ข่าวเศรษฐกิจ

ททท.เตรียมดึง พิธา เป็นแอมบาสเดอร์คนใหม่ 'พ่อส้ม' โพส IG ชวนเที่ยวไทย

26 พ.ค. 66
ททท.เตรียมดึง พิธา เป็นแอมบาสเดอร์คนใหม่ 'พ่อส้ม' โพส IG ชวนเที่ยวไทย

กระแส ‘พิธา’ ฟีเวอร์ยังแรงไม่หยุด จนททท.มีแผนเตรียมดึง ‘พิธา’ เป็นแอมบาสเดอร์การท่องเที่ยวไทย หวังกระตุ้นนักท่องเที่ยวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ล่าสุด พิธา โพสต์ IG แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวไทย ระบุภายหลังเดินสายหาเสียงเลือกตั้งพบแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย

โดยนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า หากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่สำเร็จลุล่วง และนายพิธา ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี นายพิธาน่าจะเป็นแอมบาสเดอร์ที่ดีให้กับภาคท่องเที่ยวไทยได้ ด้วยที่มีบุคลิกเข้าถึงคนรุ่นใหม่ และในฐานะเป็นผู้นำทางความคิด (KOL) เชื่อว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะแถบเอเชียตะวันออก เช่น จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายของททท. คือ นักท่องเที่ยวคนรุ่นใหม่ (Young Traveler) เพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ คาดว่าการจัดตั้งรัฐบาลแล้วเสร็จในเดือน ส.ค.นี้ เข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ช่วงปลายปีพอดี หากรัฐบาลใหม่มีมาตรการช่วยเหลือสนับสนุนผู้ประกอบการเพิ่มเติม คาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ลดความเสี่ยงเรื่องชะลอการใช้จ่ายได้ ทั้งเรื่องการท่องเที่ยวและอุปสงค์ใช้จ่ายในประเทศ และคาดว่าจะสามารถช่วยผลักดันให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติไปถึงเป้าหมายไม่น้อยกว่า 25 ล้านคนตลอดปี 66

สภาอุตฯ ท่องเที่ยว หวังได้นายกรัฐมนตรีเป็นแอมบาสเดอร์โปรโมตท่องเที่ยว

ขณะที่สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) มีความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกับผู้ว่าการททท. โดยนายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ สทท. กล่าวว่า เมื่อการจัดตั้งรัฐบาลใหม่สำเร็จ ไม่ว่าใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีก็ตาม และถ้านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรั สทท.อยากเห็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่เป็นแอมบาสเดอร์ โปรโมตการท่องเที่ยวของประเทศไทย ช่วยดึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ 

โดยเป็นกลยุทธ์แบบควิกวิน กระตุ้นการเติบโตของภาคท่องเที่ยวซึ่งมีศักยภาพเป็นแม่งานในการสร้างรายได้แก่เศรษฐกิจไทย และถ้าการท่องเที่ยวเป็นวาระแห่งชาติจะถือว่าดี และขอให้เป็นประธานในที่ประชุมร่วมกับกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง กำกับภาคท่องเที่ยวและทำงานแบบบูรณาการ รวมถึง ต้องการเห็นการเชื่อมกันแบบไร้รอยต่อ เพราะขณะนี้การฟื้นตัวของดีมานด์นักท่องเที่ยวไม่น่ามีปัญหา และปีนี้คาดว่านักท่องเที่ยวชาติน่าจะถึงเป้าหมายไม่น้อยกว่า 25 ล้านคน 

‘พิธา’ โพสต์ IG แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวไทย

ภายหลังจาก ททท.ปื้งไอเดียดึง ‘พิธา’ ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 30 เป็นแอมบาสเดอร์คนใหม่แล้วนั้น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้โพสต์อินตราแกรม pita.ig ว่า

ตลอดการหาเสียง ลงพื้นที่ตอนเป็น ส.ส ผมเห็นที่เที่ยวในประเทศไทยเยอะมาก และ มีสถานที่น่าสนใจมากกว่าที่นักท่องเที่ยวไปกันเยอะๆ เสียอีก ผมอยากเห็นการท่องเที่ยวไทย ฟื้นตัวจากโควิดครั้งนี้ คนมาเยอะขึ้นกว่าเดิม อยู่นานกว่าเดิม กระจายไม่กระจุกแค่หัวเมือง ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

ส่วนตัวแล้วที่โปรดของผม ที่อยากพานักท่องเที่ยวไป ถ้าเขามา คือ T H A I

T - Transquil tourism สโลไลฟที่แม่น้ำตาปี นครศรีธรรมราช คือที่ผมชอบมาก แต่นักท่องเที่ยว ตปท ไม่ค่อยไป เมื่อเทียบกับ ในประเทศ

H - homestay tourism ไม่ว่าจะเป็น farmstay แบบญี่ปุ่น หรือ agritourismo แบบอิตาลี อย่างที่สุโขทัย แต่กฎหมาย พรบ homestay ควรรีบผลักดัน และ ส่งเสริม

A - Adventure tourism ที่ปีนเขาดีๆ มีมากกว่ากระบี่ เชียงใหม่ ไม่ว่าจะเป็น ลำปาง กาญจนบุรี ลพบุรี

I - Indigeneous tourism อันนี้ชอบที่สุด การท่องเที่ยวของพี่น้องชาติพันธ์ มี 3 C = culture, cuisine, craft ที่น่าหลงใหล ที่ พิพิมชอบมากที่สุด คือ lisu lodge เชียงราย เมื่อสุราก้าวหน้าผ่าน จะได้กิน เหล้าจากข้าว หรือ ข้าวโพด แบบพี่น้อง ปกากะญอ แบบพี่น้องม้ง 

ทั้งนี้ทั้งนั้น มีแนวทางใหม่ๆ segment ใหม่ๆ เยอะ แต่ เดินทางลำบาก แรงงานไม่พอ อุปสรรคทัวร์ไกด์ ความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ก็ต้องแก้ไขไปด้วย แก้ทั้ง demand & supply Dear Globetrotters! Missing Thailand? Please come back soon!”

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วง 5 เดือนแรกของปี 66 (ม.ค.-พ.ค.) ททท.ประเมินว่าจะมีจำนวนทะลุ 10 ล้านคน และเมื่อดูกระแสการเดินทางเฉพาะเดือน พ.ค. ที่เข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่นหลังผ่านช่วงพีคเทศกาลสงกรานต์ โดยปัจจุบันเดินทางเข้าไทยประมาณ 50,000 คนต่อวัน จากเข้ามาเฉลี่ย 70,000-80,000 คนต่อวันก่อนหน้านี้ ถ้าเดือน พ.ค. ได้นักท่องเที่ยวต่างชาติถึง 2 ล้านคน เดือนที่เหลือก็ไม่ต้องกังวลแล้ว

ส่วนเป้าหมายรายได้รวมการท่องเที่ยวไทยจากทั้งตลาดในและต่างประเทศปี 66 ททท.ยังคงเป้าการฟื้นตัวที่ระดับ 80% ของรายได้รวม 3 ล้านล้านบาทในปี 62 ก่อนโควิด-19 ระบาด และสร้างแรงส่งไปยังปี 67 ที่วางเป้าหมายรายได้รวมฟื้นตัว 100%

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT