ประเทศไทยกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมในการถ่ายทำภาพยนตร์และโฆษณาจากต่างประเทศมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย ความสามารถของทีมงานไทย และมาตรการสร้างแรงจูงใจให้แก่คณะถ่ายทำ ในรูปแบบคืนเงิน จำนวน 15-20 % ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง และ เป็น soft power ด้านหนึ่งที่ช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศ
เปิดสถิติรายได้จากการถ่ายทำ ภาพยนตร์และโฆษณา จากต่างชาติในประเทศไทย
รู้หรือไม่? เมื่อ ปี พ.ศ. 2566 ประเทศไทยมีรายได้คาดการณ์ว่า ถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยถึง 6,600 ล้านบาท มี จำนวน 466 เรื่อง จาก 40 ประเทศทั่วโลก ถือเป็นสถิติจำนวนรายได้สูงสุด นับแต่มีการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย โดยแบ่ง ได้เป็น ประเทศที่นำเงินเข้ามาลงทุน, รายได้ การถ่ายทำ ภาพยนตร์และโฆษณา ตลอดปี 2566 ในไทย และ จังหวัดที่มีกองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศเข้าไปถ่ายทำมากที่สุด โดยมีรายละเอียดดังนี้
5 ประเทศที่นำเงินเข้ามาลงทุน ถ่ายภาพยนตร์ สูงสุดในประเทศไทย
- สหรัฐอเมริกา นำเงินมาลงทุนถ่ายภาพยนตร์ จำนวน 3,184.80 ล้านบาท
- ฮ่องกง นำเงินมาลงทุนถ่ายภาพยนตร์ จำนวน 707.27 ล้านบาท
- จีน นำเงินมาลงทุนถ่ายภาพยนตร์ จำนวน 471.98 ล้านบาท
- เยอรมนี นำเงินมาลงทุนถ่ายภาพยนตร์ จำนวน 438.79 ล้านบาท
- เกาหลี นำเงินมาลงทุนถ่ายภาพยนตร์ จำนวน 344.65 ล้านบาท
เปิดสถิติรายได้ การถ่ายทำ ภาพยนตร์และโฆษณาในไทย
- กองถ่ายโฆษณา จำนวน 203 เรื่อง รายได้เข้าประเทศไทย 955.03 ล้านบาท
- สารคดี จำนวน จำนวน 81 เรื่อง รายได้เข้าประเทศไทย 56.90 ล้านบาท
- รายการโทรทัศน์ จำนวน 58 เรื่อง รายได้เข้าประเทศไทย 172.46 ล้านบาท
- ภาพยนตร์เรื่องยาว จำนวน 35 เรื่อง รายได้เข้าประเทศไทย 1,256.74 ล้านบาท
- มิวสิควิดีโอ จำนวน 34 เรื่อง รายได้เข้าประเทศไทย 105.99 ล้านบาท
- รายการเรียลลิตี้ จำนวน 30 เรื่อง รายได้เข้าประเทศไทย 668.76 ล้านบาท
- ภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์ (ซีรีส์) จำนวน 17 เรื่อง รายได้เข้าประเทศไทย 3,365.00 ล้านบาท
- ละครโทรทัศน์/รายการละเอียดอ่อน/อื่น ๆ จำนวน 8 เรื่อง รายได้เข้าประเทศไทย 21.90 ล้านบาท
10 จังหวัด ที่มีกองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศเข้าไปถ่ายทำมากที่สุด
- กรุงเทพมหานคร จำนวน 282 เรื่อง สำหรับสถานที่ถ่ายทำยอดนิยม ได้แก่ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร สถานีรถไฟหัวลำโพง ตึกคิง เพาเวอร์ มหานคร เป็นต้น
- จังหวัดชลบุรี จำนวน 77 เรื่อง สำหรับสถานที่ถ่ายทำยอดนิยม ได้แก่ ถนนเลียบชายหาดพัทยา เกาะล้าน เกาะสีชัง เป็นต้น
- จังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 60 เรื่อง สำหรับสถานที่ถ่ายทำยอดนิยม ได้แก่ เมืองโบราณ The Studio Park ท่าเรือศุภนาวา เป็นต้น
- จังหวัดปทุมธานี จำนวน 52 เรื่อง สำหรับสถานที่ถ่ายทำยอดนิยม ได้แก่ ACTS Studio มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยรังสิต เป็นต้น
- จังหวัดภูเก็ต จำนวน 47 เรื่อง สำหรับสถานที่ถ่ายทำยอดนิยม ได้แก่ หาดพาราไดซ์ ย่านเมืองเก่าภูเก็ต พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี เป็นต้น
- จังหวัดนนทบุรี จำนวน 41 เรื่อง สำหรับสถานที่ถ่ายทำยอดนิยม ได้แก่ อิมแพคอารีน่า ถนนบอนด์สตรีท เมืองทองธานี เป็นต้น
- จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 39 เรื่อง สำหรับสถานที่ถ่ายทำยอดนิยม ได้แก่ หมู่บ้านแม่กำปอง ปางช้างแม่สา อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เป็นต้น
- จังหวัดนครปฐม จำนวน 27 เรื่อง สำหรับสถานที่ถ่ายทำยอดนิยม ได้แก่ ตลาดน้ำดอนหวาย มูวีโอ้ ทาวน์ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา เป็นต้น
- จังหวัดกระบี่ จำนวน 26 เรื่อง สำหรับสถานที่ถ่ายทำยอดนิยม ได้แก่ หาดพระนาง หาดต้นไทร อ่าวไร่เล เป็นต้น
- จังหวัดราชบุรี จำนวน 25 เรื่อง สำหรับสถานที่ถ่ายทำยอดนิยม ได้แก่ ตลาดน้ำดำเนินสะดวก อุทยานเขาหินงู วัดเขาช่องพราน เป็นต้น
ตัวอย่างหนังที่เคยถ่ายทำในประเทศไทย
- The Creator
- Extraction
- RAMBO 4
- AMERICAN GANGSTER
- THE HANGOVER PART II
- Only God Forgives
เหตุผลที่ต่างชาติเลือกมาถ่ายทำภาพยนตร์ที่ประเทศไทย
โดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้เหตุผลว่า ในปัจจุบัน ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับกองถ่ายภาพยนตร์จากทั่วโลก โดยมีมูลค่าการลงทุนตั้งแต่หลักหลายร้อยล้านบาท จนถึงหนึ่งพันล้านบาท เหตุผลหลักๆ ที่ทำให้ต่างชาติเลือกมาถ่ายทำภาพยนตร์ที่ประเทศไทย ได้แก่
- ความรวดเร็วในการอนุมัติ กองถ่ายภาพยนตร์สามารถยื่นขออนุญาตถ่ายทำผ่านระบบออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยใช้เวลาพิจารณาเพียง 5 วันทำการเท่านั้น เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ที่มีความล่าช้ากว่าหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน เพราะคณะพิจารณาคำขออนุญาตถ่ายทำภาพยนตร์ หรือ “Film Board” มีคณะกรรมการ 3 ชุด เตรียมไว้รองรับ ซึ่งจะประชุมทุกวันจันทร์ พุธ และศุกร์ ทำให้การพิจารณามีความรวดเร็วเป็นอย่างมาก
- ทีมงานมืออาชีพ ประเทศไทยมีทีมงานและบุคลากรที่มีประสบการณ์การทำงานในกองถ่ายภาพยนตร์ระดับโลก โดยเฉพาะภาพยนตร์ฮอลลีวูด นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีสตูดิโอและอุปกรณ์การถ่ายทำที่มีคุณภาพและครบครัน ทำให้สามารถรองรับความต้องการของกองถ่ายได้ทุกรูปแบบ
- สถานที่ถ่ายทำที่สวยงาม ประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและหลากหลาย ทั้งชายหาด ภูเขา ป่าไม้ เมืองเก่า และสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ทำให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของภาพยนตร์ทุกแนว
- มาตรการสนับสนุน รัฐบาลไทยมีมาตรการสนับสนุนการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศ โดยให้เงินคืน (cash rabate) สูงถึง15 - 20% ของเงินลงทุนสำหรับภาพยนตร์ที่มีมูลค่าการลงทุนเกิน 50 ล้านบาท มีบทที่ส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทย และใช้บริการทีมงานไทยเป็นส่วนใหญ่
ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ประเทศไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพและยังคงมีความแข็งแกร่ง เป็น soft power ด้านหนึ่งที่ช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศ และจะเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทยได้ในอนาคต
ที่มา กองกิจการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่างประเทศ (TFO: Thailand Film Office) กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา