ข่าวเศรษฐกิจ

เอกชนขานรับเลือกตั้ง คาดมีเงินสะพัด 1 แสนล้านบาท ดัน GDP โต 3.5-4.% 

23 ก.พ. 66
เอกชนขานรับเลือกตั้ง คาดมีเงินสะพัด 1 แสนล้านบาท ดัน GDP โต 3.5-4.% 

เมื่อการเมืองไทยเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น เมื่อนายกแสดงเจตนาจะยุบสภาช่วงเดือนมี.ค.2566 ส่วนกำหนดการเลือกตั้งตามที่คณะกรรมการเลือกตั้งกำหนดไว้ คือ 7 พ.ค.2566 โดยตลาดหลักทรัพย์ไทยได้รับข่าวแล้วในวันแรกที่มีความชัดเจน

ในแง่ของบรรยากาศของนักลงทุนไทยและต่างชาติ ความเชื่อมั่นของภาคเอกชน นักธุรกิจ มีผลต่อการตัดสินใจลงทุนมากน้อยแค่ไหน 

 

วันนี้ Spotlight จะพาฟังเสียงสะท้อนของภาคเอกชน และนักวิชาการที่มีมุมมองต่อการเลือกตั้งว่าจะส่งผลอย่างไรกับภาคธุรกิจบ้าง 

 

คาดเลือกตั้งมีเม็ดเงินสะพัดกว่า 1 แสนล้านบาท

 “การที่จะมีการเลือกตั้งจะส่งผลทำให้บรรยากาศต่างๆ ของภาคธุรกิจดีขึ้น และคาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดจากการเลือกตั้งกว่า 1 แสนล้านบาท ในช่วงไตรมาส 2/66 ที่อยู่ระหว่างการเลือกตั้ง หรืออยู่ในระหว่างการตั้งรัฐบาล และตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใหม่” รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวกับ “Spotlight” 

สำหรับนักลงทุนต่างชาติคงรอดูทิศทางและนโยบาย รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ และเชื่อว่าในไตรมาส 3/66 การลงทุนทุกอุตสากรรมจะกลับมาคึกคักมากขึ้นหลังมีความชัดเจนของรัฐบาล

 

คาด GDP ปีนี้โตได้ 3.5-4.0% 

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/66 จะขยายตัวได้ดีหลังการเลือกตั้ง ทั้งการท่องเที่ยว การส่งออก จะขยายตัวดีขึ้นกว่าช่วงครึ่งปีแรกของปี 66 ผลักดันทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP) ของไทยปี 66 เติบโตที่ 3.5- 4  % จากปัจจัยบวก ดังนี้

  • หลังการเลือกตั้งความเชื่อมั่นนักลงทุนจะมีมากขึ้น
  • เศรษฐกิจโลกจะไม่ชะลอตัวไปมากกว่านี้
  • ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะไม่ปรับตัวสูงขึ้นไปกว่านี้
  • จีนเปิดประเทศเร็วกว่าคาด หนุนท่องเที่ยว การค้า การลงทุน
  • เศรษฐกิจสหรัฐ ยุโรป ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว

755557

 

สภาอุตฯ ท่องเที่ยวคาดนทท.ปีนี้ทะลุ 30 ล้านคน

ด้านสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายภูริวัจน์ ลิ้มถาวรรัตน์ ที่ปรึกษาประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวกับ “Spotlight” ว่า “การจัดการเลือกตั้งจะส่งผลดีต่อจิตวิทยาการท่องเที่ยวกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่สิ่งที่อยากให้ทุกพรรคการเมือง รวมถึงรัฐบาลใหม่ ก็คือ การเร่งเดินหน้านโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยให้ต่อเนื่อง เพราะการท่องเที่ยวถือว่า เป็นเครื่องยนต์สำคัญที่จะช่วยพยุงและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ไปต่อได้  

อย่างไรก็ตาม สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย อยากให้รัฐบาลใหม่เข้ามาช่วยดูแลประเด็นต่างๆ ดังนี้

  • ดูแลด้านความปลอดภัย บริการให้มีคุณภาพ
  • เร่งช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานท่องเที่ยว โรงแรม ที่ยังต้องการอีกหลายแสนตำแหน่ง
  • เร่งหาทางร่วมมือกับเอกชนแก้ไขปัญหาตั๋วเครื่องบินแพง เพิ่มไฟลท์บินเส้นทางเมืองท่องเที่ยว
  • ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนฟื้นฟูกิจการหลังโควิด-19

อย่างไรก็ตาม คาดว่าหลังการเลือกตั้งการท่องเที่ยวจะคึกคักทั้งตลาดใน และต่างประเทศ โดยปี 2566 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยอาจทะลุ 30 ล้านคน แต่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยก็ยังคงต้องมีโอกาสเผชิญกับปัจจัยเสี่ยง คือ ภัยธรรมชาติ โรคระบาด สงคราม ที่อาจเกิดขึ้นในต่างประเทศและมากระทบการท่องเที่ยวไทยได้

477021

 

สมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย คาดเลือกตั้งส่งผลดีต่อกับการจับจ่ายใช้สอย

 

นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย กล่าวกับ “Spotlight” ว่า การเลือกตั้งอาจทำให้บรรยากาศในการจับจ่ายใช้สอยภาคธุรกิจค้าส่ง-ค้าปลีกปรับตัวดีขึ้น และจะส่งผลให้มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจด้วย

โดยปีนี้คาดว่าธุรกิจค้าส่ง-ค้าปลีก ปี 2566  เติบโต 1-2 % จากปีก่อน ส่วนแนวทางการกระตุ้นกำลังซื้อนั้น โดยอยากเห็นมาตรการเรื่องราคาสินค้าเกษตรให้ปรับตัวดีขึ้นของรัฐบาลชุดใหม่ และงดการนำเข้าสินค้าเกษตรบางตัวเพื่อให้ราคาในประเทศดีขึ้น จะเป็นการเพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชน

 

หอการค้าไทยชี้เลือกตั้งส่งผลมีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ

 

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าไทย เปิดเผยว่า หากมีการเลือกตั้ง 7 พ.ค.2566 ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่มีความชัดเจนทางการเมืองมากขึ้น เพราะการเลือกตั้งทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจประมาณ 8-9 หมื่นล้านบาท ซึ่งหากรัฐบาลมีเสถียรภาพและมั่นคง ผลการเลือกตั้งที่ชัดเจนเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย เชื่อว่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนานาชาติได้

โดยภาคเอกชนต้องการให้มีการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งให้เร็วที่สุด เพื่อจะได้พิจารณางบประมาณให้ทันเวลา และมีมาตรการใหม่มากระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ทิศทางกำลังขยายตัวไปได้ดี นอกจากนี้ อยากให้รัฐบาลใหม่เร่งช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เพราะที่ผ่านมาภาคธุรกิจเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

 

ทั้งหมดนี้ คือ มุมมองของภาคเอกชน และนักวิชาการ ที่สะท้อนภาพเศรษฐกิจ การลงทุน การจับจ่ายใช้สอย ในช่วงก่อนการเลือกตั้ง หลังการเลือกตั้งปีนี้่ เพราะทิศทางการเมืองไทยมีความสำคัญต่อภาพเศรษฐกิจไทย รวมถึงมาตรการต่างๆ ของรัฐบาลชุดใหม่ที่จะออกมา โดยเฉพาะมาตรการที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคต่างๆ ของประเทศ ทั้งการลงทุนภาครัฐและเอกชน การอุปโภคบริโภคภายในประเทศ รวมถึงภาคการท่องเที่ยวก็เช่นเดียวกัน

advertisement

SPOTLIGHT