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เนื่องจากไม่ต้องการมีส่วนร่วมในการพิจารณาวาระขอความเห็นชอบผลการเจรจาและร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว
ด้วยเหตุผลที่ว่าหากดำเนินการไปแล้วจะกลายเป็นภาระของประชาชน เนื่องจากค่าโดยสารที่มากเกินไป โดยกำหนดอัตราค่าโดยสารไว้ที่ 65 บาทตลอดสาย เพื่อส่งเสริมผู้มีรายได้น้อยมาใช้บริการ ซึ่งหน่วยงานของกระทรวงคมนาคม เห็นว่าสามารถกำหนดอัตราค่าโดยสารสูงสุดให้ต่ำกว่า 65 บาทได้
"ผมขอขอบคุณที่ผู้ใหญ่ในพรรคภูมิใจไทยมีแนวทางชัดเจนในเรื่องนี้ เพราะเรื่องนี้ เป็นภาระโดยตรงของประชาชนทุกระดับ ขอบคุณที่กล้าสู้ แม้จะอยู่ใน ครม.ชุดเดียวกัน ขอบคุณที่ให้พวกผมได้สู้ในสิ่งที่ผมคิดว่าเป็นประโยชน์กับประชาชนจริงๆ" นายสิริพงศ์ กล่าว
นายสิริพงศ์ กล่าวว่า จากการที่ได้ไปร่วมเสวนารับฟังความคิดเห็นหลายแห่ง พบว่า ราคาค่าโดยสาร 65 บาทที่กำหนดมานั้น ตัวแทนภาคประชาชน สมาคม องค์กร ผู้บริโภค ล้วนแสดงความเป็นห่วงในเรื่องภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ผู้มีรายได้น้อย แต่ละองค์กรเสนอมาล้วนต่ำกว่า 65 บาททั้งนั้น ซึ่งส่วนตัวก็รับไม่ได้กับราคาค่าโดยสารที่แพงเช่นนี้ วันนี้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยต้องแบกรับภาระค่าเดินทางที่มากเกินไป
อีกทั้งยังประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน รายรับไม่เพียงพอกับรายจ่าย และกลายเป็นหนี้สินในที่สุด ซึ่ง ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ก็เห็นด้วยและกำลังหาวิธีในการดำเนินการเรื่องนี้อยู่
นายสิริพงศ์ กล่าวว่า วันนี้มีตัวแทนภาคประชาชนได้ติดต่อมาสอบถาม โดยเฉพาะเรื่องอัตราค่าโดยสาร เพราะค่าครองชีพต่างๆ ก็ขึ้นราคาทุกวัน จึงต้องการฝากให้นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีที่พิจารณาในวันนี้ ได้ใช้สามัญสำนึกตรึกตรองให้ดีถึงความเดือดร้อนของประชาชน
ทั้งนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันนี้(8 ก.พ. 65 ) มีหนึ่งวาระที่สำคัญคือ ขอความเห็นชอบผลการเจรจาและเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเเขียวในปัจจุบัน จะครบกำหนดสัญญาในปี พ.ศ. 2572
โดย มติ ครม.เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2563 กระทรวงมหาดไทยได้รายงานผลการเจรจาต่อรองกับผู้รับสัมปทาน อาทิ 1.ระยะเวลาร่วมลงทุนเพิ่มเติม โดยจะมีการขยายระยะเวลาร่วมลงทุนเพิ่มเติมจากเดิมสิ้นสุดปี พ.ศ. 2572 เป็นสิ้นสุดปี พ.ศ. 2602 หรือ 30 ปี
รวมโครงสร้างอัตราค่าโดยสารส่วนต่อขยาย ระหว่างปี 2562-2602 และเส้นทางหลัก ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2572-2602 กำหนดเป็น 15+3x (x คือ จำนวนสถานี) (ราคา ณ ปี 2562) โดยอัตราค่าโดยสารสูงสุดไม่เกิน 65 บาท โดยจะปรับอัตราค่าโดยสารทุก ๆ 24 เดือน