Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
Bitcoin ยังไปต่อได้อีกไกล $100,000 แค่ทางผ่าน !?
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

Bitcoin ยังไปต่อได้อีกไกล $100,000 แค่ทางผ่าน !?

2 ธ.ค. 67
11:53 น.
|
18
แชร์

ตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ราคา Bitcoin เติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแกร่งมากกว่า 40% โดยทะลุ All time high เดิมที่ประมาณ $73,777 ขึ้นมาทำ All time high ใหม่ได้ที่ราคา $99,588 ได้อย่างรวดเร็ว

โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาของ Bitcoin เติบโตได้อย่างรุนแรงนี้ก็คือ การที่ Donald Trump ได้รับเลือกเป็นประธานาธิปดีคนต่อไปด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น พร้อมทั้งได้เสียงข้างมากทั้งฝั่งวุฒิสภา (Senate) และ สภาผู้แทนราษฎร (House of Representatives) หรือที่เรียกว่า Red Sweep  ซึ่ง Red Sweep จะทำให้นโยบายต่างๆ ที่ทรัมป์ใช้หาเสียงมีโอกาสเป็นจริงได้ง่ายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเอา Bitcoin มาเป็น Strategic Reserve ของประเทศ, สนับสนุนการเก็บ Bitcoin ด้วยตนเอง (Self Custody), เปลี่ยนประธาน SEC ให้เป็นคนที่ Crypto-friendly มากขึ้นเพื่อสานต่อนโยบายคริปโตฯ รวมถึงการตั้งสภาที่ปรึกษาประธานาธิปดีเกี่ยวกับคริปโตเพื่อแนะนำเรื่องการกำกับดูแลที่เหมาะสม อย่างไรก็ตามยังคงต้องจับตาดูว่าทรัมป์จะดำเนินการอย่างที่ได้พูดไว้ตอนหาเสียงหรือไม่

จุดเริ่มต้นของขาขึ้นบิตคอยน์เท่านั้น

ส่วนเรื่องของราคา Bitcoin ที่ขึ้นมาเยอะมากแล้วในตอนนี้ หลายคนก็คงเกิดคำถามว่าตรงนี้จบรอบแล้วหรือยัง หรือจริงๆ แค่พึ่งเริ่มต้นเท่านั้น ??

ทางเรามองว่าปัจจัยบวกจากนโยบายคริปโตฯ ของทรัมป์เป็นแรงกระตุ้นที่ดีให้คนเริ่มกลับมาสนใจคริปโตฯ อีกครั้ง รวมถึงการแต่งตั้ง Scott Bessent เป็น Treasury Secretary ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยบวกสำคัญโดยเขาได้เสนอแนวทางเศรษฐกิจที่เรียกว่า "3-3-3" ซึ่งประกอบด้วยสามเป้าหมายหลัก ดังนี้

  1. ลดการขาดดุลงบประมาณให้เหลือ 3% ของ GDP ภายในปี 2028 โดยการควบคุมการใช้จ่ายของรัฐบาลและเพิ่มรายได้ผ่านการปฏิรูปภาษี
  1. กระตุ้นการเติบโตของ GDP ให้ถึง 3% ผ่านการลดกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อธุรกิจและการลงทุน โดยเขาเชื่อว่าการลดกฎระเบียบจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจสหรัฐฯ 
  1. เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีก 3 ล้านบาร์เรลต่อวันที่จะเข้ามาช่วยลดราคาพลังงานเพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ  

แนวทาง "3-3-3" นี้ได้รับแรงบันดาลใจจากนโยบาย "สามลูกศร" ของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่นที่มุ่งเน้นการปฏิรูปเศรษฐกิจผ่านการกระตุ้นการเติบโต การปฏิรูปโครงสร้าง และการผ่อนคลายนโยบายการเงิน

ซึ่งนโยบายต่างๆ เหล่านี้จะเป็นสิ่งที่สร้างความเชื่อมั่นให้ตลาดทุนและทำให้นักลงทุนเปิดความเสี่ยงเข้ามาที่คริปโตฯได้มากขึ้น โดยคาดว่านโยบายเหล่านี้จะเริ่มทันทีหลังจากที่ทรัมป์เข้าพิธีสาบานตนเพื่อเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม 2025 ทำให้ทางเรามองว่าในช่วงต้นปี 2025 จะเป็นช่วงที่ดีของตลาดทุนรวมถึงคริปโตฯ และมีโอกาสน้อยมากที่จะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจในช่วงดังกล่าวเนื่องจากทางรัฐบาลใหม่คงไม่ยอมให้เกิดและจะพยายามทำทุกวิถีทางให้ทุกอย่างออกมาดีในช่วงที่พึ่งเข้ารับตำแหน่งไม่ว่า Fed จะดำเนินนโยบายทางการเงินอย่างไรก็ตามทำให้มีความเป็นไปได้สูงว่าราคาของ Bitcoin จะสามารถเติบโตได้อีกมากซึ่งราคา $100,000 จะเป็นเพียงแค่ทางผ่านเท่านั้น นอกจากนี้ทางเรามี On-chain Indicator ที่น่าสนใจของ Bitcoin มาวิเคราะห์เพื่อสนับสนุนมุมมองดังกล่าวดังนี้

ทิศทางราคาบิตคอยน์และกลยุทธ์

1.Short-term MVRV

Short-term Holder MVRV เป็น Indicator ที่บอกสถานะกำไร/ขาดทุนของนักลงทุนระยะสั้นที่ถือ Bitcoin น้อยกว่า 155 วัน โดยในตอนนี้ STH-MVRV อยู่ที่ประมาณ 1.25 หรือได้กำไรเฉลี่ยกันที่ 25% ซึ่งถือว่าสูงแล้วในช่วงที่ตลาดไม่ได้กระชากรุนแรงแบบช่วง Bull Run ปี 2020-2021

และหากนำค่าเฉลี่ย (Mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ของ STH-MVRV มาทำเป็น Upper Bound และ Lower Bound จะเห็นได้ว่าราคา Bitcoin เข้าใกล้ Upper Bound แล้ว ซึ่งจากสถิติย้อนหลังราคา Bitcoin มักจะมีการพักตัวเมื่อเข้าใกล้ Upper Bound

สรุปแล้วการดู STH-MVRV ปกติประกอบกับสภาพตลาดรวมถึงการดูร่วมกับ Upper Bound & Lower Bound ทางเรามองว่าในระยะสั้น Bitcoin จะมีการพักตัวช่วงปลายปี 2024 แล้วขึ้นต่อในช่วงต้นปี 2025

2.Realized Cap HODL Waves

Realized Cap HODL Waves เป็นการดูพฤติกรรมของคนที่ถือบิตคอยน์ระยะยาวมากกว่า 6 เดือนขึ้นไปว่ามีการเปลี่ยนมือมากแค่ไหน โดยจากข้อมูลพบว่าในช่วง Top ของ Cycle คนที่ถือยาวมักจะมีการโอนไปขายกันเยอะซึ่งจะทำให้กราฟของ Realized Cap HODL Waves ลดลงซึ่งจากสถิติย้อนหลังมักจะร่วงลงไปต่ำกว่า 20% แต่ในปัจจุบันยังอยู่ที่ราวๆ 48.3% ซึ่งบ่งบอกว่าคนในตลาดส่วนใหญ่ที่ถือยาวมองว่าในตอนนี้ยังไม่ใช่จุดสูงสุดของ Cycle นี้

3.Market Value to Realized Value Ratio (MVRV)

MVRV เป็น Indicator ที่เอาไว้ดูกำไร/ขาดทุนโดยเฉลี่ยของคนทั้งตลาด โดยในตอนนี้ MVRV อยู่ที่ 2.68 ซึ่งถือว่าเป็นค่าที่สูงแล้วสำหรับผู้ที่อยากจะเก็บบิตคอยน์ในระยะยาว แต่ถ้าบิตคอยน์มีการปรับฐานหรือ Sideway ก็จะทำให้ MVRV มีแนวโน้มลดลงและจะเป็นจุดที่ดีในการเข้าสะสม อย่างไรก็ตามในตอนนี้สิ่งที่น่าสนใจดูจะเป็นทางฝั่ง Altcoin ที่ยังไม่ได้ขึ้นมามากเท่าไหร่ และมี Risk/Reward ที่ดีกว่าในปัจจุบัน

ซึ่งจากทั้ง 3 Indicator ที่กล่าวไปข้างต้นสามารถนำมาตีความได้ว่า Short-term MVRV บ่งบอกว่าบิตคอยน์มีแนวโน้มจะปรับตัวลงในระยะสั้นและทางฝั่ง MVRV บ่งบอกว่าในตอนนี้ไม่ใช่จุดเก็บบิตคอยน์ที่ได้เปรียบ ทำให้หากมีการพักตัวก็เป็นจุดที่น่าสนใจในการพิจารณาสะสมเนื่องจาก Realized Cap HODL Waves บ่งบอกว่าในตอนนี้แม้ว่าราคาจะขึ้นมาเยอะแล้วแต่ก็มีแนวโน้มสูงว่าจะสามารถไปได้ต่อในระยะกลางถึงยาว

แชร์

Bitcoin ยังไปต่อได้อีกไกล $100,000 แค่ทางผ่าน !?