โปรฯฉ่ำ! SUZUKI XL7 HYBRID รถ MPV อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง กับ 5 จุดเด่น
Suzuki ได้เปิดตัว SUZUKI XL7 HYBRID “Empower Your Journey” รถยนต์ Multi-Dynamic Crossover เทคโนโลยี Hybrid ออกมาแข่งขันในตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ขนาด 7 ที่นั่ง นับว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ผู้คนหันมาให้ความสนใจกับรถในกลุ่ม MPV มากยิ่งขึ้นแล้ว SUZUKI XL7 HYBRID ยังมีความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด ซึ่งประกอบไปด้วย 5 จุดเด่นหลัก พร้อมราคาโดนใจ 799,000 บาท
คอนเทนต์แนะนำ
5 จุดเด่น SUZUKI XL7 HYBRID
1. ห้องโดยสารกว้างขวาง ปรับใช้ได้อเนกประสงค์
ห้องโดยสาร SUZUKI XL7 HYBRID เบาะนั่งหุ้มด้วยผ้าตกแต่งด้วยหนัง แบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง ช่องวางเครื่องดื่ม 8 ตำแหน่ง โดยเบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถแยกพับอิสระแบบ 60:40 เลื่อนเพิ่มพื้นที่ห้องโดยสารได้กว้าง ส่วนเบาะนั่งแถวที่ 3 แยกพับอิสระแบบ 50:50 ซึ่งเมื่อพับเบาะแถว 2 และ 3 ราบกับพื้นห้องโดยสาร จะเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย จาก 550 ลิตร เป็น 803 ลิตร
การตกแต่งภายใน ดีไซน์คอนโซลแบบสปอร์ต ตกแต่งด้วยลายไม้ จอ LCD แสดงข้อมูลการขับขี่ Driving G-Force และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง หน้าจอกลางระบบสัมผัส ขนาด 10 นิ้ว พร้อมฟังก์ชันเอ็นเตอร์เทนเมนต์ รองรับการเชื่อมต่อความบันเทิงภายในตัวรถ แท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย พวงมาลัยเป็นทรง D-Shape ให้ความรู้สึกสปอร์ต มาพร้อมกับปุ่มแบบมัลติฟังก์ชันที่สามารถควบคุมเครื่องเสียง ปุ่มสั่งการโทรศัพท์ และ Cruise Control
2.ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงด้วย เทคโนโลยี Hybrid
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ รหัส K15B ขนาด 1.5 ลิตร กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 74.0 x 85.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.5:1 พละกำลัง 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับ Integrated Starter Generator (ISG) Hybrid และ แบตเตอรี่ Lithium-ion 10Ah 12V จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า ระบบ Hybrid ของซูซูกิ มอเตอร์ ISG (Integrated Starter Generator) แรงบิด 50 นิวตันเมตร หรือกว่า 36% ของแรงบิดเครื่องยนต์ จะเข้ามาช่วยเสริมกำลังในช่วงของการออกตัวและเร่งแซง ช่วยให้ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น เสริมให้ระบบ Idling Stop ทำงานได้ดี น้ำมัน 19.2 กม/ลิตร (ตามมาตรฐาน Eco Sticker)
แบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 10Ah 12V ติดตั้งในตำแหน่งสูง ปลอดภัยจากการขับขี่ในสภาพถนนที่มีน้ำท่วมขัง มีน้ำหนัก 7 กิโลกรัม ซึ่งไม่ได้ทำให้น้ำหนักของตัวรถเพิ่มขึ้นมากนัก รับประกันแบตเตอรี่นาน 5 ปี
3.สมรรถนะดี ช่วงล่างแกร่ง ลุยได้ทุกสภาพถนน
แพลตฟอร์ม HEARTECT เทคโนโลยีเฉพาะของซูซูกิ ที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะ และความปลอดภัย ช่วงล่างทำจากเหล็ก High Tensile และใช้โครงสร้างตัวถัง TECT ซึ่งทำจากเหล็กน้ำหนักเบา แข็งแรงทนทาน ระบบกันสะเทือน ด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สัน สตรัท พร้อมคอยล์สปริง ด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม พร้อมคอยล์สปริง สามารถขับขี่ได้ทุกสภาพถนน
4.ทนทาน บำรุงรักษาง่าย ค่าใช้จ่ายสมเหตุสมผล
มีความทนทานในการใช้งาน บำรุงรักษาง่าย ค่าใช้จ่ายต่อการเข้าเช็คระยะตามรอบในแต่ละครั้งราคาสมเหตุสมผล ต่ำกว่าท้องตลาด
5.ราคาไม่แพง เป็นเจ้าของง่าย ผ่อนสบาย
SUZUKI XL7 HYBRID จำหน่ายในราคา 799,000 บาท ออปชั่นและสมรรถนะคุ้มค่า มาตรฐานความปลอดภัย ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบเสริมแรงเบรก BA ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน Hill Hold Control ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX กล้องมองภาพขณะถอยจอด เซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหลัง กุญแจ Immobilizer และ ระบบสัญญาณกันขโมย
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเป็นเจ้าของได้ด้วยแคมเปญพิเศษ ซื้อรถ SUZUKI XL7 HYBRID ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 1-30 มิถุนายน 2567 เลือกรับข้อเสนอผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 7,888 บาท หรือ เลือกผ่อนนานสูงสุด 99 เดือน หรือ เลือกขับฟรี 90 วัน พร้อมฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรก และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วใมงอีกด้วย ทั้งนี้ เงื่อนไขต่างๆ เป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนดและสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมพร้อมทดลองขับได้ที่โชว์รูมรถยนต์ซูซูกิครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม 2563 ถึง เดือนเมษายน 2567 มียอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 8,788 คัน ซึ่ง SUZUKI XL7 HYBRID ขายรถยนต์ซูซูกิเติบโตขึ้น
