แม้ว่าตลาดคริปโตจะมีข่าวดีที่ช่วยสนับสนุนราคาไม่ว่าจะเป็นการที่โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศให้สหรัฐฯเป็นเมืองหลวงของคริปโต ตลอดจนแต่งตั้งคณะกรรมการที่มาจากหลายฝ่ายมาออกกฎระเบียบเพื่อส่งเสริมคริปโต แต่ราคา Bitcoin และตลาดในภาพรวมยังซบเซาไม่สามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้ย่างที่คาด
เราไปดูกันทีละเหตุผลว่าทำไมตลาดยังไม่กลับไปเป็นกระทิงและจะยังมีโอกาสจะได้เห็นตลาด Bull Run ได้อีกหรือไม่
การที่ราคา Bitcoin ปรับตัวขึ้นมาแตะระดับ 109,000 ดอลลาร์ ได้มาจากความคาดหวังที่จะเห็นรัฐบาลสหรัฐฯเข้าซื้อ Bitcoin เข้าสู่ Strategic Reserve แต่ในที่สุดแม้จะมีการเซ็นจัดตั้งกองทุนแต่จะเป็นการนำ Bitcoin ที่ถูกยึดมาจำนวนประมาณ 200,000 BTC เข้ามาเก็บในกองทุนก่อน โดยยังไม่มีการซื้อเพิ่มแต่จะหาแนวทางที่เหมาะสมโดยไม่ใช้เงินภาษีประชาชน ทำให้ตลาดเกิดความผิดหวัง
อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯยังไม่ปิดประตูที่จะเข้าซื้อ Bitcoin ใหม่ โดยล่าสุดได้มีการความพยายามที่จะเสนอร่างกฎหมายที่จะเข้าซื้อ Bitcoin เข้าสู่ Strategic Reserve ทำให้ตลาดยังมีความหวังที่จะได้เห็นสหรัฐฯเข้าซื้อจนถึงเป้าหมาย 1 ล้าน BTC ตามแผนเดิมต่อไป
การที่อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูงไม่ลงมาตามเป้าหมาย 2.0% ทำให้คณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐฯยังชะลอการลดดอกเบี้ยโดยคงเหลือเพียงสองครั้งในปีนี้ ทำให้สภาพคล่องในตลาดยังไม่ไหลไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงรวมถึง Bitcoin
ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐฯยังไม่ถึงกับฟื้นตัวมากนักและยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยรวมถึงล่าสุดดัชนี CPI ประจำเดือนกุมภาพันธ์ที่เริ่มชะลอตัวลง ถ้าหากเงินเฟ้อเริ่มลดลงและเศรษฐกิจสหรัฐได้รับผลกระทบจากนโยบายเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติมของโดนัลด์ทรัมป์ อาจเป็นไปได้ว่าการลดดอกเบี้ยจะเริ่มกลับมาอีกครั้ง
ตั้งแต่โดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่ง ตลาดหุ้นสหรัฐฯเผชิญแรงขายอย่างต่อเนื่องจากการมาของเอไอสัญชาติจีนที่ทำให้มีแรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐฯตลอดจนนโยบายเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติมของทรัมป์ที่ทำให้ตลาดหุ้นเกิดความผันผวนและส่งผลกระทบมาถึง Bitcoin
ถึงตอนนี้ทรัมป์ได้ประกาศนโยบาย Tariffs ออกมาแล้วอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดว่าการเจรจาหาข้อตกลงจะได้ข้อยุติได้ในไม่นานนี้ซึ่งจะลดแรงเทขายในตลาดหุ้น รวมถึงสถิติในอดีตถ้าหากดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลงในระดับเกิน 10% มักตามมาด้วยการฟื้นตัวกลับและจะทำให้มีแรงซื้อ Bitcoin เข้ามาด้วย
แม้ว่าจะมีปัจจัยลบและตลาดยังเป็นขาลงแต่ในช่วงที่โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี ยังพอมีข่าวดีที่ได้เห็นซึ่งจะเป็นการสนับสนุนตลาดให้กลับมาเป็นขาขึ้นได้อีกครั้งไม่ว่าจะเป็น
การเข้าซื้อจากนักลงทุนสถาบันโดยเฉพาะบริษัทในตลาดหุ้น ยังคงมีอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะเก็บ Bitcoin ในงบการเงินของบริษัท นอกเหนือไปจากบริษัท Strategy ของ Michael Saylor ขณะเดียวกันเริ่มมีกองทุนมั่งคั่งแห่งชาติบางแห่งเช่นอาบูดาบีที่เริ่มเข้าซื้อ Bitcoin ซึ่งจะเป็นการสร้างฐานที่มั่นคงในระยะยาว
บริษัทจัดการลงทุนต่างๆยังคงยื่นเรื่องต่อ ก.ล.ต.สหรัฐฯเพื่อจัดตั้ง ETF ของ Altcoin ต่างๆ บ่งบอกว่าสถาบันการเงินดั้งเดิมยังมีความเชื่อมั่นต่อนโยบายการส่งเสริมคริปโตของ ก.ล.ต. สหรัฐฯ คาดว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นหลังประธานคนใหม่เริ่มต้นทำงานอย่างเป็นทางการ
กราฟเทคนิคยังบ่งบอกถึงแนวโน้มขึ้น การปรับตัวลงมาจากจุดสูงสุด 30% ถือเป็นตัวเลขการปรับฐานในภาวะขาขึ้นที่สมเหตุผสมผลและคาดหวังถึงการกลับตัวขาขึ้นได้ รวมถึงการที่ราคายังยืนเหนือจุดสูงสุดเดิม 74,000 ดอลลารื ยังคงคาดหวังได้ถึงการกลับไปทำจุดสูงสุดใหม่
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม พฤติกรรมราคา Bitcoin ที่เกิดเป็นแพทเทิร์นซ้ำๆในหลายไซเคิลที่ผ่านมาอาจเปลี่ยนแปลงไปไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปหลังการมาของนักลงทุนสถาบันที่กลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของ Bitcoin และตลาดคริปโตหลังจากนี้
ประธานเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการ บริษัท เมตาที จำกัด และ นายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย