เมื่อวานนี้ (15 ตุลาคม) เกาหลีเหนือระเบิดถนนสายที่เชื่อมต่อกับเกาหลีใต้ ซึ่งเคยถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมือระหว่างสองเกาหลี โดยกองกำลังเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้ หรือ JCS เปิดเผยว่า กองทัพเกาหลีเหนือได้จุดชนวนระเบิด ซึ่งคาดว่า มีวัตถุประสงค์เพื่อตัดขาดถนนสายคยองอึยและดงแฮ เมื่อเวลาประมาณเที่ยงวัน และยังได้เคลื่อนไหวเพิ่มเติมด้วยการใช้เครื่องจักรหนักอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม JCS ยืนยันว่า กองทัพเกาหลีใต้ไม่ได้รับความเสียหายใดๆ และได้ตอบโต้ด้วยการยิงกลับไปในเส้นกำหนดเขตทหาร หรือ MDL เพื่อเป็นการป้องกันตนเอง และยังเป็นการส่งคำเตือนถึงเกาหลีเหนือว่า อาจจะกระทำการที่เป็นการละเมิดข้อตกลงสงบศึกอยู่ นอกจากนี้ ยังระบุว่า กำลังเฝ้าจับตาความเคลื่อนไหวทางการทหารของเกาหลีเหนืออย่างใกล้ชิด
สำหรับจุดที่เกิดระเบิดอยู่ห่างจากเส้น MDL ซึ่งเป็นเส้นสมมติแบ่งอาณาเขตของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ตรงกึ่งกลางเส้นกันชน เพียงแค่ราว 10 เมตรเท่านั้น และจากเหตุระเบิดทำให้ถนนได้รับความเสียหายไปหลายสิบเมตร
ก่อนหน้านี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กองทัพเกาหลีเหนือประกาศแผนการแบ่งแยกดินแดนเกาหลีเหนือออกจากเกาหลีใต้โดยสิ้นเชิง และบอกด้วยว่า เกาหลีเหนือได้แจ้งกองทัพสหรัฐฯเอาไว้แล้วเพื่อป้องกันความเข้าใจผิดและความขัดแย้ง
ทั้งนี้ สองเกาหลีเชื่อมโยงกันไว้ด้วยถนนและทางรถไฟตามแนวเส้นทางสายคยองอึย โดยเชื่อมระหว่างชายแดนตะวันตกของเมืองพาจู ประเทศเกาหลีใต้ ไว้กับเมืองคเยซองของเกาหลีเหนือ และแนวเส้นทางสายดงแฮที่ตั้งอยู่แนวชายฝั่งตะวันออก
สถานการณ์ตึงเครียดรอบนี้เริ่มขึ้น หลังจากที่เกาหลีเหนืออ้างเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า เกาหลีใต้ส่งโดรนเข้ามายังกรุงเปียงยางถึงสามครั้งในเดือนนี้ โดยคิม โยจอง น้องสาวของนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ได้ออกมาเตือนว่า อาจจะเกิดหายนะอันเลวร้ายขึ้นได้ หากโดรนของเกาหลีใต้เข้ามาบินเหนือท้องฟ้าเมืองหลวงเกาหลีเหนืออีกครั้ง
ด้านสหรัฐฯออกมาเรียกร้องให้เกาหลีเหนือยุติการกระทำที่อาจจะเพิ่มความเสี่ยง จนนำไปสู่ความขัดแย้งได้ โดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แมทธิว มิลเลอร์ เปิดเผยว่า สหรัฐฯกำลังเฝ้าจับตามองสถานการณ์ในเกาหลีเหนืออยู่อย่างใกล้ชิดร่วมกับพันธมิตรอย่างเกาหลีใต้ และเรียกร้องให้เกาหลีเหนือกลับเข้าสู่วิธีทางการทูตอีกครั้ง