ข่าวเศรษฐกิจ

ห้ามร้านอาหารขึ้นราคา! “พาณิชย์”จับตาราคาสินค้า

2 เม.ย. 65
ห้ามร้านอาหารขึ้นราคา! “พาณิชย์”จับตาราคาสินค้า

 

กรมการค้าภายในย้ำ การขึ้นราคาก๊าซหุงต้มมีผลต่อต้นทุนประกอบอาหารน้อย ไม่ควรถูกอ้างขึ้นราคาอาหาร ยืนยันยังไม่ให้ขึ้นราคาสินค้า18 หมวด สัปดาห์หน้าเตรียมเรียกคุย

 


นาย จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีข่าวว่าสินค้าอุปโภคบริโภคบางชนิด เช่น ซอสปรุงรส และผงซักฟอก (ผลิตภัณฑ์ซักล้าง) ปรับขึ้นราคา กรมการค้าภายในได้มีการติดตามสถานการณ์ราคาและต้นทุนของสินค้าอุปโภคบริโภคมาโดยตลอด



โดยเฉพาะสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ 18 หมวด ได้แก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หมวดอาหารสด (ไข่ไก่ เนื้อสัตว์) อาหารกระป๋อง ข้าวสารถุง ซอสปรุงรส น้ำมันพืช น้ำอัดลม นมและผลิตภัณฑ์จากนม เครื่องใช้ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์ซักล้าง ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง อาหารสัตว์ เหล็ก ปูนซีเมนต์ กระดาษ ยาเวชภัณฑ์และบริการทางการแพทย์ บริการผ่านห้างค้าปลีก-ส่ง



โดยขณะนี้ยังไม่ได้มีการอนุญาตให้ปรับขึ้นราคาสินค้าแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ต้นสัปดาห์หน้ากรมฯ จะเรียกผู้ผลิตสินค้ากลุ่มซอสปรุงรสและผงซักฟอก (ผลิตภัณฑ์ซักล้าง) เพื่อกำชับในเรื่องราคา รวมทั้งจะประชุมร่วมกับห้างค้าส่งค้าปลีก เพื่อติดตามสถานการณ์ราคาและปริมาณสินค้า และให้มีการเตรียมสต็อกสินค้าให้เพียงพอต่อการจำหน่ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ด้วย



สำหรับการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ขนาด 15 กก. ในเดือนเมษายน โดยจะปรับขึ้นเป็น 333 บาท เชื่อว่าจะมีผลต่อต้นทุนในการประกอบอาหารเพียงเล็กน้อย เนื่องจากก๊าซหุงต้ม 1 ถัง ใช้ทำอาหารได้ 200-300 จาน ดังนั้น การปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มจึงไม่ควรเป็นเหตุผลให้ผู้ประกอบการร้านอาหารปรับขึ้นราคา



อย่างไรก็ตาม กรมฯ จะติดตามสถานการณ์ราคาอาหารอย่างใกล้ชิด และเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน และห้ามฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาโดยเด็ดขาด หากตรวจพบจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีไม่ติดป้ายแสดงราคาจะมีโทษ ปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีที่มีการฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าเกินแพงเกินสมควร กักตุนสินค้าหรือปฏิเสธการจำหน่ายต้องโทษจำคุก 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการจำหน่ายสินค้าหรือบริการที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด


 

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT