บทความนี้ SPOTLIGHT พาทุกคนมาดูความคึกคักของการเดินทางของคนจีน ในช่วงเทศกาลชุนยุ่น และเทศกาลตรุษจีน ทั้งทางบกด้วยรถยนต์ และรถไฟ ภายในแผ่นดินใหญ่ของจีน และทางอากาศด้วยเครื่องบินทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ
‘เทศกาลชุนยุ่น’ ช่วงการท่องเที่ยวครั้งใหญ่ของชาวจีน
จีนเริ่มเทศกาลการเดินทางครั้งใหญ่ เทศกาลชุนยุ่น (Chun Yun) ซึ่งเป็นการเดินทางที่เริ่มต้นก่อนเทศกาลตรุษจีนถึง 15 วัน คาบเกี่ยวระหว่างตรุษจีนเลยไป ในระยะเวลาถึง 40 วัน
โดยในปีนี้คาดว่ามีการเดินทางรวม 9,000 ล้านครั้ง เกือบสองเท่าของการเดินทาง 4,700 ล้านครั้ง ในช่วงเทศกาลนี้เมื่อปี 66 ที่จีนเพิ่งยกเลิกข้อจำกัดการเดินทาง
นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มเที่ยวบินต่างประเทศ 2,500 เที่ยว และยังพบว่าประเทศในภูมิภาคอาเซียนเป็นหนึ่งในปลายทางที่มีการเพิ่มเที่ยวบินมากขึ้น
เทศกาลตรุษจีน
เทศกาลตรุษจีน หนึ่งในเทศกาลสำคัญของคนจีนในการเฉลิมฉลองการก้าวเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิตามปฏิทินจันทรคติของจีน ซึ่งเป็นเทศกาลที่คาบเกี่ยวเทศกาลชุนยุ่น ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 10 ก.พ.67
ผู้คนจำนวนหลายล้านคนในเมืองใหญ่ เตรียมตัวทยอยเดินทางกลับไปยังบ้านเกิดของตน เพื่อบูชาไหว้เทพเจ้า ไหว้บรรพบุรุษผู้ล่วงลับ และไหว้ผีไม่มีญาติ และยังถือโอกาสใช้ช่วงวันหยุดตรุษจีนเป็นการใช้เวลาอยู่ร่วมกับครอบครัวใหญ่ ทำให้เทศกาลตรุษจีน กลายเป็นหนึ่งในช่วงเวลาการเดินทางที่คึกคักที่สุดประจำปี
จากการรายงานของสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (CCTV) พบว่า เกือบ 80% ของการเดินทาง 9,000 ล้านครั้งจะเป็นการเดินทางโดยรถยนต์ของตนเอง ส่วนที่เหลือเป็นการเดินทางโดยรถไฟ ทางอากาศ และทางน้ำ
ราคาตั๋วรถไฟพุ่งสูง 1 วันมีการเดินทางด้วยรถไฟถึง 11 ล้านเที่ยว
สำนักข่าว South China Moring Post ได้มีการรายงาน จากความต้องการการเดินทางด้วยรถไฟที่มีอัตราพุ่งขึ้นสูงในช่วงเทศกาลชุนยุ่น และด้วยจำนวนผู้โดยสารที่หนาแน่น ทำให้ผู้โดยสารหลายคนประสบปัญหาการซื้อตั๋วรถไฟ แม้ว่าจีนจะมีเครือข่ายรถไฟความเร็วสูงขนาดใหญ่ที่สุดในโลก แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ผู้โดยสารจำนวนมากต้องอยู่ในรายชื่อสำรอง ในขณะที่บางคนยอมจ่ายเงินราคาแพงขึ้นกว่า 13% เพื่อให้ได้ที่นั่งในช่วงเวลาที่หนาแน่น
โดยในวันที่ 26 ม.ค.67 ที่ผ่านมา มีการรายงานว่า มีจำนวนเที่ยวรถไฟเกือบ 11 ล้านเที่ยวได้ออกเดินทาง และคาดการณ์ว่าในช่วงระยะเวลาเดินทางกว่า 40 วัน จะมีการเดินทางโดยรถไฟ 480 ล้านเที่ยว ซึ่งเพิ่มขึ้น 38% จากปี 66และเพิ่มขึ้น 17% จากปี 62 ซึ่งเป็นปีก่อนเกิดโรคโควิด-19
