เมื่อคืนนี้ (18/2/68) หุ้น Intel +16% บวกวันเดียวแรงสุดในรอบ 5 ปี หลัง 2 บริษัทชิปยักษ์ใหญ่สนใจชำแหละซื้อธุรกิจ
โดยตัวเต็งคนแรกก็คือ TSMC บริษัทรับจ้างผลิตชิปใหญ่สุดในโลก ที่สนใจจะซื้อ หรือ เข้าถือหุ้น ธุรกิจโรงงานผลิตชิปของ Intel
ส่วน Broadcom บริษัทออกแบบชิป อย่างเช่น แผงวงจรชิปใน AI, ชิปประมวลผล 5G สนใจซื้อธุรกิจออกแบบชิป และ ส่วนการตลาดของ Intel
ถ้าถามว่าทำไมตอนนี้ Intel ถึงเนื้อหอมมีแต่คนรุมซื้อกิจการ ?
ก็ต้องบอกว่าบริษัทกำลังเจอกับวิกฤติทุกทางทั้งเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับ AMD บริษัทคู่แข่ง และ ตกรถ AI เพราะเทคโนโลยีชิปสู้คู่แข่งไม่ได้ จนรายได้ กำไร พากันลดลงเรื่อย ๆ
รายได้ กำไร 3 ปีล่าสุดของ Intel
- ปี 2022 รายได้ 2,120,000 ล้านบาท กำไร 270,000 ล้านบาท
- ปี 2023 รายได้ 1,830,000 ล้านบาท กำไร 57,000 ล้านบาท
- ปี 2024 รายได้ 1,790,000 ล้านบาท ขาดทุน 630,000 ล้านบาท
ซึ่งผลที่ตามมาก็คือ นักลงทุนเทขายหุ้นกันชุดใหญ่จากมูลค่าสูงสุดที่ 7,100,000 ล้านบาท เมื่อปีที่แล้ว มาสู่จุดสุดต่ำสุดที่ 2,700,000 ล้านบาท คิดเป็นการติดลบถึง 62%
หรือพูดง่าย ๆ ก็คือถ้าใครลงทุนกับ Intel ที่ยอดดอยพอดีด้วยเงิน 100 บาท แล้วถือมาที่จุดต่ำสุดก็จะเหลือเงิน 38 บาท
ซึ่งพอ Intel กำลังเจอกับวิกฤติจนมูลค่าธุรกิจหายไปมากขนาดนี้ ก็เลยทำให้เพื่อนร่วมอุตสาหกรรมอยากต่อรองซื้อกิจการในราคาถูกนั่นเอง
Intel ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งบริษัทเทคโนโลยีที่มีประวัติยาวนานถึง 57 ปี และเคยเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลกมาก่อน
ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าติดตามกันต่อไปว่า มันถึงเวลาแล้วหรือยังที่อดีตยักษ์ตัวนี้ ควรพักผ่อนได้แล้ว..
ที่มา: cnbc.com