ลองขับ BYD Shark 6 AWD กระบะ PHEV น้ำมันเต็มถัง วิ่งไกลเกิน 8xx กม.

ลองขับครั้งแรก BYD Shark 6 รุ่นพวงมาลัยขวา กระบะ PHEV จาก BYD วางตำแหน่งตัวเองเป็นไลฟ์สไตล์ปิคอัพ รูปร่างขนาดใหญ่โต บึกบึนสมกับชื่อรุ่น ลุ้นเข้าไทยในปีนี้ เปอร์เซนต์ทำตลาดสูงมาก

ทดลองขับ BYD Shark 6

การทดลองขับในครั้งนี้ ทาง เรเว่ ออโตโมทีฟ ได้ชวนทีมงาน 34AUTO เข้าร่วมทดสอบรถที่เป็นเหมือนไฮไลท์ประจำปีนี้ของทางค่าย โดย Shark 6 คือหนึ่งในนั้น แต่ยังไม่ได้มีการยืนยันแบบหนักแน่นว่าจะทำตลาดในไทยทันปีนี้หรือไม่ แม้ตัวรถจะเป็นสเปคพวงมาลัยขวา เพราะรุ่นนี้ทำตลาดในออสเตรเลียไปแล้วนั่นเอง

สัมผัสแรกที่ได้เห็น BYD Shark 6 เป็นรถที่มีดีไซน์ดุดัน บึกบึน แม้ทีมวิศวกรจะพยายามอธิบายให้เรามองภาพของความอ่อนไหวเหมือนการเคลื่อนไหวของปลาฉลาม แต่ภาพตรงหน้าที่เราเห็นคือความดุดันของตัวรถแบบเต็มดีกรี มิติตัวรถขนาดใหญ่ เหลี่ยมสันชัดเจน ทำให้ตัวรถดูโดดเด่นและดุดันเอามากๆ

ภายในตกแต่งให้ความรู้สึกในสไตล์ของรถสายลุย โดยมันมีความพรีเมียมกว่ารถกระบะทั่วไปอย่างสุดขั้ว โดยเฉพาะระบบช่วงล่างที่จัดมาแบบปีกนกคู่ทั้งหน้า-หลัง ทำให้เราตื่นเต้นที่จะได้ลองขับมันมาก ด้านขุมพลังเป็นแบบปลั๊กอินไฮบริด ซึ่งคาดว่าปีนี้ในบ้านเราจะมีหลายๆ รุ่นเข้ามาทำตลาดจากแบรนด์ต่างๆ มากมายแน่นอน

โดยใน Shark 6 คันที่ทดลองเป็นรุ่น 2 มอเตอร์แบบ AWD มากับเครื่องยนต์ขนาด 1.5T ที่จะทำหน้าที่ทั้งปั่นไฟ และช่วยเหลือในบางช่วงของการขับขี่ โดยการส่งพละกำลังลงที่ล้อคู่หน้าเท่านั้น ปล่อยให้ล้อคู่หลังเป็นหน้าที่ของมอเตอร์ไฟฟ้าเพียวๆ

หลังจากถึงเวลาทดลองขับ เราได้หวดเต็มๆ พบว่าในขณะออกตัวแบบมิดคันเร่ง ล้อด้านหลังแทบจะมีอาการฟรีเบาๆ แทบทุกครั้ง ด้วยแรงบิดรวมที่มหาศาลของรถ แม้ตัวรถจะไม่ได้พุ่งทะยานแบบรถไฟฟ้าที่แรงม้าสูงๆ แต่มันก็พุ่งชนิดที่รถกระบะดีเซลทาบไม่ติดแน่นอน ส่วนความเร็วสูงนั้น เรามีโอกาสได้ลองสั้นๆ เท่านั้นในช่วงทางตรงของสนามพีระเซอร์กิต ก็พบว่า มันมีความนวลของสปีดที่เพิ่มขึ้น ถือว่าควบคุมตัวรถได้ไม่อยากเลยกับอาการแบบนี้

ในส่วนของช่วงล่างกันบ้างที่บอกว่า ว้าว ไม่น้อยกับสิ่งที่ใส่มาให้ กับปีกนกคู่ทั้ง 4 ล้อ โดยไม่มีแหนบแต่อย่างใด ทำให้ตัวรถมีความนุ่มแบบชัดมาก และมันส่งผลกับความโยนในขณะเข้าโค้งที่ความเร็วประมาณ 60-80 กม./ชม. อาจต้องเบาสักหน่อยในลักษณะแบบนี้ และอีกจุดที่ต้องแลกมากับความนุ่มนวลนั่งสบาย คือน้ำหนักการบรรทุกที่ทำได้ราวๆ 750 กก. เท่านั้น เรียกว่าเป็นกระบะที่ยังไม่พร้อมบรรทุกหนัก แต่เน้นการเดินทางในที่ยากลำบากเป็นหลักนั่นเอง

