ผู้โดยสารไหวมั้ย? สมาคมแท็กซี่ไทยชงขึ้นค่ารถแท็กซี่ จาก 35 บาทเป็น 45 บาท รถใหญ่เป็น 50 บาท ปรับขึ้นอัตราต่อกิโลเมตร - ค่าเรียกรถที่สนามบิน หลังเงินเฟ้อพุ่งขึ้นตลอด 5 ปี แต่ค่าแท็กซี่ไม่เปลี่ยนแปลง
เครือข่ายสมาคมแท็กซี่สาธารณะไทย 4 สมาคม ได้ยื่นข้อเสนอขอปรับอัตราค่าโดยสาร รถเล็กเครื่องยนต์ 1600-1800 ซีซี ปรับค่าเริ่มต้น กิโลเมตรแรกจาก 35 บาทในปัจจุบัน เป็น 45 บาท, รถใหญ่เครื่องยนต์ 2000 ซีซี ขึ้นไปปรับค่าเริ่มต้น กิโลเมตรแรกจาก 35 บาทในปัจจุบัน เป็น 50 บาท
รวมทั้งขอปรับอัตรา กิโลเมตรที่ 2-10 จากปัจจุบัน กิโลเมตรละ 5.5 บาทเพิ่มเป็นกิโลเมตรละ 10 บาท, กรณีรถไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ต่ำกว่า 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คิด 5 บาทต่อนาที จากปัจุจบัน 1.50 บาทต่อนาที ซึ่งเป็นเกณฑ์ค่าโดยสารที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2557
ส่วนกรณีการเรียกรถผ่านท่าอากาศยานดอนเมือง หรือท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ให้เรียกเก็บค่าจ้าง (Service Charge) รถแท็กซี่ขนาดเล็กจากเดิม 50 บาท ปรับเพิ่มเป็น 75 บาท และรถแท็กซี่ขนาดใหญ่ จากเดิม 50 บาท เพิ่มเป็น 95 บาท
ทั้งนี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้ขอให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเวทีสาธารณะเพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และทุกภาคส่วน ภายหลังจากผู้ประกอบการรถแท็กซี่ ได้ยื่นเรื่องต่อ ขบ. เพื่อขอปรับอัตราค่าโดยสารให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ซึ่งในเบื้องต้นจากการรับฟังความเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น มูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญ และเอ็นจีโอ ทุกฝ่ายต่างมีความเห็นว่าอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันเพิ่มขึ้นจาก 5 ปีก่อนถึง 7% ในขณะที่ยังไม่มีการปรับขึ้นค่าโดยสารแท็กซี่
พร้อมกันนี้ ขอให้ ขบ.ไปพิจารณาอัตราและกรอบการปรับอัตราค่าโดยสาร รวมถึงการปรับราคาขึ้น-ลงตามเงินเฟ้อ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และสอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริง
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า หลังจากนี้ ขบ. ต้องเปิดเวทีสาธารณะเพื่อรับฟังความเห็นเพิ่มเติมอีกอย่างน้อย 3 ครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าประชาชนและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้รับทราบข้อมูลอย่างครบถ้วน ทั่วถึง และมีความเห็นตรงกันว่าควรปรับราคาโดยสารแท็กซี่ และพิจารณาอัตราที่เหมาะสม เพื่อดูแลทั้งผู้ประกอบการ และประชาชน จากนั้นจึงจะเดินหน้าต่อ แต่หากยังไม่ตกผลึกก็จะยังไม่อนุญาตให้ปรับราคา
"เวทีสาธารณะรับฟังความคิดเห็นนั้น คาดว่าทาง ขบ.จะจัดในเดือนก.ย. และต.ค.นี้ ประมาณ 3 ครั้ง ในทุกช่องทาง เพื่อสร้างการรับรู้ให้ได้ทั่วถึง คาดว่าในสิ้นปีนี้จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ไม่อยากให้เดินหน้าไปแล้ว แต่ยังมีความเห็นเข้ามาอีก อยากให้พิจารณาข้อมูลให้ครบถ้วน และเป็นที่ยอมรับทุกฝ่ายก่อน แท็กซี่เองก็ต้องชี้แจงด้วยว่าจะปรับปรุงอะไรบ้าง" นายศักดิ์สยาม กล่าว
ทั้งนี้ สำหรับการรับฟังความคิดเห็นที่ผ่านมา มีข้อแนะนำจากมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค เห็นว่าแท็กซึ่ต้องมีการปรับปรุงบริการด้วย ซึ่งปัจจุบันผู้ประกอบการแท็กซี่มีหลายมาตรฐาน เพื่อให้ผู้โดยสารเลือกใช้บริการที่มีคุณภาพ เช่น รถสะอาด คนขับสุภาพ แต่งตัวสะอาด ขับขี่ปลอดภัย และปฎิบัติตามกฎจราจร จึงเชื่อว่าผู้โดยสารพร้อมจะจ่ายเงินเพิ่ม
นอกจากนี้ ได้ให้ ขบ.ศึกษาแนวทางการช่วยเหลือผู้ประกอบการแท็กซี่ในรูปแบบอื่นๆ เพื่อช่วยให้แท็กซี่ได้ลดต้นทุนในการดำเนินการ และไม่เป็นภาระกับภาครัฐ เช่น การช่วยเหลือกรณีปรับเปลี่ยนไปใช้รถแท็กซี่พลังงานไฟฟ้า เป็นต้น
รมว.คมนาคม กล่าวว่า ในพื้นที่กทม. และปริมณฑล ยังมีระบบขนส่งมวลชนอีกหลายทางเลือก ทั้งรถไฟฟ้า เรือ รถโดยสารสาธารณะ ซึ่งอยู่ระหว่างการเพิ่มจำนวนรถโดยสารที่ใช้พลังงานไฟฟ้า (EV) มาให้บริการภายในปีนี้จำนวน 1,250 คัน และภายใน 3 ปี รถโดยสารสาธารณะที่ใช้พลังงานที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจะค่อยๆ หมดไป