เมื่อเช้านี้ หุ้น Grab เจ้าของแพลตฟอร์มเรียกรถ ส่งอาหาร ได้ประกาศงบประจำปี 2024 ผลออกมาว่า
ไตรมาส 4 ปี 2024
- รายได้ 25,700 ล้านบาท เติบโต 15% (เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว)
- กำไร 370 ล้านบาท ไม่เติบโต
ปี 2024
- รายได้ 94,100 ล้านบาท เติบโต 21%
- ขาดทุน 5,300 ล้านบาท ขาดทุนลดลง 68%
โดยรวมแล้วรายได้ยังเติบโต ผลขาดทุนลดลง แล้วทำไมราคาหุ้นถึงลง ?
สาเหตุก็เป็นเพราะว่า บริษัทให้เป้าการเติบโตในปีนี้ น้อยกว่าที่ตลาดคาดเอาไว้
คาดการณ์รายได้ปี 2025
- บริษัท 112,000-114,000 ล้านบาท
- นักวิเคราะห์ 118,000 ล้านบาท
เรียกได้ว่าผิดคาดไปประมาณ 4% ซึ่งนอกจากการเติบโตที่ผิดคาดแล้ว บริษัทก็ยังมีแผนจะเพิ่มค่าใช้จ่ายอีกด้วย
โดยในปีนี้ Grab จะเพิ่มค่าใช้จ่ายด้าน Incentive หรือ เงินสนับสนุน ขึ้นอีก 30% เพื่อกระตุ้นให้คนมาใช้บริการเรียกรถ สั่งอาหาร และ บริการทางการเงิน ของบริษัทมากขึ้น
สรุปสั้น ๆ ก็คือ เป้าการเติบโตผิดคาด ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น นักลงทุนก็เลยกังวลจนเทขายกันออกมาจนทำให้ราคาหุ้นหลังตลาดปิด เมื่อคืนนี้ -11%
อย่างไรก็ดี บริษัทยังประกาศยืนยันว่า จะทำกำไรได้ในปีนี้ โดยที่ผ่านมาผลประกอบการของ Grab มีรายได้เติบโต และ ผลขาดทุนลดลงเรื่อย ๆ มาโดยตลอด
- ปี 2022 รายได้ 48,200 ล้านบาท ขาดทุน 56,600 ล้านบาท
- ปี 2023 รายได้ 79,400 ล้านบาท ขาดทุน 14,600 ล้านบาท
- ปี 2024 รายได้ 94,100 ล้านบาท ขาดทุน 5,300 ล้านบาท
ซึ่งพัฒนาการตรงนี้ ก็ส่งให้ราคาหุ้นบวกขึ้นมา 53% ใน 1 ปี ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า สุดท้ายแล้ว Grab จะทำกำไรในธุรกิจแพลตฟอร์ม เรียกรถ ส่งอาหารได้จริงหรือไม่..
ที่มา: investors.grab.com, yahoo.finance.com