โดยนายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ได้เผยว่า กบข.นั้น ถือว่าเป็นนักลงทุนสถาบัน ที่เน้นการลงมทุนระยะยาว และการพิจารณาเข้าซื้อหุ้นนั้น จะพิจารณาจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และทิศทางการของธุรกิจเป็นหลัก โดยเฉพาะปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจนั้นๆ ซึ่งจะเป็นการส่งปัจจัยบวกให้กับพอร์ตของกบข.มากกว่า
ขณะที่หลายฝ่ายมีความกังวลว่า กบข.มีการเข้าไปลงทุนในหุ้น EA หรือไม่นั้น ซึ่งขอยืนยันว่า กบข. ไม่มีการลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ของ บริษัท พลังงานบริสุทธ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA กบข. ขอแจ้งให้ทราบว่าไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม กบข. เป็นกองทุนที่เน้นสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว มีทีมงานที่เชี่ยวชาญ และมีการติดตามสถานการณ์ที่จะส่งผลกระทบต่อการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด พร้อมปรับกลยุทธ์การลงทุนตามปัจจัยที่เกิดขึ้น เพื่อเป้าหมายในการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่สมาชิก
ขณะที่การลงทุนในตราสารทุนนั้น กบข. มีเกณฑ์การคัดเลือกหุ้นที่เข้มงวด โดยจะคัดกรองจากหลักทรัพย์แต่ละหลักทรัพย์ ติดตามการดำเนินการและปรับการลงทุนอย่างใกล้ชิดสม่ำเสมอ
โดยทิศทางของกบข.คือ กบข.มีแผนงานวางรากฐานการบริหารกองทุน ในการขับเคลื่อน กบข. ให้เป็นกองทุนที่มีความมั่นคง สร้างผลตอบแทนการลงทุนที่ดีในระยะยาว มากกว่าอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 10 ปี บวก 2% ต่อปี และเพิ่มระดับความไว้วางใจของสมาชิกที่มีต่อ กบข. เพื่อให้สมาชิกมุ่งสู่การมี “Freedom for Living เกษียณมีสุข”
ทั้งนี้ จะมีการทบทวนความเพียงพอของเงิน ณ วันเกษียณ โดยเพิ่มตัวแปรหนี้สิน การมีอายุยืนยาวของคนไทย และระดับความเพียงพอของสมาชิกแต่ละกลุ่มอาชีพเข้ามาศึกษาเพิ่มเติม เพื่อให้ระดับความเพียงพอมีค่าเป็นปัจจุบันมากที่สุด และนำผลศึกษามาปรับปรุงแผนการจัดสรรการลงทุนของ กบข.
นอกจากนี้ อยู่ระหว่างการศึกษาเพิ่มทางเลือกในการรับผลตอบแทนรูปแบบอื่นให้กับสมาชิก โดยทางเลือกในการรับผลตอบแทนรูปแบบอื่นออกแบบสำหรับส่วนเพิ่มเงินออมที่สมาชิกเพิ่มเติมจากภาคบังคับ เนื่องจากความต้องการของสมาชิกในการออมเพิ่มนั้นอาจมีลักษณะผลตอบแทน อาทิ ต้องการรับเงินปันผลระหว่างทาง ต้องการทางเลือกในการออมเพิ่มเติม และอาจรวมถึงสิทธิประโยชน์อื่นๆ เช่น สิทธิ์ในการใช้บริการ Retirement Home & Care เป็นต้น ซึ่งจำเป็นต้องมีการศึกษาความเป็นไปได้ และอาจต้องมีการปรับปรุงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้