ฟิลลิป ปิดดีลรวมอาร์เอชบีตั้งเป้ารายได้พุ่งกว่า 50% ลุยตลาดหุ้น 20 ปท.

ฟิลลิปแคปปิตอล ประเทศไทย ประกาศความสำเร็จในการเข้าซื้อกิจการ บล.อาร์เอชบี เสริมศักยภาพธุรกิจนายหน้าค้าหุ้น มั่นใจดันรายได้เติบโตมากกว่า 50% พร้อมขยายฐานลูกค้าและบริการสู่ระดับโลก

คอนเทนต์แนะนำ

อย่าร้องยุบเพื่อไทย! นายกฯมาเลย์ ตั้ง ทักษิณ เป็นที่ปรึกษาส่วนตัว

สั่งหยุดให้บริการเครื่องเล่นปลาหมึก หลังเด็ก 12 ร่วงเจ็บ

4ลูกเรือประมงไทยคอตก ทางการเมียนมาตัดสินจำคุก 4 ปี ปรับ 2 หมื่นจ๊าด

ฟิลลิป ปิดดีลควบรวมอาร์เอชบี ตั้งเป้ารายได้พุ่งกว่า 50% พร้อมลุยตลาดหุ้น 20 ประเทศ

บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ฟิลลิปแคปปิตอล ประเทศไทย (PhillipCapital Thailand) ประกาศความสำเร็จในการเข้าซื้อกิจการ บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) อย่างเป็นทางการ  การควบรวมกิจการครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของวงการบริษัทหลักทรัพย์ในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจนายหน้าค้าหุ้นของฟิลลิปแคปปิตอล ประเทศไทย และคาดว่าจะผลักดันให้รายได้เติบโตมากกว่า 50% การควบรวมกิจการครั้งสำคัญ ส่งผลให้ฟิลลิปแคปปิตอล ประเทศไทย มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว พร้อมขยายฐานลูกค้า  เสริมทัพที่ปรึกษาการลงทุน  มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในตลาดหุ้นโลก

ฟิลลิป เดินหน้าควบรวมกิจการ ผงาดขึ้นแท่นผู้นำตลาดหุ้นไทย

สำหรับการควบรวมกิจการในครั้งนี้  ส่งผลให้บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย)  มีส่วนแบ่งการตลาดในอุตสาหกรรมธุรกิจหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า  คิดเป็นมูลค่าซื้อขายมากกว่า 2 แสนล้านบาท  และคาดการณ์ว่าจะทำให้รายได้เติบโตกว่า 50%  โดยการขยายฐานลูกค้า  และเพิ่มจำนวนที่ปรึกษาการลงทุน  จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้น  เพื่อรองรับความท้าทายของโลกการลงทุนยุคใหม่  และพร้อมให้บริการซื้อขายหลักทรัพย์ใน 20 ตลาดทุนทั่วโลก

การควบรวมกิจการครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญของกลุ่มฟิลลิปแคปปิตอล ที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมากว่า 26 ปี  แสดงถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจหลักทรัพย์  และตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดทุนไทย  ด้วยการนำเสนอบริการที่ครอบคลุม  ตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุน  และช่วยให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผู้บริหารฟิลลิป มั่นใจ ควบรวมอาร์เอชบี เสริมแกร่งธุรกิจ พร้อมก้าวสู่ผู้นำตลาดหุ้น

ซีอีโอ ฟิลลิปแคปปิตอล ประเทศไทย  เผยดีลควบรวมกิจการ ช่วยขยายฐานลูกค้า  เสริมศักยภาพการบริการ  พร้อมตอกย้ำพันธกิจ “เพื่อนร่วมทางการลงทุน”

นายแคมิรอน เพนน์ เฟรซิเออร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า  ฟิลลิปแคปปิตอล ประเทศไทย มีความเชื่อมั่นอย่างยิ่งในการเข้าซื้อกิจการ บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)   โดยการควบรวมกิจการครั้งนี้ สอดคล้องกับกลยุทธ์การเติบโตในระยะยาวของบริษัทฯ  และเป็นการเปิดโอกาสให้ ฟิลลิปแคปปิตอล ประเทศไทย  ได้ให้บริการลูกค้าในวงกว้างมากขึ้น ด้วยผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลายและครบวงจร

ขณะที่ นายสานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)  กล่าวเสริมว่า การควบรวมกิจการกับ อาร์เอชบี  จะช่วยเสริมฐานที่ปรึกษาการลงทุนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น  โดยบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาองค์กรใน 4 ด้านหลักอย่างต่อเนื่อง  ได้แก่

• การเพิ่มประสิทธิภาพการบริการ: มุ่งเน้นการให้บริการที่รวดเร็ว ถูกต้อง และตรงใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น
• การสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในระยะยาวกับนักลงทุน: ให้ความสำคัญกับการสื่อสาร การให้คำปรึกษา และการดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างความไว้วางใจและความสัมพันธ์ที่ดีในระยะยาว
• การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์: พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของนักลงทุนในยุคปัจจุบัน และสอดคล้องกับสถานการณ์ตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป
• การนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาใช้ในการให้บริการ: นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ยกระดับการให้บริการ และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า

ทั้งหมดนี้  เพื่อสอดคล้องกับพันธกิจของบริษัทฯ  ในการเป็น “เพื่อนร่วมทางการลงทุน” ที่นักลงทุนไว้วางใจ

ก้าวสำคัญของ ฟิลลิปแคปปิตอล ประเทศไทย บนเส้นทางผู้นำตลาดหุ้นโลก

การควบรวมกิจการระหว่างฟิลลิปแคปปิตอล ประเทศไทย และ บล.อาร์เอชบี นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์วงการตลาดทุนไทย  การผนึกกำลังของสองบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำนี้ ไม่เพียงแต่จะสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจให้กับฟิลลิปแคปปิตอล ประเทศไทย เท่านั้น  แต่ยังสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลในการมุ่งสู่การเป็นผู้นำในตลาดหุ้นระดับโลก

ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดที่เพิ่มขึ้น  ฐานลูกค้าที่กว้างขวาง  และทีมที่ปรึกษาการลงทุนที่แข็งแกร่ง  ฟิลลิปแคปปิตอล ประเทศไทย พร้อมแล้วที่จะนำเสนอบริการทางการเงินที่ครอบคลุม  ตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนทุกระดับ  และช่วยให้นักลงทุนบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ภายใต้พันธกิจ “เพื่อนร่วมทางการลงทุน” ที่ยึดมั่นในการให้บริการด้วยความซื่อสัตย์  โปร่งใส  และเป็นมืออาชีพ

การควบรวมกิจการครั้งนี้  จึงเป็นมากกว่าแค่การขยายธุรกิจ  แต่เป็นการสร้างความเชื่อมั่น  และความไว้วางใจให้กับนักลงทุน  พร้อมทั้งยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ไทย  ให้เติบโตอย่างยั่งยืน  ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกการเงินยุคใหม่