ในโลกการลงทุนที่เต็มไปด้วยความผันผวน การตัดสินใจของนักลงทุนระดับตำนานอย่าง Warren Buffett ย่อมเป็นที่จับตามองเสมอ
ล่าสุด Berkshire Hathaway บริษัทโฮลดิ้งของ Buffett ได้สร้างความฮือฮาอีกครั้ง ด้วยการเข้าซื้อหุ้น Domino's Pizza และ Pool Corp. ในไตรมาสที่ 3 การเคลื่อนไหวครั้งนี้ ชี้ให้เห็นถึงกลยุทธ์การลงทุนที่น่าสนใจ ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงมีความไม่แน่นอน
บทความนี้ SPOTLIGHT จะพาคุณไปวิเคราะห์เบื้องหลังการตัดสินใจของ Buffett ถึงปัจจัยที่ทำให้ Domino's และ Pool Corp. เป็นธุรกิจที่น่าลงทุน รวมถึง มุมมองต่อกลยุทธ์การลงทุนของ Berkshire Hathaway ในอนาคต
Berkshire Hathaway Inc. บริษัทโฮลดิ้งภายใต้การนำของ Warren Buffett นักลงทุนระดับตำนาน ได้เปิดเผยรายการลงทุนในช่วงไตรมาสที่ 3 โดยมีการเข้าซื้อหุ้น Domino’s Pizza Inc. และ Pool Corp. ซึ่งเป็นการลงทุนใหม่ที่น่าจับตามอง
ขณะเดียวกันก็มีการปรับลดพอร์ตการลงทุนในบางบริษัทที่ถือครองมานาน ส่งผลให้ราคาหุ้นของ Domino's และ Pool Corp. ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงหลังการซื้อขายที่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก
จากเอกสารที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา Berkshire Hathaway ได้เข้าซื้อหุ้นของ Domino's Pizza จำนวน 1.3 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 3.6% ของหุ้นทั้งหมด โดยมีมูลค่าตลาดประมาณ 550 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ ยังได้เข้าซื้อหุ้นของ Pool Corp. ผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์สระว่ายน้ำรายใหญ่ ในสัดส่วน 1% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 152 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม Berkshire Hathaway ได้ขายหุ้น Ulta Beauty บริษัทค้าปลีกเครื่องสำอาง ซึ่งเคยเข้าซื้อในไตรมาสที่ 2 ออกไปเกือบทั้งหมด การขายหุ้นครั้งนี้ส่งผลให้ราคาหุ้น Ulta Beauty ปรับตัวลดลงกว่า 4% ในทางตรงกันข้าม ราคาหุ้นของ Domino's และ Pool Corp. กลับปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 7% หลังจากการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว
การเปิดเผยข้อมูลการลงทุนประจำไตรมาสที่ 3 ของ Berkshire Hathaway ได้สร้างความสนใจอย่างกว้างขวางในแวดวงการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าซื้อหุ้น Domino's Pizza และ Pool Corp. ซึ่งสะท้อนถึงกลยุทธ์การลงทุนที่เฉียบคม ท่ามกลางสภาวะการณ์ทางเศรษฐกิจที่มีความท้าทาย
ปัจจัยสนับสนุนการลงทุนใน Domino's Pizza
ปัจจัยสนับสนุนการลงทุนใน Pool Corp.
กลยุทธ์การลงทุนของ Berkshire Hathaway
สรุป : การเข้าซื้อหุ้น Domino's และ Pool Corp. ของ Berkshire Hathaway สะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์การลงทุนที่รอบคอบ โดยมุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโต มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับปรัชญาการลงทุนแบบเน้นคุณค่า (Value Investing) ที่ Warren Buffett ยึดถือ และประสบความสำเร็จมาอย่างยาวนาน
Warren Buffett นักลงทุนผู้ทรงอิทธิพลวัย 94 ปี ได้ดำเนินการปรับลดสัดส่วนการถือครองหลักทรัพย์ในพอร์ตการลงทุนของ Berkshire Hathaway ซึ่งเป็นที่จับตามองของนักลงทุนทั่วโลก
โดยในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา บริษัทได้ลดสัดส่วนการถือครองหุ้น Apple Inc. ลงประมาณ 25% และ Bank of America Corp. จนมีสัดส่วนต่ำกว่า 10%
การจำหน่ายหุ้น Apple ดังกล่าวส่งผลให้สัดส่วนการลงทุนในภาคเทคโนโลยีของ Berkshire Hathaway ลดลงราว 3%
ทั้งนี้ ในไตรมาสที่ 3 บริษัทมียอดจำหน่ายหุ้นสุทธิรวม 34,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ประกอบกับการงดดำเนินโครงการซื้อหุ้นคืน ส่งผลให้ Berkshire Hathaway มีเงินสดสำรองในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 325,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ในการประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา Buffett ได้กล่าวถึงเงินสดสำรองจำนวนมหาศาลนี้ว่า "เราปรารถนาที่จะนำเงินทุนนี้ไปใช้ หากแต่จะพิจารณาใช้จ่ายก็ต่อเมื่อมั่นใจว่า การลงทุนนั้นมีความเสี่ยงต่ำ และก่อให้เกิดผลตอบแทนในระดับสูง"
การปรับพอร์ตการลงทุน และการสะสมเงินสดของ Berkshire Hathaway สะท้อนให้เห็นถึงนโยบายการลงทุนที่มุ่งเน้นการบริหารความเสี่ยง และการแสวงหาโอกาสในการลงทุนที่เหมาะสม ภายใต้สภาวะเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอน
โดยสอดคล้องกับปรัชญาการลงทุนแบบเน้นคุณค่า (Value Investing) ที่ Buffett ยึดถือมาโดยตลอด นอกจากนี้สิ่งที่น่าติดตามคือ ทิศทางการลงทุนของ Berkshire Hathaway ในอนาคต ว่า Buffett จะใช้เงินสดมหาศาลที่มีอยู่ สร้างผลตอบแทนท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจอย่างไร
อ้างอิง bloomberg