ข่าวเศรษฐกิจ

ผู้ว่ากทม.เตรียมหารือรัฐบาลใหม่ อยากให้กทม.เป็นศูนย์กลางบริษัทข้ามชาติ

4 ก.ย. 66
ผู้ว่ากทม.เตรียมหารือรัฐบาลใหม่ อยากให้กทม.เป็นศูนย์กลางบริษัทข้ามชาติ
ไฮไลท์ Highlight
"หนึ่งนโยบายสำคัญที่กทม.จะต้องนำเข้าไปหารือ และคงสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล คือการผลักดันให้กทม.เป็นศูนย์กลางของบริษัทข้ามชาติ เพราะเศรษฐกิจคือหัวใจของเมือง เพราะเศรษฐกิจคือการสร้างเมือง สร้างรายได้ ในขณะที่เมืองคือตลาดแรงงาน การที่คนมาอยู่ในเมืองเพราะมีงาน และจะมีงานได้ต้องดึงบริษัททั่วโลกให้มาที่กทม. เพื่อให้เกิดการจ้างงาน หากมีบริษัทที่มีคุณภาพจากทั่วโลกมาอยู่ในไทยจะเป็นการสร้างงาน ครอบคลุมไปถึงผู้ที่มีห้องให้เช่า คนขับรถแท็กซี่ ร้านอาหาร เกษตรกร ผลที่ได้จะเป็นห่วงโซ่การบริโภคที่จะสามารถลงไปถึงรากหญ้าได้"

"หนึ่งนโยบายสำคัญที่กทม.จะต้องนำเข้าไปหารือ และคงสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล คือการผลักดันให้กทม.เป็นศูนย์กลางของบริษัทข้ามชาติ เพราะเศรษฐกิจคือหัวใจของเมือง เพราะเศรษฐกิจคือการสร้างเมือง สร้างรายได้ ในขณะที่เมืองคือตลาดแรงงาน การที่คนมาอยู่ในเมืองเพราะมีงาน และจะมีงานได้ต้องดึงบริษัททั่วโลกให้มาที่กทม. เพื่อให้เกิดการจ้างงาน หากมีบริษัทที่มีคุณภาพจากทั่วโลกมาอยู่ในไทยจะเป็นการสร้างงาน ครอบคลุมไปถึงผู้ที่มีห้องให้เช่า คนขับรถแท็กซี่ ร้านอาหาร เกษตรกร ผลที่ได้จะเป็นห่วงโซ่การบริโภคที่จะสามารถลงไปถึงรากหญ้าได้"


นี่คือภารกิจสำคัญที่ผู้ว่า กทม.นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เตรียมแผนที่เข้าพบรัฐบาลชุดใหม่เพื่อหารือแนวทางการทำงานร่วมกัน 
ผู้ว่าชัชชาติ มองว่า การลงทุนในสมัยนี้เปลี่ยนไปแล้ว ไม่ใช่การลงทุนในภาคอุตสาหกรรมแต่อย่างใด แต่เป็นการลงทุนในภาคบริการหรือการ sevice การเงิน start up และธุรกิจInnovation ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในเมือง กรุงเทพมหานครจึงต้องร่วมกับรัฐบาล หรือร่วมกับ BOI (Board of Investment หรือ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน) เพื่อดึงดูดนักลงทุน 

ผู้ว่า กทม.นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์

ที่ผ่านมากทม.มีการหารือกับหอการค้าต่างประเทศมาโดยตลอด ตลอดจนหารือกับนักลงทุน นักธุรกิจชาวต่างประเทศที่อยู่ในประเทศไทย โดยได้สอบถามปัญหาและความต้องการ เพื่อให้เห็นว่ากทม.มีความจริงใจในการดูแลนักลงทุน

"เรามีโครงการจะทำเป็น One Stop Service เพื่ออำนวยความสะดวกนักลงทุน และกองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศ ซึ่งเรื่องนี้ต้องขอโอกาสเพื่อพูดคุยความเป็นไปได้กับรัฐบาล เพื่อดึงรายได้เข้ามาในกรุงเทพฯให้ได้ กรุงเทพฯในปัจจุบันมีความน่าอยู่มาก มีปัจจัยหลายอย่างมีความเหมาะสม ทั้งสถานที่ตั้งออฟฟิศที่ราคาไม่แพง มีโรงเรียนนานาชาติ โรงพยาบาลที่สามารถรองรับบุคลากรของบริษัทข้ามชาติได้ ถือว่าโอกาสนี้เป็นนาทีทองของเรา" ผู้ว่าฯกทม. กล่าว

นอกจากนี้ กทม.เตรียมลิสต์ประเด็นการหารือไว้แล้ว มีเรื่องสำคัญ ทั้งเรื่องการจราจร ปัญหารถติดซึ่งมีหลายหน่วยงานเกี่ยวข้อง เรื่องของรถไฟฟ้าบีทีเอส ค่าโดยสาร และเรื่องภาระหนี้

ซึ่งหาก กทม.สามารถเป็นศูนย์กลางบริษัทข้ามชาติได้จริงก็คงสร้างแรงกระเพื่อมต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยได้ไม่น้อย แต่ภารกิจนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการเป็นเมืองศูนย์กลางของบริษัทต่างชาติมีหลาองค์ประกอบ โครงสร้างพื้นฐานของเมืองที่ต้องพร้อม ทั้งการคมนาคมขนส่งของเมือง อสังหาริมทรัพย์ รวมไปถึงค่าครองชีพ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สิ่งแวดล้อม อื่นๆอีกมากมากมาย

advertisement

SPOTLIGHT