สนามบินพลุกพล่าน เฉลี่ยเที่ยวบิน 1.8 ล้านครั้งต่อวัน
โดยในวันที่ 26 ม.ค.67 ที่ผ่านมา มีการรายงานจากหน่วยงานกำกับดูแลการบินของจีน ว่าสนามบินอัดแน่นด้วยผู้โดยสารเกือบ 2 ล้านคน สนามบินในเมืองใหญ่ที่สุดของจีนอย่างปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้เกิดความหนาแน่น เนื่องจากต้องรองรับฝูงชนจำนวนมาก
ส่วนสนามบิน 2 แห่งในเซี่ยงไฮ้ คาดว่าจะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 57.6% เมื่อเทียบกับฤดูกาลนี้ของปี 66 ขณะที่สนามบินในปักกิ่งคาดว่าจะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นมากกว่า 60% จากปีก่อนหน้า โดยคาดว่าตลอด 40 วันแห่งฤดูกาล จะมีจำนวนการเดินทางทางอากาศจะเพิ่มขึ้นกว่า 19% จากปี 62 และมากถึง 80 ล้านเที่ยวบิน
ช่วงฤดูกาลนี้ คาดว่า จำนวนการเดินทางทางอากาศจะเพิ่มขึ้น 19% จากปี 2019 เป็น 80 ล้านเที่ยว ซึ่งสนามบินในเมืองใหญ่ที่สุดของจีนอย่างปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้จะต้องรองรับฝูงชนจำนวนมาก
-
โดยในช่วงระหว่างวันที่ 10-17 ก.พ. 67 อาจเฉลี่ยอยู่ที่ 1.8 ล้านครั้งต่อวัน เพิ่มขึ้นราว 3.3 เท่า เมื่อเทียบปี 66
-
รวมถึงมีปริมาณผู้โดยสารหมุนเวียนสูงสุดระหว่างวันที่ 8-11 ก.พ. และ16-17 ก.พ.
-
ส่วนกลุ่มด่านบกติดกับฮ่องกงและมาเก๊าจะมีปริมาณผู้โดยสารหมุนเวียนสูงสุดระหว่างวันที่ 11-15 ก.พ.
ทำให้หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองตามพรมแดน มีการเพิ่มการเฝ้าติดตามปริมาณผู้โดยสารหมุนเวียน และเผยแพร่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างท่วงที เพื่อเกื้อหนุนการเข้าและการออกที่มีประสิทธิภาพในช่วงวันหยุดยาวนี้ เพื่อรับประกันว่าพลเมืองจีนต่อคิว ด้วยระยะเวลาไม่เกิน 30 นาที
สำหรับการเดินทางไปต่างประเทศก็มีการคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยมีการเพิ่มเที่ยวบินระหว่างประเทศมากกว่า 2,500 เที่ยว โดยเป็นเที่ยวบินไปยังจุดหมายปลายทางในเอเชียเช่น ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ รวมถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างประเทศไทย
ด้านรัฐบาลไทย ได้มีการคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยในช่วงเทศกาลตรุษจีน (8-16 ก.พ.67) ไม่ต่ำกว่า 200,000 คน และสามารถสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวจีนแผนดินใหญ่ กว่า 6,213 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 366% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 66 สอดรับกับมาตรการยกเว้นวีซ่า หรือ วีซ่าฟรี ให้แก่นักท่องเที่ยวจีน เพื่อกระตุ้นการเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยให้เพิ่มมากขึ้น
อ้างอิง South China Morning Post