กระแส ‘พิธา’ ฟีเวอร์ยังแรงไม่หยุด จนททท.มีแผนเตรียมดึง ‘พิธา’ เป็นแอมบาสเดอร์การท่องเที่ยวไทย หวังกระตุ้นนักท่องเที่ยวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ล่าสุด พิธา โพสต์ IG แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวไทย ระบุภายหลังเดินสายหาเสียงเลือกตั้งพบแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย
โดยนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า หากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่สำเร็จลุล่วง และนายพิธา ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี นายพิธาน่าจะเป็นแอมบาสเดอร์ที่ดีให้กับภาคท่องเที่ยวไทยได้ ด้วยที่มีบุคลิกเข้าถึงคนรุ่นใหม่ และในฐานะเป็นผู้นำทางความคิด (KOL) เชื่อว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะแถบเอเชียตะวันออก เช่น จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายของททท. คือ นักท่องเที่ยวคนรุ่นใหม่ (Young Traveler) เพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ คาดว่าการจัดตั้งรัฐบาลแล้วเสร็จในเดือน ส.ค.นี้ เข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ช่วงปลายปีพอดี หากรัฐบาลใหม่มีมาตรการช่วยเหลือสนับสนุนผู้ประกอบการเพิ่มเติม คาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ลดความเสี่ยงเรื่องชะลอการใช้จ่ายได้ ทั้งเรื่องการท่องเที่ยวและอุปสงค์ใช้จ่ายในประเทศ และคาดว่าจะสามารถช่วยผลักดันให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติไปถึงเป้าหมายไม่น้อยกว่า 25 ล้านคนตลอดปี 66
สภาอุตฯ ท่องเที่ยว หวังได้นายกรัฐมนตรีเป็นแอมบาสเดอร์โปรโมตท่องเที่ยว
ขณะที่สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) มีความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกับผู้ว่าการททท. โดยนายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ สทท. กล่าวว่า เมื่อการจัดตั้งรัฐบาลใหม่สำเร็จ ไม่ว่าใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีก็ตาม และถ้านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรั สทท.อยากเห็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่เป็นแอมบาสเดอร์ โปรโมตการท่องเที่ยวของประเทศไทย ช่วยดึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ
โดยเป็นกลยุทธ์แบบควิกวิน กระตุ้นการเติบโตของภาคท่องเที่ยวซึ่งมีศักยภาพเป็นแม่งานในการสร้างรายได้แก่เศรษฐกิจไทย และถ้าการท่องเที่ยวเป็นวาระแห่งชาติจะถือว่าดี และขอให้เป็นประธานในที่ประชุมร่วมกับกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง กำกับภาคท่องเที่ยวและทำงานแบบบูรณาการ รวมถึง ต้องการเห็นการเชื่อมกันแบบไร้รอยต่อ เพราะขณะนี้การฟื้นตัวของดีมานด์นักท่องเที่ยวไม่น่ามีปัญหา และปีนี้คาดว่านักท่องเที่ยวชาติน่าจะถึงเป้าหมายไม่น้อยกว่า 25 ล้านคน
‘พิธา’ โพสต์ IG แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวไทย
ภายหลังจาก ททท.ปื้งไอเดียดึง ‘พิธา’ ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 30 เป็นแอมบาสเดอร์คนใหม่แล้วนั้น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้โพสต์อินตราแกรม pita.ig ว่า
“ ตลอดการหาเสียง ลงพื้นที่ตอนเป็น ส.ส ผมเห็นที่เที่ยวในประเทศไทยเยอะมาก และ มีสถานที่น่าสนใจมากกว่าที่นักท่องเที่ยวไปกันเยอะๆ เสียอีก ผมอยากเห็นการท่องเที่ยวไทย ฟื้นตัวจากโควิดครั้งนี้ คนมาเยอะขึ้นกว่าเดิม อยู่นานกว่าเดิม กระจายไม่กระจุกแค่หัวเมือง ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
ส่วนตัวแล้วที่โปรดของผม ที่อยากพานักท่องเที่ยวไป ถ้าเขามา คือ T H A I
T - Transquil tourism สโลไลฟที่แม่น้ำตาปี นครศรีธรรมราช คือที่ผมชอบมาก แต่นักท่องเที่ยว ตปท ไม่ค่อยไป เมื่อเทียบกับ ในประเทศ
H - homestay tourism ไม่ว่าจะเป็น farmstay แบบญี่ปุ่น หรือ agritourismo แบบอิตาลี อย่างที่สุโขทัย แต่กฎหมาย พรบ homestay ควรรีบผลักดัน และ ส่งเสริม
A - Adventure tourism ที่ปีนเขาดีๆ มีมากกว่ากระบี่ เชียงใหม่ ไม่ว่าจะเป็น ลำปาง กาญจนบุรี ลพบุรี
I - Indigeneous tourism อันนี้ชอบที่สุด การท่องเที่ยวของพี่น้องชาติพันธ์ มี 3 C = culture, cuisine, craft ที่น่าหลงใหล ที่ พิพิมชอบมากที่สุด คือ lisu lodge เชียงราย เมื่อสุราก้าวหน้าผ่าน จะได้กิน เหล้าจากข้าว หรือ ข้าวโพด แบบพี่น้อง ปกากะญอ แบบพี่น้องม้ง
ทั้งนี้ทั้งนั้น มีแนวทางใหม่ๆ segment ใหม่ๆ เยอะ แต่ เดินทางลำบาก แรงงานไม่พอ อุปสรรคทัวร์ไกด์ ความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ก็ต้องแก้ไขไปด้วย แก้ทั้ง demand & supply Dear Globetrotters! Missing Thailand? Please come back soon!”
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วง 5 เดือนแรกของปี 66 (ม.ค.-พ.ค.) ททท.ประเมินว่าจะมีจำนวนทะลุ 10 ล้านคน และเมื่อดูกระแสการเดินทางเฉพาะเดือน พ.ค. ที่เข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่นหลังผ่านช่วงพีคเทศกาลสงกรานต์ โดยปัจจุบันเดินทางเข้าไทยประมาณ 50,000 คนต่อวัน จากเข้ามาเฉลี่ย 70,000-80,000 คนต่อวันก่อนหน้านี้ ถ้าเดือน พ.ค. ได้นักท่องเที่ยวต่างชาติถึง 2 ล้านคน เดือนที่เหลือก็ไม่ต้องกังวลแล้ว
ส่วนเป้าหมายรายได้รวมการท่องเที่ยวไทยจากทั้งตลาดในและต่างประเทศปี 66 ททท.ยังคงเป้าการฟื้นตัวที่ระดับ 80% ของรายได้รวม 3 ล้านล้านบาทในปี 62 ก่อนโควิด-19 ระบาด และสร้างแรงส่งไปยังปี 67 ที่วางเป้าหมายรายได้รวมฟื้นตัว 100%