BCPG ชี้ Q2/67 รับรุ้กำไรทันที! ปิดดีลขายโรงไฟฟ้าโซลาร์ญี่ปุ่น

BCPG สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญในแวดวงพลังงานไทย ด้วยการปิดดีลขายกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่นทั้งหมด สู่กลุ่มทุนพลังงานยักษ์ใหญ่จากเดนมาร์ก มูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท การตัดสินใจครั้งนี้ไม่เพียงแต่สร้างผลกำไรมหาศาล แต่ยังสะท้อนถึงวิสัยทัศน์และกลยุทธ์อันเฉียบคมในการขับเคลื่อนธุรกิจสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

นายนิวัติ อดิเรก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ (BCPG)   เปิดเผยว่า ได้มีการจำหน่ายกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นทั้ง 9 โครงการ ให้แก่ Obton กลุ่มบริษัทพลังงานหมุนเวียนชั้นนำจากประเทศเดนมาร์ก โดยมีมูลค่ากิจการรวม 10,377 ล้านบาท การทำธุรกรรมดังกล่าวเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2567 และ BCPG ได้รับชำระเงินจากผู้ซื้อครบถ้วนแล้ว

คอนเทนต์แนะนำ

เปิดใจ น้องเฟิร์น นิสิตคณะเภสัชศาสตร์ ผู้ชนะเลิศออกแบบโลโก้ "หมูเด้ง"

"ใหม่ ดาวิกา" ไม่ทน! ฟ้องคนด่าแรง เอาเงินมาช่วยเหลือสัตว์

ตำนาน นางนพมาศ จากพิธี "จองเปรียง" สมัยสุโขทัย สู่ประเพณี "ลอยกระทง"

การจำหน่ายกิจการในครั้งนี้ คาดว่าจะสร้างกำไรให้แก่ BCPG มากกว่า 2,300 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 นายนิวัติ อดิเรก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ของ BCPG เปิดเผยว่า เงินทุนที่ได้รับจากการจำหน่ายกิจการครั้งนี้ จะถูกนำไปลงทุนและพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนอื่นๆ ที่มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้นต่อไป

ขายโรงไฟฟ้าญี่ปุ่น ปลดล็อคศักยภาพธุรกิจ 

ทั้งนี้ การตัดสินใจขายพอร์ตการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นทั้ง 9 โครงการ ซึ่งมีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 117 เมกะวัตต์ พร้อมบริษัทสาขาที่ให้บริการด้านการบริหารจัดการสินทรัพย์ และการดำเนินงานและบำรุงรักษาในประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญของ BCPG ในการปรับโครงสร้างการลงทุน เพื่อนำเงินทุนและผลกำไรที่ได้ไปต่อยอดการพัฒนาโครงการใหม่ๆ ที่มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับแผนการเติบโตระยะยาวที่บริษัทฯ ได้วางไว้

การขายกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่นครั้งนี้ของ BCPG ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างผลกำไรมหาศาล แต่ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นของบริษัทในการพัฒนาธุรกิจพลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง โดยการนำเงินทุนที่ได้ไปลงทุนในโครงการใหม่ๆ ที่มีศักยภาพสูงขึ้น จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งและความยั่งยืนให้กับ BCPG ในระยะยาว และเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนของไทยในเวทีโลก