สำหรับสาวๆหลายๆคน เชื่อว่า อาจจะมีกระเป๋าแบรนด์เนมในฝันที่อยากครอบครอง หรือของชิ้นใหญ่แพงๆสักชิ้น แต่ปัญหาคือสินค้าเหล่านั้นมักมีราคาแพงมาก ซึ่งเราก็คงจะพยายามหาร้อยเหตุผล หรือการชักแม่น้ำทั้งห้าเพื่อเราจะได้ซื้อของสินค้าชิ้นนั้นแบบไม่ต้องรู้สึกผิด ซึ่งแนวคิดนี้ตรงกับ ทฤษฎี Girl Math (มีแค่ผู้หญิงเท่านั้นที่เข้าใจกัน)
ส่วนบางคนอาจจะมีแนวคิดที่ว่า เราไม่จำเป็นต้องซื้อของแพง หรือของแบรนด์เนมอะไร เราก็สามารถหาของที่มีทั้งคุณภาพและคุณสมบัติใกล้เคียงกันกับสินค้าหรู แต่ในเวอร์ชั่นราคาถูกสบายกระเป๋า และแนวคิดนี้ตรงกันเทรนด์ Dupe
สิ่งที่น่าสนใจคือ 2 เทรนด์นี้ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามในหมู่วัยรุ่น Gen Z บนแพลตฟอร์ม TikTok ซึ่งเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ต่างรีวิวกันอย่างไม่ขาดสาย
บทความนี้ SPOTLIGHT จึงชวนทุกคนมาสำรวจตัวเองว่า เรามีแนวคิดสร้างตรรกะฮีลใจเพื่อใช้เงิน หรือ จะจ่ายแพงทำไม ? พร้อมกับพามาเข้าใจทฤษฎี Girl Math และ เทรนด์ DUPE ที่ฮิตในหมู่ Gen Z
เคยได้ยินไหมที่เขาบอกกันว่า ‘ผู้หญิงจะมีการคิดเลขที่ไม่เหมือนกับผู้ชาย’ ซึ่งหากจะให้นิยามทฤษฎี Girl Math ก็ต้องบอกตามตรงว่าไม่มีคอนเซปต์ที่ตายตัว และไม่ใช่ตามหลักทางคณิตศาสตร์ แต่เป็นเรื่องทางจิตวิทยา เพราะแต่ละคนก็จะมีเหตุผลที่แตกต่างกันไป
แต่แนวความคิดหลัก หรือ core idea คือ การสรรหาเหตุผลมาคำนวณความคุ้มค่าต่อราคา ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลที่เข้าท่า (หรือว่าไม่ก็ได้) เพื่อให้เราซื้อสินค้านั้นๆแบบที่เรารู้สึกผิดน้อยลง หรือพูดง่ายๆก็คือ การสร้างตรรกะขึ้นมาเพื่อฮีลใจ (จนหลายๆเปรียบเทียบแนวคิดนี้ว่า เป็นแนวคิดที่มีแค่ผู้หญิงเท่านั้นที่เข้าใจ)
เช่น หากต้องการซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมในราคา 300,000 บาทแล้วรู้สึกว่าแพงเกินไป ให้นำราคาเต็ม มาหารจำนวนวันต่อปี เท่ากับว่า ราคาของกระเป๋า จะตกเพียงวันละ 819 บาทเท่านั้น และลองคิดดูสิว่าหากเราใช้ทุกวันมันจะไม่คุ้มค่าหรือ ? และที่สำคัญ กระเป๋าพวกนี้ราคามักจะขึ้น นี่คือการลงทุนที่คุ้มค่า
เช่น หากคุณซื้อสินค้าลดราคาจาก 4,000 บาท เหลือ 3,000 บาท เท่ากับว่าคุณมีการใช้เงินอย่างฉลาด เพราะส่วนต่าง 1,000 บาทนั้นเหมือนกับ pocket money ที่คุณสามารถเข้าไปซื้ออะไรก็ได้แบบที่ได้ไม่ต้องรู้สึกผิดเพราะมันคือกำไรของเรา
เช่น หากคุณซื้อเสื้อผ้ามาในราคา 2,000 บาท ใส่ไป 10 ครั้ง พอหารแล้วจะตกครั้งละ 200 บาท แล้วหากเรานำเสื้อผ้าไปขายต่อในราคา 200 บาท ก็ถือว่าซื้อมาคุ้มแล้ว เพราะเหมือนคุณได้เสื้อผ้ามาใส่แบบฟรีๆ
เช่น หากคุณซื้อชุดเดรสที่มีราคาแพงถึง 10,000 บาท เพื่อออกงานหรูเช่น งาน Gala Dinner หรือ งานเลี้ยงแต่งงาน เท่ากับว่าชุดนี้คุณใส่ครั้งละ 5,000 บาท แถมยังได้คำชมจากคนรอบตัวทุกครั้งที่ใส่ออกงาน นี่ไม่รวมกับ engagement ที่ได้บนโซเซียลมีเดียตอนคุณโพสรูป นี่คือความคุ้มค่าจนเหมือนได้ชุดนี้มาใส่แบบฟรีๆ
ทฤษฎี Girl Math เป็นกระแสอย่างมากในแพลตฟอร์มวัยรุ่นชื่อดังอย่าง TikTok ซึ่งเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ต่างเข้ามาทำคลิปการสร้างคอนเทนต์นิสัยการใช้เงินให้ตรงใจ (แต่อาจไม่ได้ถูกหลักเท่าไร) ด้วย Girl Math
เช่น คอนเทนต์ป้ายยา, คอนเทนต์ของมันต้องมี, ซื้อไปก่อนเดียวก็ได้ใช้ นอกจากนี้ยังมีแนวคิด YOLO ที่คอยสนับสนุนการใช้เงินเพื่อความสุขทางใจอีกด้วย
แนวคิด YOLO ย่อมากจาก You Only Live Once หมายถึง การใช้ชีวิตให้คุ้มค่าที่สุด เพราะชีวิตเกิดมาเพียงครั้งเดียว
อย่างไรก็ตาม ทฤษฎี Girl Math ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันจากบางกลุ่ม เนื่องจากมองว่า นี่คือเทรนด์การเงินที่ผิดๆ เหมือนกับหาเหตุผลเข้าข้างตัวเอง เพื่อให้ใช้เงินได้แบบไม่ต้องรู้สึกผิดอะไร และหากคอนเทนต์แนวนี้ไวรัลและถูกรับสารโดยผู้ไม่มีความรู้ด้านการเงิน ก็อาจจะเกิดปัญหาด้านการเงินมากขึ้นไปอีก ไปถึงจนอาจได้รับข้อมูลแบบผิดๆ และไม่คิดว่าผิด
เช่น เคยมีอินฟลูท่านหนึ่งได้เล่าว่า สำหรับผู้หญิงที่รักสวยรักงามลองคิดดูว่า เราต้องเสียเงินให้กับหมอหน้าปีละกี่บาท Girl Math ของเขาคือการซื้อเครื่องยกกระชับ Hifu มาทำเองที่บ้าน แม้เครื่องจะแพงแต่ก็ถือว่าคุ้มค่าเพราะสามารถทำหน้าให้ตัวเองได้ตลอดเวลา ซึ่งหลังจากโพสต์คลิปไปก็ได้เกิดการวิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากชาวเน็ตมองว่านี่คือความอันตราย เพราะการทำหน้าคนที่ทำควรจะเป็นผู้เชี่ยวชาญหมอหรือพยาบาลเท่านั้น
คราวนี้เรามาดูแนวคิดที่ต่างกันสุดขั้วกับทฤษฎี Girl Math กันบ้างนั้นก็คือ เทรนด์ Dupe
เทรนด์ Dupe คือ การใช้ของสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ถูกและดี ฟังก์ชั่นการใช้งานเทียบเท่ากับแบรนด์เนมหรือแบรนด์หรู โดย Dupe ย่อมากจากคำว่า Duplicate ที่เเปลว่า “ทำซ้ำ หรือ เลียนเเบบ”
สิ่งที่น่าสนใจก็คือสินค้า Dupe จะไม่ใช่ของปลอม ที่ลอกมาจากแบรนด์ดังตรงๆ ทั้งโลโก้ สินค้า หรือที่เราเข้าใจกันว่าของก๊อบแบรนด์เนม แต่สินค้า Dupe จะมีแบรนด์เป็นของตัวเองที่มีลักษณะคล้ายคลึง ที่ให้คุณภาพคล้ายคลึงกัน หรือเป็นสินค้าทางเลือกนั้นเอง
เทรนด์ Dupe ได้เป็นพูดถึงอย่างมาก หลังเหล่าอินฟลูเอนเซอร์สายบิวตี้ ได้รีวิวเครื่องสำอาง Dupe หรือ เครื่องสำอางคู่แฝดกับ Counter Brand ที่มีราคาถูกกว่าครึ่ง แต่คุณภาพและผลลัพธ์ที่ได้มากลับไม่รู้สึกถึงความแตกต่าง เช่น
อย่างในบริบทการท่องเที่ยว คือการจำลองจุดหมายปลายทาง สถานที่ที่มีราคาถูกกว่า เดินทางง่ายกว่าคนพลุกพล่านน้อยกว่า เช่น
ประเทศเล็กๆที่ตั้งอยู่ในเอเชียกลาง ทางตะวันออกติดกับจีน ด้านเหนือเป็นคาซัคสถาน ทางใต้ติดทาจิกิสถาน และด้านตะวันตกเป็นอุซเบกิซสถาน ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ทั้งวิวภูมิประเทศและภูเขาสูง จึงได้รับสมญานามว่า สวิตเซอร์แลนด์แห่งเอเชีย
แม้ว่าลาสเวกัสจะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งการพนันของโลก แต่หากเราต้องซื้อตั๋วที่แสนแพง นี่ไม่รวมค่าที่พักและหาอาหารอีก รายจ่ายอาจจะบาน จึงทำให้มาเก๊า ที่ได้สมญานามว่า ลาสเวกัสเมืองตะวันออก กลายมาเป็นหนึ่งในตัวเลือกของนักพนันฝั่งเอเชีย
อย่างไรก็ตาม เทรนด์ Dupe ได้ดังในหมู่ GEN Z เนื่องจาก GEN Z คือ กลุ่มคนที่เป็น First Jobber มีอายุยังน้อยเเละไม่ได้มีกำลังซื้อที่มากนัก ทำให้ Gen Z เลือกใช้สินค้าทดเเทนเพราะมีราคาที่ถูก เเต่ยังได้ของคุณภาพดีเพื่อมาทดแทนแบรนด์ดังที่มีราคาแพง แต่ก็ยังคงมีเสียงต่อต้านจากอีกฝั่งเช่นเดียวกัน เพราะสินค้า Dupe มักถูกจัดอยู่ในหมวด Fast-Fashion ซึ่งส่งผลกระทบด้านลบต่อสิ่งเเวดล้อมอีกด้วย