ในวันนี้ (1 มีนาคม 2567) เวลา 09.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงวิสัยทัศน์ “IGNITE THAILAN HUB” รัฐบาลจึงมีแผนจะพัฒนาท่าอากาศยานของไทยให้กลับมาติดอันดับ 1 ใน 50 สนามบินที่ดีที่สุดในโลกภายใน 1 ปี และอันดับ 1 ใน 20 สนามบินที่ดีที่สุดในโลกภายใน 5 ปี จากเมื่อปี 2548 สนามบินสุวรรณภูมิเคยอยู่ในอันดับที่ 13 ของโลก
สำหรับแผนการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
- แผนจะขยายขีดความสามารถให้รองรับผู้โดยสารได้ 150 ล้านคนต่อปีภายในปี 2573
- ส่วนอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 หรือ SAT-1 สามารถรองรับผู้โดยสารจาก 45 ล้านคนต่อปี เป็น 60 ล้านคนต่อปีภายในระยะเวลา 6 เดือน
- ในปี 2567 นี้ เตรียมจะเปิดใช้ทางวิ่งเส้นที่ 3 จะต้องทำให้เสร็จภายในเดือนตุลาคม 2567 หรือเร็วกว่านั้น ซึ่งจะสามารถรองรับเที่ยวบินจาก 68 เที่ยวต่อชั่วโมง เป็น 94 เที่ยวต่อชั่วโมง
- มีแผนจะก่อสร้างขยายอาคารผู้โดยสารทางทิศตะวันออก - ทิศตะวันตก ให้สามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอีก 30 ล้านคนต่อปี
- ยังมีแผนจะก่อสร้างอาคารผู้โดยสารทางทิศใต้ ให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นอีก 60 ล้านคนต่อปี รวมถึงมีแผนจะก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 4 รองรับเที่ยวบินได้ถึง 120 เที่ยวบินต่อชั่วโมงอีกด้วย
- การตรวจคนเข้าเมือง จะต้องปรับปรุงให้มีความคล่องตัว รวดเร็วมากกว่านี้ และจะต้องแก้ไขปัญหาได้ภายใน 6 เดือน และจะมีการเปิดเช็คอิน โหลดสัมภาระแบบอัตโนมัติ โดยให้เพิ่มการเปิดเช็คอินและโหลดสัมภาระก่อนเครื่องบินจะขึ้น 6 ชั่วโมง เพื่อเพิ่มความสะดวกให้ผู้โดยสารสามารถชอปปิ้งได้โดยไม่ต้องกังวล
แผนสนามบินดอนเมือง
ส่วนสนามบินดอนเมืองนั้น จะเป็นสนามบินหลักสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศและเที่ยวบินระหว่างประเทศในภูมิภาค โดยรัฐบาลมีแผนจะเปลี่ยนสนามบินให้เป็นสนามบินแบบ POINT-TO-POINT มีจุดเด่นให้บริการเข้าออกได้เร็วขึ้น และจะขยายขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารจากเดิม 30 ล้านคน เป็น 50 ล้านคนต่อปีภายในปี 2573 ผ่านการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารเดิม และจะขยายอาคาร 1 และอาคาร 2 เป็นอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ รองรับผู้โดยสารได้ 27 ล้านคนต่อปี และจะสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศใหม่ รองรับผู้โดยสารได้ 23 ล้านคนต่อปี
แผนสนามบินภูเก็ต
สำหรับท่าอากาศยานภูเก็ต มีแผนจะสร้างสนามบินภูเก็ตแห่งที่ 2 หรือ ท่าอากาศยานอันดามัน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนภูเก็ต พังงา กระบี่ รวมถึงจังหวัดใกล้เคียง และจะพัฒนาสะพานสารสินเพื่อรองรับจำนวนรถให้ได้มากขึ้น และให้เรือขนาดใหญ่สามารถแล่นผ่านได้เช่นกัน
นอกจากนี้ สำหรับท่าอากาศยานภูเก็ต รัฐบาลจะพัฒนาส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ และก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบิน รองรับผู้โดยสารจากเดิม 12.5 ล้านคนต่อปี เป็น 18 ล้านคนต่อปีภายในปี 2573
รวมถึง กำลังอยู่ในช่วงศึกษาโครงการพัฒนา Seaplane & Ferry Terminal พัฒนาพื้นที่อากาศยานขึ้น-ลงในทะเล เพื่อรองรับผู้โดยสารชั้นสูง เชื่อมต่อไปยังเกาะสมุย เกาะช้าง และหัวหิน เป็นต้น
ส่วนท่าอากาศยานอันดามันที่มีแผนจะสร้างขึ้นนั้น จะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 40 ล้านคน ตั้งเป็นฮับการบินภาคใต้เชื่อมเส้นทางระยะไกล (Long-haul Flight) ทั้งเที่ยวบินตรงระหว่างประเทศแบบ Point to Point
สนามบินเขียงใหม่
ในส่วนของท่าอากาศยานเชียงใหม่นั้น นายกรัฐมนตรี ขอเรียกว่า “สนามบินล้านนา” เพราะรองรับประชาชนจังหวัดใกล้เคียงเชียงใหม่ด้วย รัฐบาลมีแผนจะก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศและปรับปรุงอาคารผู้โดยสารเดิม ที่รองรับจำนวนนักท่องเที่ยวจากเดิมได้เพียง 8 ล้านคนต่อปี เป็น 16.5 ล้านคนต่อปีภายในปี 2572
รวมทั้ง ยังมีแผนจะก่อสร้างสนามบินเชียงใหม่แห่งที่ 2 หรือท่าอากาศยานล้านนา ให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นอีก 20 ล้านคนต่อปี และจะเป็น Homebase ของสายการบิน อย่าง Thai VietJet เป็นต้น