"ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย" ศรีลังกาจ่อใกล้ "เบี้ยวหนี้"

"ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย" ไม่ใช่แค่ประโยคเด็ดของลูกหนี้ตัวเล็กๆ ทั่วโลกเท่านั้น เพราะแม้แต่รัฐบาลบางประเทศ ก็ยังเคยใช้สูตรนี้กันมาแล้ว

ล่าสุดถึงคิวของประเทศ "ศรีลังกา" ที่มีข่าวว่ารัฐบาลถังแตกมาพักใหญ่ๆ ผู้ว่าแบงก์ชาติศรีลังกาได้ออกมาประกาศแล้วว่า "จะหยุดจ่ายหนี้ชั่วคราว เพื่อเอาเงินไปซื้อสิ่งของจำเป็นก่อน"

นายนันดาลัล วีระสิงห์ ผู้ว่าการธนาคารกลางศรีลังกา ประกาศการพักชำระหนี้ต่างประเทศทั้งหมด ซึ่งมีกำหนดชำระทั้งสิ้น 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปีนี้ (ราว 1.34 แสนล้านบาท) และยังมีพันธบัตรอีก 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 33,650 ล้านบาท) ซึ่งจะครบกำหนดชำระในเดือน ก.ค. ที่จะถึง

ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติให้เหตุผลว่า ศรีลังกากำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ท้าทายและยากที่จะหลีกเลี่ยงได้ การพักชำระหนี้ต่างประเทศ จึงเป็นการดำเนินการที่เป็นไปได้มากที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานะผิดนัดชำระหนี้ด้วย

แต่การพักชำระหนี้จะยาวนานเท่าใดนั้น วีระสิงห์กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการหารือและการเจรจากับบรรดาเจ้าหนี้ และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ซึ่งรัฐบาลศรีลังกากับไอเอ็มเอฟจะเริ่มการหารือฉุกเฉิน ในวันที่ 18 เม.ย. นี้ ขณะที่เงินทุนสำรองระหว่างประเทศซึ่งมีอยู่อย่างจำกัดนั้น จะถูกนำไปจัดสรรเพื่อซื้อหาสิ่งของอุปโภคและบริโภคที่จำเป็น โดยเฉพาะอาหารและเชื้อเพลิง

ทั้งนี้ ศรีลังกายังไม่เข้าข่ายการผิดนัดชำระหนี้ (Default) เนื่องจากหนี้งวดต่อไปที่ถึงกำหนดครบชำระคือในเดือน ก.ค. แต่การประกาศพักชำระหนี้ (ฝ่ายเดียว) โดยลูกหนี้นั้น ถือเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนของรัฐบาลศรีลังกา ที่ต้องการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับบรรดาเจ้าหนี้ต่างประเทศทั้งหลาย

อย่างไรก็ตาม เป็นที่คาดว่าวิกฤตเศรษฐกิจครั้งร้ายแรงที่สุดของศรีลังกา จะไม่ลุกลามกระทบไปยังประเทศอื่นๆ เนื่องจากเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดเล็กและไม่ได้มีความเชื่อมต่อทางเศรษฐกิจภายนอกมากนัก ไม่เหมือนกับวิกฤตการณ์หนี้ยูโรโซน และวิกฤตหนี้กรีซ เมื่อ 10 ปีก่อน ที่มีความเชื่อมโยงกันในหลายประเทศยุโรป โดยปัญหาของศรีลังกานั้นคาดว่าจะส่งผลในแง่ของ "การเมืองในภูมิภาค" โดยเฉพาะกับ 2 ประเทศอิทธิพลขนาดใหญ่อย่าง จีน และ อินเดีย มากกว่า

ทำความเข้าใจกับวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในศรีลังกาได้ที่นี่
https://www.facebook.com/108480414745082/posts/307764061483382/

ศรีลังกาวอนนานาชาติส่งเงินช่วยเหลือ “แสนล้าน” หลังวิกฤติเศรษฐกิจเข้าขั้นร้ายแรง
https://www.amarintv.com/spotlight/economy/detail/23963