ยูเครนกำลังเสียเปรียบรัสเซีย ทรัมป์ผลักดันสันติภาพก่อนรับตำแหน่ง
เหลือเวลาแค่หนึ่งสัปดาห์ก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์จะกลับเข้าสู่ทำเนียบขาว ยูเครนก็กำลังเตรียมรับมือกับการตัดสินใจที่ยากลำบากในช่วงเวลาอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ขณะเดียวกันกองกำลังของยูเครนกำลังอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับรัสเซียในสมรภูมิรบ โดยยูเครนกำลังประสบปัญหาขาดแคลนทหารที่มีประสบการณ์ และมีความกังวลว่า ความช่วยเหลือทางการทหารอาจลดลงจากระดับที่ได้รับในปัจจุบัน
คอนเทนต์แนะนำ
รัฐบาลยูเครนกำลังรอดูสัญญาณจากรัฐบาลรัสเซียและรัฐบาลสหรัฐฯ พร้อมทั้งย้ำเกือบทุกวันถึงความปรารถนาในการบรรลุ "สันติภาพ" แต่ขณะเดียวกัน ยูเครนก็จำเป็นต้องระงับความคิดที่จะไปทวงคืนดินแดนที่ตอนนี้ถูกรัสเซียยึดครองเอาไว้ เนื่องจากในเวลานี้ ทางรัสเซียเดินหน้าโจมตีในแคว้นโดเนตสก์อย่างไม่ลดละ
ยูเครนกำลังพ่ายแพ้ รัสเซียบุกหนัก
จากข้อมูลของ WarMapper คาดการณ์ รัสเซียกำลังยึดครองพื้นที่ราว 18% ของยูเครน รวมถึงแคว้นไครเมียและพื้นที่ในโดเนตสก์และลูฮันสก์ที่รัสเซียยึดได้ก่อนปี 2022 โดยนับจนถึงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา กองกำลังรัสเซียสามารถยึดพื้นที่ได้ราว 400 ตารางกิโลเมตร
ทหารยูเครนในพื้นที่ตะวันออกกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่มีจำนวนกำลังพลน้อยกว่ามาก หนึ่งในผู้บัญชาการของยูเครนเปิดเผยในสัปดาห์นี้ว่า กล่าว กลุ่มทหารราบรัสเซียขนาดเล็กกำลังโจมตีจากหลายทิศทางพร้อมกัน ทำให้ยากที่กองกำลังยูเครนจะสามารถรวมกำลังพลตอบโต้ได้
มิก ไรอัน ผู้เขียนบล็อก Futura Doctrina เปิดเผยว่า แม้ว่าในด้านอาวุธ ยุทธวิธี โดรน และการโจมตีระยะไกล จะไม่ได้สร้างความได้เปรียบเสียเปรียบต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างชัดเจน แต่กำลังพลยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เกิดความแตกต่างระหว่างรัสเซียและยูเครน
มีรายงานว่า หน่วยรบของรัสเซียขณะนี้ อยู่ห่างจากศูนย์กลางของเมืองโปครอฟสค์ประมาณ 5 กิโลเมตร และได้ยึดครองพื้นที่เมืองคูราคอฟและบางส่วนของเมืองโทเรตสค์ได้แล้ว โดยผู้บัญชาการของกองพันแห่งหนึ่งของยูเครนที่ประจำการใกล้เมืองโปครอฟสค์กล่าวว่า กองกำลังรัสเซียในพื้นที่ดังกล่าวได้เพิ่มความเข้มข้นในการโจมตีด้วยปืนใหญ่และระเบิดร่อน
ความเป็นไปได้ในการเจรจาสันติภาพ
คีธ เคลล็อก อดีตนายพลสหรัฐฯ ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะทำหน้าที่ทูตยูเครนของทรัมป์ เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เขาหวังว่าจะสามารถหาทางออกที่มั่นคงและยั่งยืนสำหรับความขัดแย้งนี้ได้ภายใน 100 วัน ส่วนทรัมป์เองก็เคยกล่าวระหว่างหาเสียงว่า เขาจะยุติสงครามยูเครนให้ได้ภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากเข้ามารับตำแหน่ง แต่เมื่อไม่นานมานี้ มีการถามเขาอีกครั้งว่าเขาจะยุติสงครามโดยทันทีได้อย่างไร ทรัมป์ตอบว่า เขาหวังว่าจะสามารถทำได้ภายใน 6 เดือน แต่ก็หวังว่าจะเร็วกว่า 6 เดือน
อย่างไรก็ตาม ไรอัน บล็อกเกอร์จาก Futura Doctrina เชื่อว่า ปูตินน่าจะพยายามทำให้แน่ใจว่า ไม่ว่าจะอย่างไร เป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ 100 วันนั้นจะล้มเหลว เพราะเขาไม่มีเหตุผลที่น่าสนใจที่จะต้องเข้าสู่โต๊ะเจรจาในตอนนี้
ด้านประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เซเลนสกีของยูเครน ก็ยังเอ่ยถึงเงื่อนไขที่ยูเครนจะยอมรับได้น้อยมาก โดยเขายังคงยืนยันเมื่อวันศุกร์ว่า ยูเครนจะยืนหยัดอย่างหนักแน่นและบรรลุสันติภาพเพื่อประชาชนและประเทศของเรา
สิ่งที่เซเลนสกีให้ความสำคัญมากที่สุดในขณะนี้คือ การนำเสนอข้อเรียกร้องของยูเครนต่อทรัมป์โดยตรง โดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของยูเครนเปิดเผย ยูเครนกำลังเตรียมการสำหรับการเจรจาใน "ระดับสูงสุด" โดยท่าทีของยูเครนชัดเจน คือทุกคนต้องการให้สงครามยุติลงด้วยเงื่อนไขที่เป็นธรรมต่อยูเครน
