G-SHOCK ร่วม CMG ดึง ซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน รุกคนรุ่นใหม่ที่ชอบกีฬา

เมื่อพูดถึงนาฬิกาที่อยู่คู่คนไทยมานานกว่า 43 ปี หนึ่งในชื่อที่หลายคนอาจนึกถึง คงหนีไม่พ้น ‘G-SHOCK’ นาฬิกาที่มีจุดเด่นด้าน ‘ความทนทาน’ ต่อแรงกระแทก และสามารถใช้งานหนักได้ หากตกลงมาจากตึก 3 ชั้น หรือถูกปาแรงๆ นาฬิกาก็คงทนสภาพปกติ เหมือนยังไม่เคยเกิดไรขึ้นมาก่อน

คอนเทนต์แนะนำ

เปิดใจ น้องเฟิร์น นิสิตคณะเภสัชศาสตร์ ผู้ชนะเลิศออกแบบโลโก้ "หมูเด้ง"

พบร่างสาวคนดังเมืองพิมายคาบ้านหรู

“ปานเทพ” เผยคดี 39 ล้าน เป็นตัวล็อกเป้า เย้ย“ตั้มไม่เนียนไม่ฝึกมาใหม่”

เมื่อการแข่งขันสูง ก็ต้อง 'คอลแลป' G-SHOCK ขยายฐานลูกค้า เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชอบกีฬา

แม้จะเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดนาฬิกาไทยที่มีสินค้ากว่า 600 SKUs แต่การแข่งขันยังคงมีสูง การนำจุดเด่นของผลิตภัณฑ์มานำเสนออาจไม่เพียงพอแล้ว สินค้าต้องมีความแปลกใหม่ สวยงาม และใช้งานได้นาน และในเวลาเดียวกัน ต้องขยายฐานกลุ่มลูกค้าเพื่อเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ด้วย

ล่าสุด ‘เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป’ (CMG) ผู้นำเข้าและจำหน่ายนาฬิกา G-SHOCK ตอกย้ำภาพลักษณ์ของแบรนด์ เปิดตัวแคมเปญ ‘TOUGH LIKE YOU’ จับมือ ‘ONE Championship’ ดึง ‘ซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน’ นักมวยชื่อดังระดับโลก เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์นาฬิกา ‘G-STEEL GM-2110D Metal Series’ เจาะตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบกีฬา และตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์นาฬิกาสุดแกร่ง

แคมแปญ TOUGH LIKE YOU มีการลงทุนไปกว่า 20 ล้านบาท โดยเริ่มตั้งแต่ในไตรมาสที่ 4/2567 ถึงปี 2568 สอดคล้องกับการทำการตลาดของ G-SHOCK ที่ใช้ Brand Ambassador ที่มี DNA สอดคล้องกับแบรนด์ มาช่วยตอกย้ำจุดเด่น และถ่ายทอดไลฟ์สไตล์ที่เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย ผ่านกลยุทธ์ ‘FAMS’ หรือ FASHION, ART, MUSIC, SPORT เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมกับแบรนด์อย่างลึกซึ้งและต่อเนื่อง เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ 

จิตรฤดี พนิตพล รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มสินค้าแฟชั่นและนาฬิกา CMG เผยว่า ตลาดนาฬิกาในประเทศไทย มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ต้องเผชิญกับความท้าทายจากการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ G-SHOCK จึงมีการคอลแลปกับสินค้าและแบรนด์ดัง เช่น ‘เฮลโลคิตตี้’ จาก SANRIO และล่าสุด ‘ซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน’ เพื่อเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่สนใจในกิจกรรมกีฬา และความทนทานของนาฬิกา

“กลุ่มคนรักกีฬาเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง โดยเฉพาะในยุคที่ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพ และกิจกรรมกลางแจ้งมากขึ้น จึงมองเห็นโอกาสในการเติบโตในกลุ่มนี้ เนื่องจากพวกเขามีความต้องการผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้งานได้ในทุกสถานการณ์ รวมถึง ความทนทานและดีไซน์ที่มีสไตล์ นอกจากนี้ กีฬา ‘มวย’ ยังเป็นที่นิยมมากขึ้นทั้งในผู้ชายและผู้หญิงด้วย” จิตรฤดี กล่าว

ส่วนสาเหตุที่ G-SHOCK ดึง ‘ซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน’ ยอดมวยชาวไทยแชมป์โลก คิกบ็อกซิ่ง เฟเธอร์เวต เฉพาะกาล ในฐานะ Brand Ambassador นาฬิกา ‘G-STEEL GM-2110D Metal Series’ เป็นเพราะความแข็งแกร่ง ความอดทน และสไตล์ที่โดดเด่นที่ซุปเปอร์บอน ซึ่งตรงกับจุดเด่นของนาฬิกา G-SHOCK และแคมเปญใหม่ ‘TOUGH LIKE YOU’ สร้างแรงบันดาลใจให้กับกลุ่มเป้าหมาย และเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์

สำหรับนาฬิการุ่น G-STEEL GM-2110D Metal Series มูลค่า 10,900 บาท เป็นรุ่นที่นำ ‘ไลฟ์สไตล์แฟชั่น’ และ ‘ความแกร่ง’ ของ G-SHOCK มารวมกันอย่างลงตัว โดยตัวเรือนเป็นโลหะที่มีดีไซน์หรูหราและแข็งแรง ทนทาน เหมาะกับทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวัน และการสวมใส่ในโอกาสพิเศษ ทำให้ตอบโจทย์ทั้งในแง่การใช้งานและความโดดเด่นในสไตล์

ทั้งนี้ เทรนด์ของการซื้อนาฬิกาในยุคนี้ จะเน้นช่องทางออนไลน์ เนื่องจากลูกค้าจะค้าหาข้อมูล เพื่อเปรียบเทียบฟีเจอร์ สเปก และราคาก่อนตัดสินใจซื้อจริง หรือไปตามห้างสรรพสินค้าเพื่อเปรียบเทียบสินค้าจริง โดยอัตราการซื้อนาฬิกาซ้ำเฉลี่ยอยู่ที่ปีละ 1-2 เรือน และลูกค้าคนไทยส่วนใหญ่จะเริ่มซื้อนาฬิกา G-SHOCK รุ่นที่มีราคาประมาณ 5,000-7,000 บาท

“โดยในไตรมาสสุดท้ายนี้ คาดว่า จะเห็นผลจากแคมเปญและการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์อย่างต่อเนื่องจนถึงปลายปีหน้า บริษัทได้วางแผนจัดกิจกรรมการตลาดผ่านแคมเปญต่างๆ ที่จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทั่วประเทศ เพื่อสร้างประสบการณ์กับแบรนด์ G-SHOCK ให้ชัดเจนและเป็นที่จดจำ” จิตรฤดี ปิดท้าย