ผู้นำรุ่นที่ 3 ของจีน ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว ปิดฉากผู้สานต่อเศรษฐกิจจีนสู่เวทีโลก และผู้นำแก๊งค์เซี่ยงไฮ้ ที่เป็นคลื่นใต้น้ำของ "สีจิ้นผิง"
สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า นายเจียง เจ๋อหมิน อดีตประธานาธิบดีของจีน เสียชีวิตจากโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวและอวัยวะหลายส่วนล้มเหลว ในนครเซี่ยงไฮ้ เมื่อเวลา 11.13 น. วันนี้ตามเวลาในไทย (30 พ.ย. 65)
นายเจียงถือเป็นผู้นำสายปฏิรูปที่เน้นด้านเศรษฐกิจ เป็นทายาททางการเมืองต่อจากประธานาธิบดี เติ้ง เสี่ยงผิง ในปี 2532 โดยขึ้นสู่อำนาจหลังเกิดเหตุประท้วงนองเลือดที่จตุรัสเทียนอันเหมิน ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ดาวรุ่งทางการเมืองเช่น จ้าว จื่อหยาง แตกหักกับเติ้ง เสี่ยวผิง จนทำให้เติ้งเลือกเจียงขึ้นมาเป็นผู้นำรุ่นที่ 3 ต่อจากตนเอง
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ตอนที่เจียง ขึ้นมาเป็นผู้นำจีนแทนที่เติ้ง ในปี 2532 จีนยังอยู่ในช่วงแรกของการปรับเศรษฐกิจประเทศให้ทันสมัย โดยเป็นการสานต่อหลังจากที่เปิดประเทศในยุคของเติ้ง แต่เมื่อตอนที่เขาพ้นจากตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2546 จีนก็ได้เข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก (WTO) แล้ว และกรุงปักกิ่งได้เป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ปี 2008 ซึ่งเป็นการเดินหน้าสู่สถานะการเป็นมหาอำนาจของโลก
โรเบิร์ต ลอว์เรนซ์ คุห์น ผู้เขียนอัตชีวประวัติของเจียง เจ๋อหมิน ในชื่อหนังสือว่า “ชายผู้เปลี่ยนจีน ชีวิตและมรดกของเจียง เจ๋อหมิน” เขียนไว้ว่า การนำจีนเข้าเป็นสมาชิก WTO “เป็นปัจจัยสู่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจแบบเลขสองหลักนานกว่าทศวรรษ”
“ทิศทางเศรษฐกิจของจีนชัดเจนในยุคสมัยนั้น ในความคิดของผม และจนถึงวันที่สิ้นสุดวาระดำรงตำแหน่งของเขา จีนก็ย้อนกลับไปสู่จีนแบบเก่าไม่ได้อีกต่อไป”
อย่างไรก็ดี ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ผู้สังเกตการณ์หลายคนมองว่า การบริหารงานของเจียง เป็นต้นตอนำไปสู่การทุจริตคอรัปชันที่กว้างขวาง ซึ่งยังเป็นที่ครหามาจนถึงวันนี้
เจียง เคยกล่าวถึงประโยชน์ของการที่ “ทุกคนมั่งคั่งได้อย่างเงียบ ๆ” ในขณะที่กระชับอำนาจพรรคคอมมิวนิสต์ในฐานะรัฐบาลพรรคเดียว แทนการปฏิรูปการเมืองให้มีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น
สื่อหลายสำนักยังมีการรายงานว่า เจียงถือเป็นผู้นำของ "แก๊งค์เซี่ยงไฮ้" หรือกลุ่มก๊วนทางการเมืองที่ทรงอิทธิพลที่สุดกลุ่มหนึ่งในจีน ส่วนใหญ่เป็นลูกหลานของคนระดับผู้นำในพรรคคอมมิวนิสต์
ผู้นำรุ่นที่ 5 ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง และผู้นำรุ่นที่ 3 อดีตประธานาธิบดี เจียง เจ๋อหมิ๋น
โดยครั้งหนึ่งถึงขั้นที่การวัดอำนาจทางการเมืองในจีนนั้น มาจาก 2 ขั้วหลักๆ คือ แก๊งค์เซี่ยงไฮ้ที่นำโดยเจียง และกลุ่มสันนิบาตยุวชนพรรคคอมมิวนิสต์ ที่นำโดยอดีตประธานาธิบดี หู จิ่นเทา หรือผู้นำรุ่น 4 ของจีนนั่นเอง ก่อนที่ในภายหลัง การเมืองภายในของจีนจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา และมีข่าวที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง พยายามจัดการกับแก๊งค์เซี่ยงไฮ้ที่เป็นเหมือนคลื่นใต้น้ำทางการเมืองด้วย
นักวิเคราะห์กล่าวว่า เจียงและแก๊งเซี่ยงไฮ้ของเขายังมีอำนาจในพรรคคอมมิวนิสต์อีกนานหลังเขาพ้นตำแหน่งสูงสุด โดยเจียงใช้ชีวิตอยู่กับภรรยา หวัง เย่อปิง และบุตรชายสองคน
ล่าสุด สถานที่ราชการจีนลดธงครึ่งเสาเพื่อไว้อาลัยกับการจากไปของเจียง เจ๋อหมิน ขณะที่การเสียชีวิตของเขามีขึ้นในระหว่างที่จีนกำลังเผชิญเหตุประท้วงครั้งใหญ่ในหลายเมืองทั่วประเทศ เพื่อต่อต้านการบังคับใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์อันเข้มงวดของรัฐบาล
ที่มา: บีบีซี, CNN, AFP