ทรัมป์ยื่นคำขาด สั่งปล่อยตัวประกันด่วน มิเช่นนั้น ฮามาสเกมแน่!
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ออกคำเตือนครั้งสุดท้ายถึงกลุ่มฮามาสให้ปล่อยตัวตัวประกันทั้งหมดในฉนวนกาซาทันที โดยทรัมป์โพสต์ใน Truth Social ระุบว่า “ปล่อยตัวประกันทั้งหมดเดี๋ยวนี้ ไม่ใช่ปล่อยทีหลัง และรีบคืนร่างผู้เสียชีวิตที่คุณฆ่าทั้งหมดมาเสีย ไม่เช่นนั้น ฮามาสจบเห่แน่” ทรัมป์ยังขู่จะส่งทรัพยากรทางทหารและทุกสิ่งที่จำเป็นให้กับอิสราเอล เพื่อทำงานนี้ให้สำเร็จและเตือนว่า จะไม่มีสมาชิกฮามาสคนใดเลยที่จะปลอดภัย หากไม่ทำตามที่ทรัมป์บอก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากทำเนียบขาวยืนยันว่ากำลังเจรจากับกลุ่มฮามาสโดยตรงเกี่ยวกับการปล่อยตัวประกันและการหยุดยิงในฉนวนกาซา ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อธรรมเนียมของสหรัฐที่จะไม่เจรจาโดยตรงกับกับองค์กรก่อการร้าย ซึ่งสหรัฐฯ กำหนดให้ฮามาสเป็นองค์กรก่อการร้ายต่างประเทศตั้งแต่ปี 1997
ผู้สื่อข่าวจึงตั้งคำถามต่อโฆษกทำเนียบขาว แคโรไลน์ ลีวิตต์ ว่าเหตุใดสหรัฐฯ จึงตัดสินใจฝ่าธรรมเนียมและเจรจากับกลุ่มก่อการร้ายโดยตรง โดยเธอให้คำตอบว่า เมื่อพูดถึงการเจรจาที่คุณอ้างถึง ก่อนอื่นเลย ทูตพิเศษที่เข้าร่วมในการเจรจามีอำนาจที่จะพูดคุยกับใครก็ได้ ซึ่งทูตคนดังกล่าวหมายถึงอดัม โบห์เลอร์ ผู้ที่ทรัมป์เลือกให้เป็นทูตเจรจาขอคืนตัวประกันโดยเฉพาะ
โฆษกทำเนียบขาว เปิดเผยเพิ่มเติมว่า การเจรจาโดยตรงที่เกิดขึ้นได้รับความยินยอมจากอิสราเอลด้วย และอ้างว่าการเจรจาและการพูดคุยกับผู้คนทั่วโลกจะเป็นประโยชน์กับสหรัฐฯ มากกว่า ตามแนวคิดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่เห็นประโยชน์สูงสุดต่อชาวอเมริกันเป็นเรื่องสำคัญกว่าธรรมเนียมใด ๆ
โอฟีร์ อาคูนิส กงสุลใหญ่ของอิสราเอลในนิวยอร์กออกมาแสดงความเห็นด้วยต่อท่าทีของสหรัฐฯ ระบุว่าหากทำเนียบขาวต้องการพูดคุยโดยตรงกับฮามาสและกดดันให้พวกเขาปล่อยตัวตัวประกันเพิ่มขึ้น อิสราเอลก็ยินดีเป็นอย่างมากที่จะได้เห็นตัวประกันได้กลับคืนสู่ครอบครัวและบ้านเกิดในอิสราเอล และการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กดดันกลุ่มฮามาส แทนที่จะมากดดันรัฐบาลอิสราเอล ก็นับเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
ด้านฮามาสออกมาตอบโต้ข้อความข่มขู่ของทรัมป์ โดย ฮาเซม กัสเซม โฆษกของกลุ่มฮามาส กล่าวกับ CNN ว่า คำพูดดังกล่าวจะทำให้ “เรื่องราวเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิงมีความซับซ้อนมากขึ้น” และทำให้รัฐบาลอิสราเอลมีความกล้าที่จะหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงเดิม กัสเซมกล่าวว่าฮามาสได้ปฏิบัติตามพันธกรณีในระยะแรกภายใต้ข้อตกลงที่สหรัฐฯ เป็นตัวกลางแล้ว แต่รัฐบาลอิสราเอลต่างหากที่ "กำลังหลีกเลี่ยงการเจรจาในระยะที่สอง"
ชีวิตผู้คนในกาซาเป็นเดิมพันในเกมร้อนอิสราเอล-ฮามาส
กลุ่มให้ความช่วยเหลือและสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศยังเรียกร้องให้อิสราเอลรับรองการเข้าถึงด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซาด้วย หลังจากที่นายกรัฐมนตรีอิสราเอลสั่งปิดกั้นความช่วยเหลือทั้งอาหาร น้ำ ยารักษาโรคและอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการดำรงชีพของผู้คนในกาซา
สำนักงานประสานงานกิจการด้านมนุษยธรรม (OCHA) และกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (UNFPA) เตือนว่าห้องครัวชุมชนอย่างน้อย 80 แห่งเสี่ยงที่จะต้องปิดตัวลง หากการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมยังคงหยุดชะงักต่อไป โดยคาดว่าจะเกิดผลกระทบร้ายแรงต่อสตรีและเด็กผู้หญิงจากการถูกตัดความช่วยเหลือ
รัฐมนตรีต่างประเทศของสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และเยอรมนีเรียกร้องให้อิสราเอลปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศและอำนวยความสะดวกในการจัดส่งอาหาร น้ำ เวชภัณฑ์ และเชื้อเพลิงอย่างเร่งด่วนให้กับประชาชน 2.1 ล้านคนในกาซา เนื่องจากความช่วยเหลือเพื่อการช่วยชีวิตไม่ควรถูกใช้เป็นข้อแลกเปลี่ยนกับข้อตกลงหยุดยิงหรือถูกใช้ประโยชน์เป็นเครื่องมือทางการเมืองใด ๆ ทั้งสิ้น
