การเงิน

บัตรเครดิตจ่ายแต่ขั้นต่ำ มีแต่ช้ำใจ

11 ส.ค. 67
บัตรเครดิตจ่ายแต่ขั้นต่ำ มีแต่ช้ำใจ
ไฮไลท์ Highlight
จากตารางพบว่า หากชำระขั้นต่ำไปเรื่อยๆ เริ่มต้นเดือนแรกที่ 4,000 บาท หากไม่มีการสร้างหนี้เพิ่ม แม้ยอดจ่ายแต่ละเดือนจะลดลงไปเรื่อยๆ ตามหนี้ที่เหลือน้อยลง ก็ต้องชำระไปจนถึงเดือนที่ 57 หนี้คงค้างถึงจะอยู่ที่ประมาณหนึ่งพันบาท (1,049.61 บาท) ซึ่งหากว่าเห็นว่ายอดหนี้นี้เหลือน้อยจนสามารถตัดสินใจจ่ายเพื่อปิดหนี้ที่เหลือได้ในงวดนี้ ดอกเบี้ยที่จ่ายไปตั้งแต่เดือนที่ 1-57 จะรวมอยู่ที่ 9,804 บาท คิดเป็นประมาณ 20% หรือ 1 ใน 5 ของยอดหนี้เริ่มต้นเลย และแน่นอนว่าหากหนี้ที่ว่าสูงกว่านี้ดอกเบี้ยรวมย่อมสูงขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน เช่น ยอดหนี้บัตรเครดิต 100,000 บาท ชำระขั้นต่ำทุกเดือน ต้องจ่ายถึง 67 เดือน ยอดหนี้ถึงจะเหลือประมาณหนึ่งพันบาท โดยดอกเบี้ยรวมที่จ่ายไปถึงงวดนี้ ก็สูงถึง 19,803 บาท หรือเกือบ 20%ของยอดหนี้เช่นกัน

รู้หรือไม่! คนที่จ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำทุกเดือน 1 ใน 5 ของเงินที่จ่ายไป อาจหมดไปกับดอกเบี้ยบัตรเครดิต หากไม่อยากจ่ายดอกเบี้ยมากขนาดนี้ แนะนำ! ให้มาทำความเข้าใจกับ สิ่งที่ต้องรู้เมื่อจ่ายบัตรเครดิตแต่ขั้นต่ำ ก่อนช้ำใจ ดังนี้

แต่ละเดือน มีดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย

อัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิต ปัจจุบันอยู่ที่ 16%ต่อปี เช่น ยอดหนี้ล่าสุด 50,000 บาท ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในเดือนที่จะมาถึงอยู่ที่ 667 บาท (= 50,000 x 16% / 12) ซึ่งดอกเบี้ยที่ว่าอาจดูเหมือนไม่เยอะ แต่หากเปรียบเทียบกับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันแล้ว ก็เสมือนว่ากำลังเสียเงินค่าบุฟเฟต์ดีๆ ไป 1 มื้อ หรือเทียบได้กับค่าแรงหรือค่าจ้างขั้นต่ำของใครบางคนถึง 2 วันเลย

หากเปรียบเทียบกับดอกเบี้ยบ้าน ก็ถือว่าดอกเบี้ยบัตรเครดิตสูงกว่าถึงประมาณ 3-5 เท่า ตัวอย่างเช่น หากดอกเบี้ยบ้านอยู่ที่ 3.5%ต่อปี ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายเดือนละ 667 บาท เทียบเท่ากับคนที่มียอดหนี้บ้านคงค้างถึง 228,571 บาทเลย

จ่ายขั้นต่ำ เสียดอกเบี้ยมากกว่าที่คิด

ด้วยยอดหนี้บัตรเครดิต 50,000 บาท หากเลือกจ่ายขั้นต่ำ 8%ทุกเดือน โดยไม่มีการสร้างหนี้หรือใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่มอีก พบว่าในแต่ละเดือนมียอดชำระส่วนที่เป็นเงินต้นและดอกเบี้ย ดังนี้

คำนวณจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ
จากตารางพบว่า หากชำระขั้นต่ำไปเรื่อยๆ เริ่มต้นเดือนแรกที่ 4,000 บาท หากไม่มีการสร้างหนี้เพิ่ม แม้ยอดจ่ายแต่ละเดือนจะลดลงไปเรื่อยๆ ตามหนี้ที่เหลือน้อยลง ก็ต้องชำระไปจนถึงเดือนที่ 57 หนี้คงค้างถึงจะอยู่ที่ประมาณหนึ่งพันบาท (1,049.61 บาท) ซึ่งหากว่าเห็นว่ายอดหนี้นี้เหลือน้อยจนสามารถตัดสินใจจ่ายเพื่อปิดหนี้ที่เหลือได้ในงวดนี้ ดอกเบี้ยที่จ่ายไปตั้งแต่เดือนที่ 1-57 จะรวมอยู่ที่ 9,804 บาท คิดเป็นประมาณ 20% หรือ 1 ใน 5 ของยอดหนี้เริ่มต้นเลย และแน่นอนว่าหากหนี้ที่ว่าสูงกว่านี้ดอกเบี้ยรวมย่อมสูงขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน เช่น ยอดหนี้บัตรเครดิต 100,000 บาท ชำระขั้นต่ำทุกเดือน ต้องจ่ายถึง 67 เดือน ยอดหนี้ถึงจะเหลือประมาณหนึ่งพันบาท โดยดอกเบี้ยรวมที่จ่ายไปถึงงวดนี้ ก็สูงถึง 19,803 บาท หรือเกือบ 20%ของยอดหนี้เช่นกัน

