หากใครที่เป็นสายกีฬาน่าจะได้ดูแมตช์หยุดโลก 3 ชั่วโมง 8 นาที ของ บูม กษิดิศ สำเร็จ นักเทนนิสไทย มือ 418 ของโลก ที่ได้ไปเจอกับ ดานิล เมดเวเดฟ นักเทนนิสชาวรัสเซีย มือ 5 ของโลก ในการแข่งขัน Australian Open 2025
แม้ว่านักเทนนิสของไทยจะพ่ายแพ้ในการแข่งขันนี้ไป แต่สำหรับแฟนๆชาวไทย ‘บูม กษิดิศ’ เปรียบเสมือนความหวังใหม่แห่งวงการนักหวดไทย ปลุกประแสและสร้างความครึกครื้นให้แก่วงการเทนนิสให้กลับมาสดใสอีกครั้งในรอบ 13 ปี เพราะก็ต้องยอมรับว่า “นานมากแล้วที่เราไม่ได้เห็นนักเทนนิสไทยไปเล่นที่แกรนด์สแสม”
แต่ช่วงระหว่างการแข่งขันหลายๆคนน่าจะได้โฟกัสที่ไม้แร็กเก็ตคู่ใจของ ‘บูม กษิดิศ’ ซึ่งเป็นแบรนด์เดียวกันกับไม้แบดมินตันของ ‘วิว กุลวุฒิ’ และ ‘เมย์ รัชนก’ ในการแข่งขันโอลิมปิคปารีส 2024 ที่ผ่านมา
วันนี้ SPOTLIGHT จึงอยากพาทุกคนมารู้จักกับ Yonex แบรนด์ไม้เทนนิสคู่ใจของ ‘บูม กษิดิศ’ ในศึก Australian Open 2025
รู้หรือไม่ ว่าก่อนที่ Yonex จะขึ้นเป็นบริษัทผู้นำในวงการอุปกรณ์กีฬานั้น จุดเริ่มต้นของแบรนด์นี้ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับกีฬาเลยไม่แม้แต่น้อย แต่เริ่มต้นจากกการผลิตอุปกรณ์หาปลา
Yonex ได้ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1946 หรือเมื่อ 79 ปีที่แล้ว ช่วงหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ไม่นาน โดยคุณ Minoru Yoneyama ในชื่อบริษัท Yoneyama โดยธุรกิจแรกที่พวกเขาทำก็คือ ‘ทุ่นไม้’ สำหรับแหจับปลา แต่แล้วการมาถึงของทุ่นพลาสติกกลายเป็นสิ่งที่บีบให้บริษัทต้องออกจากธุรกิจนี้ไป
ซึ่งดูเหมือนว่าเทรนด์ที่เปลี่ยนไปในครั้งนั้น สะท้อนให้เห็นว่าหากธุรกิจไม่ปรับ ก็ไม่สามารถอยู่รอดได้ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลก ซึ่งคุณ Minoru Yoneyama ก็มีความคิดเห็นแบบนี้เช่นเดียวกัน โดยเขาได้มีการดึงจุดแข็ง ด้านงานไม้ก้าวเข้าไปทำธุรกิจรับจ้างผลิต (OEM) ไม้แบดมินตันให้กับแบรนด์ Sanbata ในปี 1957
แต่แล้วการตัดสินใจในครั้งนั้น ก็เปลี่ยนชีวิตของบริษัทเขาไปตลอดกาล เมื่อการทำไม้แบดมินของเขาได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ทำให้ Minoru Yoneyama อยากทำสินค้าของเขาให้มีความหลากหลายตอบโจทย์ผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งในปี 1961 บริษัท Yonex ได้เปิดตัวไม้แบดมินตันที่ทำจากอะลูมิเนียมเป็นครั้งแรก และได้รับเสียงตอบรับอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าเนื่องจาก น้ำหนักที่เบากว่า ความคงทนและประสิทธิภาพก็ใช้ได้นานกว่าไม้แบดมินตันแบบเดิมๆ
หลังจากนั้นกิจการของ Yonex ก็ขยับขยายอย่างรวดเร็วทั้งในประเทศญี่ปุ่นและต่างประเทศ และยังได้รุกธุรกิจกีฬาอื่นๆอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น เทนนิส, กอล์ฟ, สโนว์บอร์ด, จักรยานเสือหมอบ และแบดมินตัน รวมถึงอุปกรณ์กีฬาอื่นๆ เช่นรองเท้าวิ่ง, กระเป๋าใส่ออกกำลังกาย หรือ ชุดกีฬา
