อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร แสดงวิสัยทัศน์ ในหัวข้อ Vision For Thailand 2024 ที่จัดโดยเนชั่นทีวี ในช่วงหนึ่งของการแสดงวิสัยทัศน์ได้พูดถึงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตว่า เดือนกันยายนนี้ รัฐบาลจะสามารถจ่ายเงิน 10,000 บาท ให้กับประชาชนได้โดยกลุ่มเป้าหมายแรกคือ กลุ่มเปราะบางและผู้พิการ จำนวน 14 ล้านคน โดยใช้งบประมาณปี 2567 รวม 1.45 แสนล้านบาท ที่ต้องใช้ภายในเดือนกันยายนนี้
จากนั้นในเดือนตุลาคม 2567 ผู้ที่ลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ตไว้ 30 ล้านคน จะมีโอกาสได้รับเงิน 10,000 บาท เช่นกัน โดยใช้งบประมาณของปี 2568 ต่อไป และหากระบบบล็อคเชนที่ใช้ทำดิจิทัลวอลเล็ตเสร็จทันก็จะนำมาใช้ในรอบนี้ด้วย
อดีตนายกฯทักษิณ ระบุว่า อธิบายถึงข้อดีของนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตว่า เป็นการยิงนกสามตัวด้วยกระสุนนัดเดียว อย่างแรกคือการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยที่โตช้ามานานมาก จีดีพีน้อยกว่าคนอื่นทั้งหมดโดยเฉลี่ยเพราะไม่มีเงินในระบบเพียงพอ และการที่ใช้ดิจิทัลวอลเล็ตโดยไม่กระตุ้นด้วยเงินสด เพราะหลังบ้านของดิจิทัลวอลเล็ตคือระบบบล็อคเชนซึ่งมีสมาร์ทคอนแทคที่สามารถควบคุมการใช้จ่ายเงินได้ ทั้งพื้นที่ใช้จ่ายและสินค้า ทั้งนี้เพื่อให้การกระตุ้นเศรษฐกิจมีความแม่นยำมากขึ้น
อย่างที่สองคือ อยากให้คนไทยถึงระดับรากหญ้าได้เรียนรู้เทคโนโลยีจากการใช้เงินดิจิทัล อย่างที่สาม ต่อยอดดิจิทัลวอลเล็ตเป็นซุปเปอร์แอป ประชาชนจะได้ทั้งเราทั้งดิจิตอลไอดี สามารถเข้ามาใช้งานได้กับทุกบริการของภาครัฐในแอปเดียว ในอนาคตภาครัฐสามารถออกบอนด์ขายรายย่อยได้ และสามารถเอาบอนด์ไปใช้เป็นเงินเหมือนเงินสดได้ นี่คือสิ่งที่หวังว่าดิจิทัลวอลเล็ตจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศมากกว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจ
อดีตนายกฯทักษิณ ได้พูดถึงปัญหาของเศรษฐกิจไทยด้วยว่า คนไทยและประเทศไทยกำลังติดกับดักหนี้ มองว่า หากเป็นหนี้ภาครัฐแก้ไม่ยาก ถ้าทำให้จีดีพีโตได้สัดส่วนหนี้สินต่อจีดีพีก็จะลดไปเอง แล้วถ้าขยายฐานภาษีก็จะทําให้สัดส่วนรายได้ต่อจีดีพีดีขึ้นทําให้อํานาจการใช้หนี้ดีขึ้น แต่สำหรับหนี้ของประชาชน หนี้ครัวเรือนไทยสูงกว่า 90% จึงต้องให้รัฐมนตรีคลังเอาไปคิดดูเรื่องที่ต้องปรับโครงสร้างหนี้ภาคประชาชน
นอกจากนี้ในแง่ของนโยบายการเงิน อดีตนายกฯทักษิณ ระบุว่า ต้องมีการประสานนโยบายเศรษฐกิจกับแบงก์ชาติ เพื่อให้นโยบายการเงิน การคลังไปในทางเดียวกันให้ได้ โดยต้องเคารพความเป็นอิสระของแบงก์ชาติ
ส่วนประเด็นของตลาดหุ้น อดีตนายกฯทักษิณ ระบุว่า ขณะนี้กำลังมีการศึกษา ที่จะให้มีการเปิดขายกองทุนวายุภักษ์ ซึ่งจะช่วยทำหน้าที่คอยประคับคองหุ้นไทย เพราะใจช่วงเวลาที่เกิดการขาดความเชื่อมั่น มีแรงขาย กองทุนวายุภักษ์จะทำหน้าที่เป็น Treasury stock หรือการซื้อหุ้นคืน ถ้าราคาต่ำกว่าที่ควรจะเป็นคล้ายกับกรณีของบริษัทเอกชน
นอกจากนี้ยังเน้นย้ำถึงการนำเศรฐกิจใต้ดินขึ้นมาบนดินอีกด้วย โดยยกตัวอย่างว่า คนไทยขาดทุนพนันออนไลน์ราว 1.7 แสนล้านบาทต่อปี ส่วนยอดเล่นพนันสูงถึง 5 แสนล้านบาท หากรัฐเก็บภษี 30% หรือราว 90,0000 ล้านบาท สามารถนำเงินนี้ไปพัฒนาให้การศึกษากับเด็ก เยาวชนต่อได้ ทั้งนี้มองว่า เศรษฐกิจไทยไม่น่าจะลดลงไปกว่านี้แล้ว ซึ่งการออกแรงกระตุ้นเศรษฐกิจไทยต้องเป็นหน้าที่รัฐบาลขณะที่ภาคเอกชนเป็นแรงเสริม