จ่ายเพิ่มอีกนิด ดอกเบี้ยลดไปไม่น้อย

ดอกเบี้ยบัตรเครดิตเป็นแบบลดต้นลดดอก โดยดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายแต่ละงวดขึ้นกับยอดหนี้ที่เหลืออยู่ ยิ่งยอดหนี้เหลือน้อยดอกเบี้ยที่จ่ายจะยิ่งน้อยลง ดังนั้นในแต่ละเดือนหากสามารถจ่ายได้มากกว่าขั้นต่ำ 8% เช่น 10%-15%ของยอดหนี้ ฯลฯ หรือจ่ายด้วยจำนวนที่เท่ากันทุกงวด ดอกเบี้ยรวมที่จ่ายก็จะน้อยลง ตัวอย่างเช่น ยอดหนี้บัตรเครดิตเริ่มต้นที่ 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 16%ต่อปี

  • หากชำระ 10%ของยอดหนี้คงค้างไปเรื่อยๆ เช่น เดือนที่ 1 ชำระ 5,000 บาท ผ่านไป 44 เดือน ยอดหนี้จะเหลืออยู่ที่ 1,014 บาท ซึ่งหากตัดสินใจจ่ายหนี้ที่เหลือทั้งหมดในงวดนี้ ดอกเบี้ยรวมที่จ่ายไปอยู่ที่ 7,550 บาท คิดเป็นประมาณ 15%ของยอดหนี้เริ่มต้น
  • หากชำระเดือนละ 4,000 บาท (8%ของยอดหนี้เริ่มต้น) เท่าๆ กันทุกงวด ไม่ว่ายอดหนี้เหลือเท่าไรก็ตาม จะสามารถชำระหนี้คืนได้ทั้งหมดใน 14 เดือน ดอกเบี้ยรวมที่จ่ายอยู่ที่ 5,060 บาท คิดเป็นประมาณ 10%ของยอดหนี้เริ่มต้น หรือคิดเป็นเพียงครึ่งหนึ่งของดอกเบี้ยรวมในกรณีจ่ายขั้นต่ำ 8%ทุกงวด

 จ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ

ดอกเบี้ยที่จ่าย ทำให้เงินเหลือเก็บน้อยลง

การเป็นหนี้บัตรเครดิต ไม่ควรคำนึงถึงเฉพาะความสามารถในการชำระหนี้ในแต่ละเดือนเท่านั้น แต่ควรรู้เท่าทันถึงผลกระทบที่ทำให้เหลือเงินเก็บน้อยลงด้วย ตัวอย่างเช่น ยอดหนี้บัตรเครดิต 50,000 บาท การจ่ายขั้นต่ำทุกเดือน ที่ทำให้เกิดภาระดอกเบี้ยรวม 9,804 บาท หลายคนมองว่าก็แค่ทำให้มีเงินเก็บน้อยลง 9,804 บาทเท่านั้น

แต่หากคำนึงถึงต้นทุนการเสียโอกาสที่จะนำเงินจำนวนที่เท่ากันไปฝากหรือลงทุนต่อ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นย่อมต่างกัน เช่น  หากนำเงินที่เป็นดอกเบี้ยจำนวน 667 บาท ในเดือนที่หนึ่ง จำนวน 622 บาท ในเดือนที่สอง ไปเรื่อยๆ จนถึงเงินจำนวน 14 บาท ในเดือนที่ 57 ไปลอง

  • ฝากธนาคารที่ให้ดอกเบี้ย 5%ต่อปี จะทำให้เงินดังกล่าวงอกเงยขึ้นเป็นจำนวน 10,348 บาท หรือได้เงินเพิ่ม 5.5% (เทียบกับ 9,804 บาท) ในช่วง 57 เดือน

  • ลงทุนในทางเลือกที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 5%ต่อปี จะทำให้เงินดังกล่าวงอกเงยขึ้นเป็นจำนวน 11,745 บาท หรือได้เงินเพิ่ม 5% (เทียบกับ 9,804 บาท) ในช่วง 57 เดือน

จ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต มีผลร้ายมากกว่าที่หลายคนคิด ไม่เพียงเป็นศัตรูของเงินออมที่มี ยังส่งผลต่อวินัยการใช้จ่ายประจำวัน ซึ่งอาจเป็นต้นเหตุของการมีหนี้สินเกินตัวได้ในอนาคต อีกทั้งยังอาจก่อให้เกิดความเครียดสะสมแบบไม่รู้ตัวจนกระทบต่อการใช้ชีวิตในแต่ละวันได้

ราชันย์ ตันติจินดา

ราชันย์ ตันติจินดา

นักวางแผนการเงิน CFP

advertisement

SPOTLIGHT