FETCO นัดหารือรมว.คลัง ขอต่ออายุมาตรการ SSF ชูโรดโชว์ดึงดูดทุนต่างชาติ
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยว่าขณะนี้ได้ส่งหนังสือนัดหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อพูดคุยในหลายประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการพัฒนาตลาดทุนและเศรษฐกิจไทย โดยมีข้อหารือหลักดังนี้:
คอนเทนต์แนะนำ
ประเด็นหารือสำคัญ
1. มาตรการภาษีกองทุน SSF : FETCO จะหารือเรื่องการต่ออายุมาตรการภาษีสำหรับกองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว (SSF) และวางแนวทางส่งเสริมการลงทุนระยะยาว เพื่อกระตุ้นการออมและพัฒนาตลาดทุน
2. การจัดโรดโชว์ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ : ร่วมมือกับรัฐบาลในการจัดโรดโชว์ เพื่อแสดงศักยภาพของเศรษฐกิจไทย พร้อมมุ่งเน้นการดึงเม็ดเงินลงทุนผ่านตลาดทุนไทยและ ETF ผ่านทั้งช่องทางออนไลน์และการเชิญนักลงทุนเข้ามาโดยตรง
นายกอบศักดิ์ ชี้ว่าประเทศไทยมีศักยภาพที่ดี แต่จำเป็นต้องประชาสัมพันธ์ให้นักลงทุนทั่วโลกทราบมากขึ้น
3. ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการลงทุน : FETCO เตรียมนำเสนอความคืบหน้าโครงการกองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน (TESG) และแนวทางพัฒนาตลาดทุนเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ โดย GDP ปีนี้ คาดโตมากกว่า 3% จาก 4 ปัจจัยหนุน
นายกอบศักดิ์ ประเมินเศรษฐกิจไทยปี 2568 ว่ามีโอกาสเติบโตมากกว่า 3% โดยได้รับแรงหนุนจาก 4 ปัจจัยหลัก ได้แก่:
1. การท่องเที่ยว : คาดจำนวนนักท่องเที่ยวมากกว่า 40 ล้านคน
2. การส่งออก : ฟื้นตัวจากเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้น และแรงกระตุ้นจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน
3. การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) : นักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจในศักยภาพการลงทุนของไทย
4. มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล : รวมถึงโครงการขนาดใหญ่และการลงทุนจากภาครัฐ
ตลาดหุ้นผันผวนในระยะสั้น
FETCO ชี้ว่า ตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันเผชิญกับความผันผวนจาก 2 ปัจจัยหลัก ได้แก่ :
1. นโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ : ผลกระทบจากนโยบายการค้าก่อนการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ
2. Global Minimum Tax : การเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลขั้นต่ำทั่วโลก สร้างความกังวลให้กับนักลงทุน
FETCO แนะนำให้ผู้ลงทุนมุ่งเน้นพิจารณาปัจจัยพื้นฐานของหุ้นแต่ละตัวและลงทุนอย่างระมัดระวัง
FETCO วางเป้าหมายขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยผ่านการหารือกับภาครัฐในมาตรการภาษีและการลงทุน รวมถึงดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติผ่านโรดโชว์ ขณะเดียวกันประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้มีโอกาสเติบโตจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง แม้จะมีความผันผวนในตลาดหุ้นจากปัจจัยต่างประเทศในระยะสั้น