แต่อย่างไรก็ดี ระยะต่ำสุดจากพื้นของ BYD Shark 6 นั้นถือว่าสูงน้อยกว่ารถกระบะยกสูงทั่วไป อยู่ราว 200 มม. เท่านั้น ก็ย่อมทำให้มีข้อดีในเรื่องของบาลานซ์ และการทรงตัวในย่านความเร็วอย่างแน่นอน ซึ่งก็ต้องบอกว่าช่วงล่างมีความนิ่งในระดับที่ต้องยกนิ้วให้ ยกเว้นความนุ่มที่มันโยนขณะเข้าโค้งที่คนขับต้องรับผิดชอบตัวเองสักนิดเท่านั้น แต่ก็เป็นรถกระบะที่อยากนำมาทดสอบการใช้งานจริงบนถนนในเร็ววันนี้เหลือเกิน เพราะช่วงล่างยังมีข้อสงสัยอีกเล็กน้อยว่าถ้าไม่เน้นบรรทุกหนัก ก็อยากให้มันเทพด้านการโดยสารเดินทางไปเลย ถ้าทีมงาน 34AUTO มีโอกาสทดสอบเจ้าฉลามยักษ์คันนี้แบบจริงจังอีกรอบ จะรีบนำมาบอกเราให้ผู้ชม และผู้อ่านได้รับทราบกันโดยเร็ว

สำหรับคลิปทดลองขับ BYD Shark 6 รอติดตามได้เร็วๆ นี้

สมรรถนะและระบบขับเคลื่อน

• ระบบขับเคลื่อนแบบ Plug-In Hybrid DM-O
• เครื่องยนต์ 1.5T + ระบบ EHS (Electric Hybrid System) กำลัง 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 260 นิวตัน-เมตร
• มอเตอร์หน้า 170 กิโลวัตต์/231 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 310 นิวตัน-เมตร
• มอเตอร์หลัง 150 กิโลวัตต์/204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 340 นิวตัน-เมตร
• มอเตอร์ไฟฟ้า 3-in-1 กำลังรวมสูงสุด 321 กิโลวัตต์/436 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 650 นิวตัน-เมตร
• อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.7 วินาที
• ระบบขับเคลื่อน AWD พร้อมการกระจายแรงบิดอัจฉริยะ
• สมรรถนะการลากจูงสูงสุด 2.5 ตัน และบรรทุกได้ 790 กก.
• วิ่งด้วยไฟฟ้าสูงสุด 100 กม. (NEDC)
• แบตเตอรี่ BYD Blade Battery 29.58 kWh
• ชาร์จ DC 30%-80% ใน 25 นาที

ดีไซน์ภายนอก

• ไฟหน้าแบบ LED พร้อมฟังก์ชัน Follow-me-home และ ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน
• ไฟท้าย LED พร้อมไฟเลี้ยวด้านหลังแบบ Sequential และไฟท้ายบรรทุก 3 จุด
• ไฟตัดหมอกด้านหน้าและด้านหลัง
• ตัวถังทำจากเหล็กความแข็งแกร่งสูง 78% ช่วยเสริมเรื่องความแข็งแรงของตัวรถ ช่วยลดน้ำหนักของรถ
• ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้วและยางขนาด 265/65 R18

ดีไซน์ภายในห้องโดยสาร

• หน้าจอเรือนไมล์ผู้ขับขี่แบบ LCD ขนาด 10.25 นิ้ว
• หน้าจอสัมผัสระบบมัลติมีเดียขนาด 15.6 นิ้ว
• ระบบแสดงผลบนกระจกหน้า (W-HUD)
• เบาะนั่งผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบพนักพิงดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง
• กระจกหน้าต่างคู่หน้าแบบกันเสียง และกระจกผู้บริหารคู่หลัง
• เครื่องเสียง DYNAUDIO ลำโพง 12 ตำแหน่ง

ระบบช่วงล่างและการขับขี่

• ช่วงล่างด้านหน้าและด้านหลังแบบปีกนกคู่ (Double Wishbones) พร้อมระบบเบรกแบบเบรกดิสก์ระบายอากาศ
• ประสิทธิภาพออฟโรด มุมไต่ 31°
• ความสามารถลุยน้ำได้สูงสุด 700 มม.

มิติตัวรถ

• ยาว 5,457 x กว้าง 1,971 x สูง 1,925 มม.
• ฐานล้อ: 3,260 มม.
• ระยะต่ำสุดจากพื้น 200 มม.
• กระบะท้ายความจุ 1,200 ลิตร พร้อมแหล่งจ่ายไฟ 220V (สูงสุด 6kW)

ระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่

• ความปลอดภัย: AEB, ESC, TCS, EBD, HDC, FCW, RCW, RCTA, RCTB, FCTA, FCTB, ELKA, BSD, DOW
• ถุงลมนิรภัย: คู่หน้า, ด้านข้างคู่หน้า, ม่านถุงลมนิรภัยด้านหน้าและด้านหลัง และถุงลมนิรภัยระหว่างผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า
• กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา
• Adaptive Cruise Control (ACC) และ Intelligent Cruise Control (ICC)
• เซ็นเซอร์ช่วยจอด (หน้า 2 จุด, หลัง 4 จุด)