positioning

“ อมตะ”มั่นใจยอดขายที่ดินโตต่อเนื่องรับกลุ่นทุนจีนย้ายฐาน

28 มี.ค. 67
“ อมตะ”มั่นใจยอดขายที่ดินโตต่อเนื่องรับกลุ่นทุนจีนย้ายฐาน
“อมตะ” เผยทิศทาง ปี 2567 รับปัจจัยบวกดันการขายที่ดินในนิคมฯโตขึ้นต่อเนื่องรับอานิสงส์ นักลงทุนย้ายฐาน ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์และอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยเฉพาะกลุ่มจีนเร่งสร้างฐานผลิตใหม่ในไทย

นายโอซามู ซูโด รักษาการประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัทอมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) (AMATA) เปิดเผยแนวโน้มการขายที่ดินเพื่อรองรับการลงทุนในปี 2567 ว่า บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาทบทวนเป้ายอดขายที่ดินในปี 2567 เนื่องจากอยู่ระหว่างรอข้อสรุปการปิดการขายสัญญาซื้อที่ดินของลูกค้าคาดว่ายอดขายที่ดินในปีนี้ น่าจะใกล้เคียงหรือมากกว่าปีที่ผ่านมาที่1,800 ไร่สอดรับกับทิศทางการเติบโตเศรษฐกิจในปัจจุบัน ในขณะที่สถานการณ์การเมืองทำให้นักลงทุนให้ความสนใจในการเข้ามาลงทุน เพื่อผลิตสินค้าส่งออก ดังนั้นปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุนจึงขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจโลกที่มีความสำคัญมากขึ้น

ในปีที่ผ่านมาการขายที่ดินในนิคมฯมีความโดดเด่นในโครงการต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเวียดนาม สอดรับกับทิศทางความต้องการของนักลงทุนและแนวโน้มการลงทุนที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคลัสเตอร์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า อุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง สอดรับกับนโยบายการส่งเสริมการลงทุนของสำนักงานส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) และเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) นับเป็นทิศทางและปัจจัยบวกในการส่งเสริมการลงทุนอย่างต่อเนื่องในขณะที่รัฐบาลของประเทศเวียดนามเองก็ให้การสนับสนุนและส่งเสริมการลงทุนของนักลงทุนมากขึ้น
แนวโน้มการลงทุนในช่วงปีก่อนจนถึงปัจจุบัน มีลูกค้าให้ความสนใจซื้อที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมของบริษัท เพื่อลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตอย่างต่อเนื่อง และได้เข้ามาสำรวจที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมของอมตะหลายราย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการจากจีนที่มีความต้องการเข้ามาลงทุนในประเทศมากขึ้น ซึ่งนิคมอุตสาหกรรมที่กลุ่มนักลงทุนจีนให้ความสนใจเข้ามาสำรวจที่ดิน คือ นิคมฯ ไทย-จีน ที่ตั้งอยู่ในอมตะซิตี้ ระยอง ทำให้แนวโน้มความต้องการซื้อที่ดินในจังหวัดระยองจากผู้ประกอบการจีนสูงอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ผู้ผลิตรถยนต์ และผู้ผลิตอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ในปี 2567 คาดว่าสัดส่วนลูกค้าจีนในระยองจะเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ จากการที่ผู้ประกอบการในประเทศจีนมีการย้ายฐานเข้ามาประกอบการตั้งโรงงานในไทยมากขึ้น สาเหตุมาจากปัจจัยสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ทำให้เกิดการย้ายฐานการผลิตในช่วงที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งประเทศกลุ่มอาเซียนถือเป็นเป้าหมายสำคัญในการย้ายฐานการผลิต ซึ่งไทยมีความพร้อมที่จะรองรับการลงทุนจากมาตรการสนับสนุนการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะการลงทุนใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายของรัฐบาล
นางสาวเด่นดาว โกมลเมศ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน AMATA กล่าวว่า ในปี 2567 บริษัทตั้งเป้าที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการเงินมุ่งเน้นไปที่การเติบโตของรายได้ รวมถึงการจัดการด้านต้นทุน โดยวางแนวทางการบริหารจัดการด้านค่าใช้จ่าย การแสวงหาโอกาสการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงที่มีต้นทุนทางการเงินต่ำ พร้อมการบริหารกระแสเงินสดให้มีความเหมาะสม เพื่อรักษาความยืดหยุ่นในการดำเนินงานให้สอดรับกับสภาวการณ์การเปลี่ยนแปลงของตลาดเงินและตลาดทุนเพื่อให้บริษัทเติบโตต่อเนื่อง รวมทั้ง บริษัทยังมีแผนการระดมทุนโดยนำบริษัท อมตะ ยู จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านการให้บริการระบบสาธารณูปโภคและการให้บริการต่างๆ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในโอกาสต่อไปด้วย

Powered By : Positioning

advertisement

SPOTLIGHT