ปัจจุบัน Yonex มี 2 ธุรกิจหลักที่เกี่ยวของกับกีฬา นั้นก็คือ
ซึ่งแบดมินตัน เป็นอุปกรณ์กีฬาที่ได้รับความนิยมสูงสุด รวมถึงมีสัดส่วนรายได้มากที่สุด กว่า 62.4% ตามมาด้วย เทนนิส 14.8%, กอล์ฟ 1.63%, อื่นๆ 20.7%
ในขณะที่สัดส่วนรายได้จากแต่ละภูมิภาคทั่วโลก พบว่า ญี่ปุ่น 44.2%, เอเชีย 47.1%, อเมริกาเหนือ 4.7% และยุโรป 3.9%
โดยปี 2023 ที่ผ่านมา YONEX มีรายได้รวม 28,813 ล้านบาท กำไร 2,192 ล้านบาท
เป็นที่รู้กันว่าหากเราขายอุปกรณ์กีฬา คนที่สามารถนำเสนอสินค้าของแบรนด์ได้ดีทีสุดไม่ใช่ นางแบบหรือนายแบบ แต่เป็นเหล่านักกีฬาตัวจริงที่เล่นบนสนาม
Yonex ได้เข้าไปเป็นสปอนเซอร์ให้แก่นักกีฬามากมายหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นนักเทนิสชาวออสเตรเลีย Nick Kyrgios มือวางอันดับ 13 ของโลก หรือแม้แต่บูม กษิดิศ สำเร็จ นักเทนนิสไทย มือ 418 ของโลก
โดยทางสปอนเซอร์ของแบรนด์นั้นหมายความว่า สปอนเซอร์ทุกสินค้าในประเภทกีฬานั้นๆ ซึ่งดีลนักกีฬาของแต่ละคนอาจจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับranking หรือความดังของนักกีฬา เช่น สปอนเซอร์เฉพาะอุปกรณ์กีฬาตอนซ้อมและตอนลงแข่ง โดยแบรนด์ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มเพียงแค่ส่งของให้ หรือ เป็นการจ้างแบบ brand ambassador ที่แบรนด์จะต้องจ่ายเงินเป็นสัญญาว่าจ้าง พร้อมกับส่งผลิตภัณฑ์ให้แก่นักกีฬาคนนั้นๆ ทำให้เราได้เห็นบูม กษิดิศ ได้ใช้ไม้ของ Yonex หรือแม้แต่กระเป๋าของ Yonex ในการแข่งขัน Australian Open 2025
โซเชียลมีเดีย ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในอาวุธที่สำคัญสำหรับแบรนด์ในการสร้าง awareness และนักกีฬาก็เปรียบเสมือนกับคนดังที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง ที่มีฐานแฟนคลับและผู้ติดตามจำนวนมาก และแน่นอนว่าทุกครั้งที่เหล่านักกีฬาโพสต์ว่าใช้ของอะไร เหล่าแฟนคลับก็มักจะซื้อตาม
เช่น นักเทนิสชาวออสเตรเลีย Nick Kyrgios มือวางอันดับ 13 ของโลก มีผู้ติดตามใน Instagram กว่า 4.3 ล้านคน โพส 1 ครั้งเฉลี่ยมีไลค์ถึง 2.5 แสนไลค์
Yonex ยังมีวิธีการปั้นแบรนด์สุดคลาสสิคผ่านสปอนเซอร์ให้ทัวร์นาเมนต์ เช่น การแข่งขันแบดมินตันในประเทศไทย YONEX-SINGHA-BAT-BTY Championships 2024 หรือเข้ามาเป็น สปอนเซอร์ให้แก่ Australian Open ในปี 2024 ที่ผ่านมา
ทั้งหมดนี้ ทำให้ Yonex ขึ้นเป็นหนึ่งในแบรนด์อุปกรณ์กีฬาที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นทั้งตัวสินค้า หรือการสร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านตัวนักกีฬาที่เป็น brand ambassador
อ้างอิง Yonex