มิชลิน ครองอันดับหนึ่ง 3 ปีซ้อน ผู้ผลิตยางรถยนต์จากธรรมชาติ

21 พ.ค. 67

Michelin ‘มิชลิน’ ผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยียางรถยนต์ระดับโลก รั้งตำแหน่งผู้ผลิตยางรถยนต์ที่ครองอันดับหนึ่งถึง 3 ปีติดต่อกันในการประเมินภาคอุตสาหกรรมยางธรรมชาติหรือยางพารา ซึ่งจัดทำโดย SPOTT ทั้งนี้ ในการประเมินผลประจำปี 2567 มิชลินรักษาความเป็นผู้นำในกลุ่มผู้ผลิตยางรถยนต์ที่มีคะแนนสูงสุดเอาไว้ได้ด้วยคะแนน 80.9% เพิ่มสูงขึ้น 0.8% เมื่อเทียบกับปี 2566

แพลตฟอร์ม SPOTT

แพลตฟอร์มประเมินผล SPOTT ที่ ZSL พัฒนาขึ้น ประกอบด้วยตัวชี้วัดด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environment, Social, Governance: ESG) ถึง 185 ตัว ซึ่งนำมาใช้ประเมินผลคะแนนของบริษัทหรือองค์กรในด้านนโยบายสาธารณะและพันธกิจที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล โดยข้อมูลที่ได้จากการประเมินช่วยให้ภาคการเงินและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในห่วงโซ่อุปทานสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผลคะแนนที่อยู่ในระดับสูงของมิชลินสะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินงานโดยยึดมั่นในมาตรฐานความโปร่งใสด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ตลอดจนในพันธกิจที่มีต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย ซึ่งการดำเนินงานด้วยความทุ่มเทดังกล่าวของมิชลินมีความโดดเด่นอย่างยิ่งในภาคอุตสาหกรรมยางธรรมชาติหรือยางพารา ซึ่งครอบคลุมทั้งกลุ่มผู้ผลิต ผู้แปรรูป และผู้ผลิตยางรถยนต์

MichelinMichelin

คะแนนรวมในการประเมินของ SPOTT

คะแนนรวมในการประเมินของ SPOTT มุ่งเน้นเรื่องการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ คุณภาพและขอบเขตของนโยบาย พันธกิจ ข้อมูลการดำเนินงาน และรายงานเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆ ที่บริษัทหรือองค์กรดำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมายที่กำหนด ทั้งนี้ ยิ่งคะแนนสูงมากเท่าใด ก็ยิ่งบ่งบอกถึงความโปร่งใสและคุณภาพมาตรฐานที่สูงมากขึ้นเท่านั้นในการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับองค์กร นโยบาย และแนวปฏิบัติเพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืน

การประเมินผล SPOT

การประเมินผล SPOTT ครั้งล่าสุด ซึ่งตีพิมพ์เผยแพร่เมื่อเดือนมีนาคม 2567 ได้ประเมินและให้คะแนนบริษัทและองค์กรที่ดำเนินงานเกี่ยวกับยางธรรมชาติหรือยางพารารวมทั้งสิ้น 30 ราย ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้ผลิตยางธรรมชาติและผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่ของโลกรวมอยู่ด้วย โดยมิชลินมีคะแนนสูงเป็นอันดับหนึ่งอยู่ที่ 80.9% เหนือกว่าผู้ที่ได้รับการประเมินในกลุ่มเดียวกันรายอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากคะแนนเฉลี่ยของภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่เพียง 43.5% สะท้อนให้เห็นถึงภาวะความเป็นผู้นำของมิชลินในเรื่องความโปร่งใสและการเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืน

MichelinMichelinMichelin


advertisement

ยานยนต์ คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม