กบง.ไฟเขียวตรึงราคาก๊าซหุงต้มไว้ที่ประมาณ 408 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ต่อเนื่องอีก 2 เดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 หวังช่วยลดผลกระทบค่าครองชีพของประชาชน
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เปิดเผย มติ กบง.ให้คงราคาขายส่งหน้าโรงกลั่น LPG ที่ 19.9833 บาทต่อกิโลกรัม (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เพื่อให้ราคาขายปลีก LPG อยู่ที่ประมาณ 408 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัมต่อไป โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565
ก่อนหน้านี้ กบง.ได้ตรึงราคา LPG อยู่ที่ 408 บาทต่อถัง 15 กก.ไว้ 1 เดือน โดยมีผล 1-31 ต.ค.นี้ จึงได้มีการพิจารณาทบทวนในระยะต่อไป โดยให้ตรึงต่อไปถึงสิ้นปีเพื่อช่วยลดผลกระทบค่าครองชีพของประชาชน
ทั้งนี้สถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซีย ยูเครน สร้างความปั่นป่วนให้กับราคาพลังงานของโลกทั้งน้ำมันและก๊าซ ตั้งแต่ต้นปี จนทำให้ทั่วโลกเผชิญปัญหาเงินเฟ้อปรับสูงขึ้น โดยพบว่าในเดือนกันยายน 2565 ถึงเดือนตุลาคม 2565 ราคา LPG ตลาดโลกลดลงประมาณ 69.40 เหรียญสหรัฐต่อตัน หรือลดลงร้อยละ 11 จาก 644.65 สู่ระดับ 575.25 เหรียญสหรัฐต่อตัน ณ วันที่ 18 ตุลาคม 2565
ในขณะที่ราคาขายปลีกในประเทศอยู่ที่ 408 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ส่งผลต่อสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 16 ตุลาคม 2565 มีฐานะกองทุนสุทธิติดลบ 126,690 ล้านบาท แยกเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 84,126 ล้านบาท บัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 42,564 ล้านบาท
การตรึงราคาก๊าซ LPG จะทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีภาระเพิ่มขึ้น และอาจเกิดปัญหาการลักลอบจำหน่าย LPG ไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่ราคาLPG สูงกว่าไทย ทำให้ที่ประชุม กบง.มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ ประสานคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เพื่อพิจารณาบริหารจัดการเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้สอดคล้องกับแนวทางการทบทวนการกำหนดราคาก๊าซ LPG ต่อไป และให้หน่วยงานที่เกียวข้องติดตามสถานการณ์LPGอย่างใกล้ชิด