Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
มีใคร “ร้อน” กว่านี้มั้ยคะ? WMO ชี้ 2024 ร้อนสุดในประวัติการณ์
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

มีใคร “ร้อน” กว่านี้มั้ยคะ? WMO ชี้ 2024 ร้อนสุดในประวัติการณ์

20 มี.ค. 68
15:16 น.
|
233
แชร์

รายงานสถานการณ์สภาพภูมิอากาศโลก จากองค์การอุตุนิยมวิทยาโลกฉบับล่าสุด เปิดเผยว่า สถานการณ์โลกแย่ลงไปอีกขั้น รายงานเผยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ว่ากันว่าต้องทำให้ทั้งโลกตกตะลึง หรือก็อาจจะไม่ตะลึง เพราะองค์การอุตุนิยมวิทยาโลกแอบบอกว่า เหล่าผู้นำโลกไม่ได้ใส่ใจปัญหาโลกรวนกันเสียเท่าไหร่ และนี่คือ 4 ข้อเท็จจริงที่ชี้ว่า โลกอาการหนักแล้ว

1. ไม่มีใครร้อนเท่าปี 2024

องค์การอุตุนิยมวิทยาโลกยืนยันแล้วว่า 2024 เป็นปีที่ร้อนที่สุดตั้งแต่มีการเก็บข้อมูลมาเมื่อ 175 ปีก่อนเอาชนะแชมป์เก่าอย่างปี 2023 แถม 2024 ยังเป็นปีแรกที่อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกพุ่งสูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียสเหนือค่ามาตรฐาน (อุณหภูมิก่อนช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรม) ที่ถูกกำหนดไว้ในปี 1850-1900 

แต่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่า เราไม่สามารถบรรลุเป้าหมายของข้อตกลงปารีสได้แล้ว เลขาธิการสหประชาชาติ นายอันโตนิโอ กูเตอเรซกล่าวว่า การจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกไว้ที่ 1.5 องศาเซลเซียสยังเป็นไปได้อยู่ และเหล่าผู้นำต้องก้าวเข้ามาเพื่อทำให้มันเป็นไปได้

รายงานชี้ว่า สาเหตุที่อุณหภูมิพุ่งสูงขึ้นนั่นก็เพราะระดับของก๊าซเรือนกระจกที่สูงขึ้น ร่วมด้วยกับผลกระทบจากเอลนีโญ ปรากฎการณ์สภาพภูมิอากาศที่ทำให้น้ำในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออกอุ่นขึ้่น 

2. ทุก 8 ปีที่ผ่านมา มหาสมุทรร้อนขึ้นทุกที

อุณหภูมิโลกร้อนขึ้น แน่นอนว่าอุณหภูมิมหาสมุทรก็ร้อนขึ้นด้วยเช่นกัน เพราะมหาสมุทรดูดซับความร้อนส่วนเกินของโลกกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ 

ทุกๆ 8 ปีที่ผ่านมาโลกเราจะได้สถิติอุณหภูมิโลกใหม่สูงขึ้นกว่าครั้งก่อนเสมอ แถมช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา การเพิ่มขึ้นอุณหภูมิมหาสมุทรก็สูงกว่าช่วงปี 1950-2005 ถึงสองเท่า ความร้อนในน้ำที่เพิ่มสูง รวมกับพายุเขตร้อน พายุกึ่งเขตร้อน ขึ้นฟอกสีแนวปะการังจนขาว และยังทำให้น้ำแข็งที่กำลังละลายรุนแรงมากขึ้นด้วย

3. น้ำทะเลเพิ่มขึ้นสองเท่าตั้งแต่เริ่มตรวจด้วยดาวเทียม

ตั้งแต่มีการเริ่มใช้ดาวเทียมตรวจสอบอัตราการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลเฉลี่ยเป็นครั้งแรกในปี 1993 การเพิ่มขึ้นของน้ำทะเลก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวในปี 2024  ระหว่างปี 1993-2002 น้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยปีละ 2.1 มิลลิเมตร และเพิ่มเป็น 4.7 มิลลิเมตรระหว่างปี 2015-2024

น้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นส่งผลกระทบต่อชุมชนริมชายฝั่งอย่าง น้ำท่วม ตลิ่งถูกกัดเซาะ หรือทำให้น้ำใต้ดินเค็ม

น้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นผลมาจากน้ำแข็งบริเวณขั้วโลกละลาย เป็นอีกปรากฎการณ์ที่ไม่มีแนวโน้มจะชะลอตัวลงเลย ช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ปี 2021 เป็นสามปีที่น้ำแข็งบริเวณขั้วโลกละลายไปมากที่สุด  

องค์การอุตุนิยมวิทยาโลกระบุว่าพื้นที่ที่มีการสูญเสียเชิงลบมากที่สุดคือนอร์เวย์ สวีเดน หมู่เกาะสฟาลบาร์ และเทือกเขาแอนดีส

2024 มีผู้พลัดถิ่นจากสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงสูงสุด

ในปี 2024 พายุไซโคลน น้ำท่วม ภัยแล้ง และภัยธรรมชาติอื่นๆ เป็นสาเหตุการพลัดถิ่นมากถึง 36 ล้านคน มากที่สุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 2008 ที่มีคนราว 15 ล้านคนในจีนต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่น สืบเนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่มณฑลเสฉวนประเทศจีน และน้ำท่วมในอินเดีย

ในปี 2024 พายุหมุนเขตร้อนพัดพาความเสียหายมามากมาย พร้อมกับลมแรง ฝนฟ้าคะนอง และน้ำท่วม มีคลื่นความร้อนอีกหลายสิบเหตุการณ์ปรากฎอยู่ทั่วโลกอย่างที่เราไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน อย่างเช่น ซาอุดีอาราเบีย อุณหภูมิพุ่งสูงแตะ 50 องศาเซลเซียสระหว่างการแสวงบุญพิธีฮัจญ์

นอกจากนี้ยังมีไฟป่าและภัยแล้งรุนแรงในบางประเทศเป็นเหตุให้คนต้องพลัดถิ่นและส่งผลต่อทรัพยากรอาหาร มีผู้คนกว่า 1 ล้านคนใน 8 ประเทศที่ต้องเผชิญกับความไม่มั่นคงทางอาหารเพิ่มเติมจากปี 2023 และแม้ความวุ่นวายหลายประการที่เกิดขึ้นควรจะป้องกันได้ด้วยระบบการเตือนภัย แต่ประเทศที่ได้รับผลกระทบภัยธรรมชาติจากภาวะโลกรวนมักเป็นประเทศเปราะบางที่มีระบบการเตือนภัยน้อยกว่า

ปิดท้ายด้วยอีกข้อเท็จจริงที่ว่า ขณะนี้ความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ รวมถึงมีเทนและไนตรัสออกไซด์ อยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 800,000 ปีที่ผ่านมา และมากกว่าช่วงก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรมกว่า (1750) 151 เปอร์เซ็นต์


แชร์
มีใคร “ร้อน” กว่านี้มั้ยคะ? WMO ชี้ 2024 ร้อนสุดในประวัติการณ์