คนไทยอาจจะตื่นเต้นกับข่าวการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวของญี่ปุ่น แต่ต้องติดตามดูรายละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากการเตรียมเปิดประเทศครั้งนี้ เป็นเพียงแค่การทดลองเปิดเท่านั้น คาดว่าจะขยายจำนวนชาวต่างชาติต่อวันเป็น 20,000 คน และน่าจะเริ่มเปิดได้ในเดือนมิถุนายนนี้
นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ฟูมิโอะ คิชิดะ ได้พูดถึงการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า การเปิดประเทศครั้งนี้เป็นการทดลองเปิดรับนักท่องเที่ยวให้เพิ่มขึ้นจากเดิม โดยปัจจุบันกำหนดไว้ที่ 10,000 คนต่อวัน เป็น20,000 คนต่อวัน โดยรัฐบาลต้องการประเมินสถานการณ์การระบาดของโควิด19 ในช่วงวันหยุดประจำชาติ หรือ Golden Week ช่วงต้นเดือนพฤษภาคม นี้อีกครั้ง
สำนักข่าวฟูจิ นิวส์ เน็ตเวิร์ค FNN รายงานว่า ชาวต่างชาติหรือผู้ที่จะเดินทางเข้าญี่ปุ่นต้องได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 มาแล้ว 3 เข็ม และการเดินทางเข้าญี่ปุ่น มีการกำหนดเป็นแพคเกจทัวร์ และเปิดให้เที่ยวในเส้นทางที่ถูกกำหนดไว้ ซึ่งแน่นอนว่าหากทดลองเปิดรับนักท่องเที่ยวครั้งนี้ไม่ได้ทำให้ญี่ปุ่นมีการระบาดเพิ่ม ก็จะขยายการเปิดรับรับนักท่องเที่ยวต่างชาติและขยายแพคเกจเส้นทางเพิ่มขึ้นอีก
ขณะที่ในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นต่างยินดีกับข่าวนี้ เพราะภาคการท่องเที่ยวเคยร้องขอให้รัฐบาลอนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา ซึ่งได้ประโยชน์จากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงมาก อย่างไรก็ตาม คิชิดะ ยังไม่ได้มีการกล่าวถึงมาตรการสวมหน้ากากอนามัย และขณะนี้รัฐบาลญี่ปุ่นยังคงแนะนำให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยทั้งภายในอาคาร และนอกอาคาร
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ราคาหุ้นของบริษัทเกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยวต่างพุ่งขึ้นรับข่าวนี้ โดยหุ้นของเจแปน แอร์ไลนส์ พุ่งขึ้นถึง ร้อยละ 4.5 ขณะที่หุ้นของบริษัท Japan Airport Terminal พุ่งขึ้น ร้อยละ 6.8 หุ้น Travel Agency HIS ตกลงในช่วงเช้าและเพิ่มขึ้นมากราว 2.7%
นักกลยุทธ์จากธนาคาร ซูมิโตโม มิตซุย บอกว่า ขณะนี้เศรษฐกิจของญี่ปุ่นฟื้นตัวช้ามากหากเทียบกับสหรัฐอเมริกา ที่ใช้นโยบายอยู่กับไวรัสซึ่งหลายฝ่ายคาดหวังว่าการเปิดประเทศจะสามารถกระตั้นเศรษฐกิจในประเทศได้ แต่อีกด้านนึง การเปิดประเทศก็อาจจะไม่ได้มีผลต่อเศรษฐกิจมากอย่างที่หวัง เพราะนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นก่อนเกิดการระบาดของโควิด19 คือ นักท่องเที่ยวจีน ซึ่งขณะนี้จีนยังคงปิดประเทศ
สำหรับการเข้าประเทศญี่ปุ่นในปัจจุบัน มีการทยอยผ่อนคลายบ้างตั้งแต่ช่วงมีนาคมที่ผ่านมา โดยเปิดรับ นักเรียนต่างชาติ นักวิจัย นักธุรกิจ ชาวต่างชาติ หากเข้ามาแบบไม่กักตัวต้องมีเงื่อนไขคือ มีการฉีดวัคซีนเข็ม 3 หรือ บูสเตอร์โดสแล้ว กำหนดให้เป็นวัคซีนจาก ไฟเซอร์ โมเดอร์น่า และ โนวาแวกซ์ และต้องมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงระบาดต่ำ ซึ่งที่ผ่านมาก็เริ่มปลดล็อคหลายประเทศแล้ว อย่างไรก็ตามหากการเดินทางเข้าไม่เข้าเงื่อนนี้ ยังจำเป็นต้องถูกกักตัวเป็นเวลาอย่างน้อย 3 วัน
ส่วนตัวเลขคนไทยเที่ยวญี่ปุ่น ปี2562 ก่อนเกิดโควิดระบาด อยู่ที่ราว 1.5 ล้านคน