นายพชร อนันตศิลป์ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง เผยว่า พันธบัตรออมทรัพย์ของรัฐบาล วงเงิน 25,000 ล้านบาท ที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปจองซื้อระหว่างวันที่ 19-21 สิงหาคม 2567 ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม จนเต็มวงเงินที่ตั้งไว้
การจัดสรรพันธบัตรในครั้งนี้ ดำเนินการภายใต้หลักเกณฑ์ Small Lot First เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและทั่วถึงแก่ผู้จองซื้อทุกราย โดยไม่จำกัดวงเงินในการจองซื้อ ซึ่งเริ่มต้นที่ 1,000 บาทขึ้นไป การจัดสรรพันธบัตรในครั้งนี้
โดยเป็นการดำเนินการภายใต้หลักเกณฑ์ Small Lot First เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและทั่วถึงแก่ผู้จองซื้อทุกราย โดยไม่จำกัดวงเงินในการจองซื้อ ซึ่งเริ่มต้นที่ 1,000 บาทขึ้นไป โดยผู้จองซื้อทุกรายจะได้รับแจ้งผลการจัดสรรพันธบัตรจากธนาคารตัวแทนจำหน่ายในวันที่ 22 สิงหาคม 2567 ผ่าน SMS หรือวิธีการอื่นใดของธนาคารตัวแทนจำหน่าย
ผลการจัดสรรพันธบัตรออมทรัพย์รัฐบาลในครั้งที่ 2 แบบ Small Lot First มีผู้ได้รับการจัดสรรสิทธิ์ทั้งสิ้น 47,088 ราย โดยวงเงินจัดสรรต่อรายเริ่มต้นที่ 1,000 บาท และสูงสุดไม่เกิน 831,000 บาท (เมื่อรวมยอดจองซื้อจากทุกธนาคาร) ทั้งนี้ ผู้จองซื้อที่ไม่ได้รับการจัดสรร จะได้รับเงินคืนเต็มจำนวนภายในวันเดียวกันกับที่ประกาศผลการจัดสรรผ่านช่องทางที่ธนาคารแจ้งไว้
สำนักงานฯ จะเปิดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์สำหรับนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไร วงเงิน 5,000 ล้านบาท อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.00% ต่อปี โดยเปิดจำหน่ายระหว่างวันที่ 26-27 สิงหาคม 2567 นิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไรที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารตัวแทนจำหน่ายทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย
การที่พันธบัตรออมทรัพย์ของรัฐบาลได้รับความสนใจอย่างล้นหลามในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของประชาชนและนิติบุคคลที่มีต่อเสถียรภาพทางการเงินของประเทศ และความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่มั่นคง นอกจากนี้ การที่รัฐบาลเปิดโอกาสให้ทั้งประชาชนและนิติบุคคลไม่แสวงหากำไรเข้าถึงพันธบัตรออมทรัพย์ ยังเป็นการส่งเสริมการออมและการลงทุนในประเทศอีกด้วย